คำพูดกล่าวตำหนิของซูจือหยู ทำให้ซูจือเฟยรู้สึกปวดหัวมากขึ้น

เขาอดที่จะถามซูจือหยูในใจไม่ได้ว่า“ปู่อยากฆ่าแม่ก็จริง แต่แม่ไม่มีความผิดเลยหรอ?”

“เธอในฐานะที่เป็นลูกสะใภ้ของตระกูลซู ในสมองกลับคิดถึงแค่ไอ้คนแซ่เย่ที่ตายไปแล้ว อีกทั้งยังไปร่วมประมูลบ้านที่ไอ้คนแซ่เย่เคยอยู่อย่างเปิดเผย นี่มันคือการไม่ไว้หน้าตระกูลซูไม่ใช่หรอ?”

“นอกจากนี้ ทุกคนต่างเป็นผู้ใหญ่แล้ว ความโกรธแค้นมันสำคัญมากไหม?ตระกูลซูมีทรัพย์สมบัตินับล้านล้าน หรือเพราะคุณปู่ลงมือทำร้ายแม่อย่างโหดเหี้ยม เราถึงกับจะต้องแตกหักกับเขา?”

“แตกหักกับเขา ก็เท่ากับว่าแตกหักกับทรัพย์สมบัตินับล้านล้านของตระกูลซู สุดท้ายแล้วคนที่เสียเปรียบก็เป็นพวกเราเองไม่ใช่หรอ?”

“ถ้าเสียงอำนาจการสืบทอดทรัพย์สมบัติของตระกูลซูไป อนาคตข้างหน้าเธอกับฉันจะเป็นยังไงต่อไป?”

“เธออย่าลืมนะ เราแซ่ซู ไม่ได้แซ่ตู้ หรือเธอยังคาดหวังว่าคุณตากับคุณยายจะแบ่งมรดกเราอย่างงั้นหรอ?”

แต่ว่า คำพูดแบบนี้ ซูจือเฟยได้แต่แอบบ่นในใจ ไม่สามารถพูดกับน้องสาวได้

เพราะในใจของเขารู้ดี น้องสาวคนนี้ เป็นคนที่มีความคิดรู้ถูกผิดแรงกล้ามาก จนน่ากลัว แทบจะไม่มีช่องว่างให้ไกล่เกลี่ย ถ้าตนพูดออกไปตรงๆ ไม่เพียงแต่เธอจะไม่รับฟัง กลับกันยังจะแตกคอกับตนเองก็เป็นได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจของซูจือเฟยก็รู้สึกทุกข์ใจมาก เขาแอบพูดในใจว่า“เห้อ เธอเหมาะกับชื่อจือเฟยมากกว่าฉันอีก”

ในใจกำลังคิด แต่ปากของซูจือเฟยกลับเห็นด้วยกับความคิดนี้ของซูจือหยู แล้วพยักหน้ากล่าวว่า“จือหยู เธอพูดถูก เรื่องแบบนี้ ให้อภัยไม่ได้จริงๆ อย่าว่าแต่เธอเลย ฉันก็ไม่มีทางให้อภัยเหมือนกัน”

ซูจือหยูไม่ได้พูดอะไร เธอรู้ดี ที่พี่ชายพูดแบบนี้ จะต้องมีอย่างอื่นอีกแน่

เป็นไปตามคาด

ซูจือเฟยเปลี่ยนบทสนทนา แล้วอุทานว่า“แต่ว่า พี่ขอพูดตามตรงนะ เราแตกคอกับคุณปู่ ไม่มีอะไรดีหรอก ไม่สามารถทำให้เขาได้รับโทษอะไรหรอก”

ชะงักไปครู่หนึ่ง ซูจือเฟยก็กางมือออก“แค่ใช้สิ่งที่เธอพูดเมื่อกี้ว่าจะให้เขารับโทษทางกฎหมาย นี่มันเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ คุณท่านทำอะไรรอบคอบ ไม่ได้ระมัดระวังไฟแค่เพียงทางเดียว เธอบอกว่าเขาจงใจฆ่าคน มีหลักฐานอะไรไหม?”

“ขอแค่เราไม่มีหลักฐาน เขาสามารถพูดได้ว่าเป็นการจงใจหมิ่นประมาท ถ้าไม่ไหวจริงๆสามารถไปหาใครก็ได้มาเป็นแพะรับบาป!”

“เขาสามารถหาแพะรับบาปได้มากมาย ขอแค่คำพูดของเขาประโยคเดียว ไม่รู้ว่ามีคนมากแค่ไหนที่ยอมเป็นแพะรับบาปให้เขา เธอรู้ไหมว่าซูอานสุ้นช่วยคุณปู่เลี้ยงแพะรับบาปกับตัวตายตัวแทนเยอะแค่ไหน?นับยังนับไม่ได้เลย!นี่เป็นกำแพงไฟของคุณท่านทั้งหมด!”

“ถ้าเราไม่มีข้อมูลของตระกูลซูและเส้นสาย อย่าว่าแค่ล้มคุณท่านเลย แม้แต่ซูอานสุ้น เราก็ไม่มีทางล้มได้หรอก!”

ซูจือหยูเอาแต่ฟังอยู่เงียบๆ หลังจากที่รอซูจือเฟยพูดจบ เขาก็ถามกลับไปว่า“ฉันพูดเมื่อไรว่า จะล้มเขาน่ะ?”

ซูจือเฟยถามขึ้นมาอีกว่า“ถ้าอย่างงั้นเธอต้องการอะไร?”

ซูจือหยูพูดอย่างจริงจังว่า“ถ้าฉันฟ้องเขา เขาอาจจะมีวิธีหนีได้หลายวิธี แต่พี่ต้องรู้ว่า ถ้าฉันไม่ฟ้อง เขาไม่จำเป็นต้องหนีด้วยซ้ำ!สิ่งที่ฉันต้องการคือ ความถูกต้อง!เป็นความถูกต้องในหลายๆด้าน!ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ของความถูกต้องแค่อย่างเดียว ยังมีขั้นตอนที่ถูกต้อง ขั้นต้องถูกต้อง!ฉันรู้ดี ผลลัพธ์ของความถูกต้องนั้นยากมาก แต่ขั้นตอนที่ถูกต้องอยู่ในขอบเขตความสามารถของฉัน ดังนั้น วันนี้ฉันจะเริ่มฟ้องเขา!”

ซูจือเฟยถึงกับปวดหัว

เขารู้ดี ความจริงแล้วซูจือหยูไม่ได้มีผลกระทบอะไร

เพราะตระกูลซูเก็บซ่อนข้อมูลของลูกหลานไว้อย่างดี

คนภายนอกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกหลานของตระกูลซูชื่ออะไร แน่นอนว่าไม่รู้เช่นกันว่าใครคือซูจือเฟยหรือซูจือหยู