บทที่ 2736
ในขณะเดียวกัน ซูโสว่เต้าก็ผ่านการนั่งเครื่องมาทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดก็มาถึงซีเรีย
เขาไม่เหมือนกับเยเฉิน ที่มีเครื่องบินคองคอร์ด เขาหได้เยงแค่บินไปยังตะวันออกกลาง หลังจากลงจอดที่ตรก็ ก็ข้ามพรมแดนโดย
การจราจรบนถนนในตอนกลางคืน เพื่อเข้าไปที่เขดทางตอนเหนือของซีเรีย
ในตอนที่ซูโสว์เต้ามาถึงชีเรีย เขาแทบอยากตายให้รู้แล้วรู้รอดไป
เพราะเขาเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย รถพาเขาล้ดเลาะมาตามเมือง ซึ่งมันทำให้เขาตกใจกับประเทศที่กร้างแห่งนี้มาก
ประเทศที่ถูกทำลายล้างแห่งนี้ เต็มไปด้วยทะเลทราย เนินเซา และชากปรักหักพังของหมู่บ้านและเมืองต่างๆ
ทะเลทรายและภูเขาที่ไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้เขานึกถึงบทกวีในโบราณได้ทันที ทะเลทรายกว้างใหญ่กลุ่มควันพวยพุ่ง
หลังจากที่เดินทางลึกเข้าไปในชีเรียหลายร้อยกิโลเมตร ภายในใจของเขากัรับรู้อะไรบางอย่าง นั่นก้คือ ถ้เย่เฉินไม่พยักหน้า ทั้งชีวิต
ของตัวเองก็ไม่มีทางอกจากซีเรียได้ อย่าว่าแต่ตนไม่มีแม้แต่คนรู้จักที่นี่ นับประสาอะไรกับเขาที่ใบหน้าแตกต่างจากคนที่นี่ ก็ลิขิตชะตาจะออก
จากประเทศนี้ได้ยาก
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ภายในใจของเขาก็รู้สิกสิ้นหวังมาก
เดิมที่เขาคิดว่า ความสิ้นหวังของตนได้แทรกซึมไปจนถึงร่องมาเรียนแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะสิ้นหวังมากไปกว่าอิก ในที่สุดเขาก็มาถึงเขต
ติดอาวุธที่จอมพลคามมีตยึดครอง
เมื่อรถแล่นไปในหุบเขา ป้อมปราการบนภูเขาทั้งสองข้างก็กำลังสร้างอย่างเต็มกำลัง
เพื่อนของซามืดที่ทำงานในทีมก่อสร้างในอิรัก เห็นแก่เงินทอง จึงใช้เวลาเพียงสิบชั่โมงก็มาถึงซิเรีย ตอนนี้กำลังเริ่มสั่งการคนงาน รวม
ถึงทหารช่างที่ฮามิดพึ่งรวมทิ่มเมื่อคืน ร่วมมือกันเร่งก่อสร้าง
ซูโสว่เต้มองดูหุบเขารกร้างที่อยู่เบื้องหน้าของเขา ทหารติดอารที่อยู่บริเวณโดยรอบ รามถึงป้อมปราการที่กำลังก่อสร้างอย่างขยันขัน
แข้ง ภายในใจของเขาแทบอยากจะกริดร้อง
“ที่มันคือที่ไหนกันเนี่ย? ! ”
“ที่ตั้งอยู่ในภูเขานับหมี่นลูก การจราจรติดขัด และระดับการพัฒนายังด้อยกว่าหมู่บ้านบนภูเขาเล็กๆในประเทศจีนอยู่มาก……
“คนที่ไม่รู้ ยังคิดว่าที่นี่เป็นฐานที่อยู่เบื้องหลังแนวข้าศึกในช่วงสงครามต่อต้านญี่ปุ่น…..”
ซูโสว่เต้าครุ่นคิดอย่างร้องไม่ออก ถ้าละครเรื่อง Drawing Swordย้ายมาถ่ายทำที่นั่ มันคงจะเหมือนจริงมากกว่าเวอร์ซันที่ออกอากาศ
ทางทิริในปัจจุบันอย่างแน่นอน!
ในขณะที่เขาร้องไม่ออกอยู่นั้น ขบวนรถที่นำโตยรถจี๊ปเปิดประทุนของทหาร ได้หยุดอยู่หน้าคำสั่งของฮามิด
รถพึ่งจอดสนิท ฮามิดที่สวมชุดลายพรางก็เดินออกมาอย่างตื่นเต้น
คนที่ส่งซูโสว์เต้ามา ก้คือลูกน้องของเฉินงื่อขาย แต่ฮามิดไม่รู้จักเฉินอขาย เขารู้แค่ว่า ในบรรดาของคนที่มาที่นี่ มิคนที่เปเฉินฝากให้
เขา”เลี้ยงดู”คนหนึ่ง ที่เหลือ ต้องเป็นลูกน้องของเย่เฉินอย่างแน่นอน
เย่เฉินไม่ใช่ผู้มิพระคุณของเขาอย่างเดียว เขายังเป็นฉ่สิ่งเอี้ย และยังเป็นผู้ปัญชาการยุทธศาสตร์ ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างเคารพลูกน้อง
ของเย่เฉิน หวังร่ำจะสามารถทำให้ลูกน้องของเย่ฉินเดารพเขากลับ ด้วยการกระทำของเขาเอง
เมื่อเห็นฮามิดก้าวเท้าเข้ามาอย่างรวดเร็ว ซูโสว่เต้าก็รู้สึกหัวใจกระตุกเล็กน้อย
เขาคิตในใจ”ไอ้หมอนี่ท่าทางไม่ธรรมดา น่าจะเป็นลูกพี่ใหญ่ของที่นี่”
ในตอนที่ฮามิดเดินออกมา ซูโสว่เต้าก็ถูกลูกน้องของเฉินจื่อข่ายลากลงมาจากรถ
และเมื่อเห็นคนผิวเหลืองขาวเอเซีย ฮามิดก็รีบใช้ภาชาจีนพูดด้วยรอยยิ้มออกไปว่า”ทุกท่านน่จะเป็นลูกน้องของน้องเย่ ยินดีต้อนรับ ทุก
ท่านครับ! ”
เมื่อทุกคนสบตากัน อดไม่ได้ที่จะจ้องมองหน้าก้น
ในความทรงจำของพวกเขา ยินตี้ต้อนรับ สโลแกนอะไรแบบนี้ มักจะมาจากเยาวซนที่ ใบหน้าที่มีแก้มสีแดงระเรื่อ บนฅอผูกผ้าพันคอสี
แดง ในมือถือพวงดอกไม้คอยตะโกนสโลแกนนี้
แต่คิตไม่ถึงจริงๆว่า คำพูดนี้จะออกมาจากยุนศึกชาวตะวันออกกลางที่เคราะรกรุงรัง รูปร่างใหญ่โต
คนที่เป็นหัวหน้า ก็คือมือซ้ายมือขวาของเฉินจี๋อข่าย ชื่อว่าจ้าวอื่นเซิง