ซูเฉิงเฟิงฝืนทนกับการเฉือนเนื้อ ทำให้ซูจือหยูที่อยู่ปลายสายถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก
งานแถลงข่าวที่ว่ามานั้น ผลลัพธ์ที่เรียกว่าความถูกต้อง ขั้นตอนของความถูกต้อง สำหรับเธอในเมื่อก่อนแล้ว มันเป็นสิ่งที่ไม่อนุญาตให้ผสมปนกันได้
แต่สำหรับเธอในตอนนี้ ขอแค่สามารถทำให้ผลลัพธ์ที่เธอต้องการเป็นจริงได้ ตนก็สามารถยอมแพ้ก้าวถอยให้ได้
แต่ผลลัพธ์ที่เธอต้องการจริงๆ ก็คือกิจการขนส่งทางทะเลของตระกูลซู
ถึงแม้ว่ากิจการนี้จะกำลังประสบปัญหา เนื่องจากการกระทำของซูเฉิงเฟิง แต่ซูจือหยูมั่นใจว่าจะสามารถฟื้นฟูกิจการนี้กลับมาได้
ธุรกิจขนส่งทางทะเลมีผลกำไรที่สูงมาก มีศักยภาพดี และเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มมากที่สุดในตอนนี้
อีกทั้ง ตอนนี้กิจการด้านนี้ของตระกูลซูได้รับผลกระทบหนัก ไม่สามารถฟื้นฟูได้ การขอกิจการนี้กับคุณท่าน เขายังพอสามารถกัดฟันให้ได้
แต่ถ้าตนไปถามกิจการที่ยังสามารถดำเนินการอย่างราบรื่น ผลกำไรสูง เขาอาจจะไม่ตกลงก็ได้
ดังนั้น ซูจือหยูจึงพูดกับซูเฉิงเฟิงว่า“คุณปู่คะ ในเมื่อเราบรรลุข้อตกลงกันแล้ว งั้นรบกวนให้ซูอานสุ้นมาที่นี่ก่อนฟ้ามืดด้วยค่ะ เพื่อเซ็นสัญญา ก่อนที่งานแถลงข่าวจะเริ่มต้นขึ้น”
ซูเฉิงเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบตอบตกลง“ปู่จะให้ซูอานสุ้นนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปเดี๋ยวนี้แหละ เร็วสุดหนึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว！”
ซูจือหยูกล่าว“ได้ค่ะ งั้นหนูจะรอพ่อบ้านซูนะคะ”
ซูเฉิงเฟิงวางสายไป ใบหน้าของเขามืดหม่นจนถึงที่สุดแล้ว
ปากของเขาอดที่จะบ่นพึมพำไม่ได้ว่า“จือหยู ปู่อยากให้แกมีความสุขเหมือนปลา แต่คิดไม่ถึงว่าแกกลับเป็นคนไม่รู้จักพอ！พอจับจุดอ่อนของฉันได้ ก็คิดจะกัดเนื้อก้อนใหญ่ของฉันไป หลานสาวที่น่ารักอย่างแก ทำให้ฉันเปลี่ยนแปลงมุมมองไปเลย！”
พูดจบ เขาก็กัดฟันกรอด ยกหูโทรศัพท์บ้านที่อยู่บนโต๊ะ กดปุ่มแล้วโทรออก พลางกล่าวว่า“อานสุ้น มาที่ห้องหนังสือของฉันหน่อย！”
ผ่านไปครึ่งนาที ซูอานสุ้นก็เคาะประตูห้อง แล้วผลักประตูเข้ามา ถามอย่างนอบน้อมว่า“คุณท่านมีอะไรรึเปล่าครับ？”
ซูเฉิงเฟิงสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา“แกไปพาผู้จัดการด้านกฎหมายของฉันมา หลังจากนั้นให้เอาเอกสารทั้งหมดของบริษัทขนส่งทางทะเลของเรา รวมถึงข้อบังคับและตราประทับมาด้วย แล้วรีบไปที่จินหลิง”
ซูอานสุ้นถามอย่างไม่เข้าใจ“คุณท่านครับ ท่านให้ผมเอาเอกสารพวกนี้ไปที่จินหลิงกับเขาทำไมครับ？”
ซูเฉิงเฟิงกัดฟันกรอดแล้วกล่าวว่า“ฉันบอกให้พวกแกไปที่จินหลิง เพื่อเปลี่ยนบริษัทจนส่งทางทะเลให้กับซูจือหยู จากนี้ไปบริษัทขนส่งทางทะเลจะเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว”
“ห้ะ？！”ซูอานสุ้นแทบจะอ้าปากค้างตกถึงพื้นอยู่แล้ว เขาโพล่งออกไปว่า“คุณท่านครับ ทะ……ท่าน……ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมครับ？！บริษัทขนส่งทางทะเลใหญ่ขนาดนี้ ให้กันง่ายๆแบบนี้เลยหรอครับ？！”
ซูเฉิงเฟิงถามกลับ“ไม่อย่างงั้นล่ะ？จือหยูเจ้าเด็กคนนี้กำลังมีอนาคตสดใส！ชื่อเสียงของฉันจากนี้ไปจะอยู่ในกำมือของเธอ อีกทั้งถ้าเธอประกาศให้ฉันมอบตัว ต่อหน้าสาธารณชน แล้วฉันจะจัดการเรื่องนี้ยังไง？จากนี้ไปฉันก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องจะพลิกตัวกลับมาแล้ว！”
“อีกทั้ง เด็กคนนี้ยังมียอดฝีมือลึกลับอีกคนที่คอยหนุนหลัง ตอนนี้ฉันยังไม่มั่นใจว่า ตกลงจะสามารถจัดการเขาก่อนหน้าที่ฉันจะต้องเจอปัญหาได้รึเปล่า！”
ซูอานสุ้นรีบถามว่า“คุณท่านครับ ซวนเฟิงเหนียนที่มาจากอังกฤษเขาอยู่ที่จินหลิงไม่ใช่หรอครับ？ทางด้านเขามีความคืบหน้ายังไงบ้างครับ”
“ยังไม่มี”ซูเฉิงเฟิงกล่าว“ถึงแม้จินหลิงจะเป็นเมืองที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่มีประชากรนับสิบล้านคน อยากจะหาคนสักคนมันเป็นเรื่องที่ยากมาก ยังต้องให้เวลาเขาอีกหน่อย！”
ซูอานสุ้นรีบพูดขึ้นมาว่า“คุณท่าครับ！ผมคิดว่า สู้ท่านโทรหาเหอหงเซิ่งด้วยตัวเองดีกว่า ตาแก่นี่ตอนนี้ยังเป็นนักบู๊สี่ดาวอีก ถ้าพูดโน้มน้าวเขาได้ และให้เขามาเป็นผู้คุ้มกันส่วนตัวได้ ท่านก็จะได้รับประกันความปลอดภัย อีกทั้งไม่ต้องกลัวว่ายอดฝีมือคนนั้นจะมาตามรังควานท่าน”
ซูเฉิงเฟิงถอนหายใจ“ก่อนหน้านี้เหอหงเซิ่งไม่เหลือที่ไว้ให้เลย ฉันว่าเขาต้องวาดเส้นแบ่งเขตกับฉันอย่างแน่วแน่แล้วล่ะ ถึงไปขอร้องเขาตอนนี้ มีความเป็นไปได้มากว่าจะไม่มีประโยชน์อะไร”
พูดจบ ซูเฉิงเฟิงก็พูดขึ้นมาอีกว่า“ถึงเหอหงเซิ่งจะมีโอกาสทางนี้ ไม่มีทางหาวิธีบุกทะลวงได้ภายในระยะเวลาสั้นๆเป็นแน่ ดังนั้นแกไปที่จินหลิงก่อนเถอะ เอาบริษัทขนส่งทางทะเลส่งมอบให้จือหยูก่อน ทำให้เธอสงบ แล้วผ่านอุปสรรควันนี้ไปอย่างปลอดภัย”
ซูอานสุ้นทำได้แค่พยักหน้า แล้วพูดอย่างนอบน้อมว่า“ได้ครับคุณท่าน ผมจะออกเดินทางเดี๋ยวนี้แหละครับ！”
ในขณะเดียวกัน
เย่เฉินได้รับโทรศัพท์จากเหออิงซิ่ว
ครั้งนี้ตระกูลเหอได้เลือกสมาชิกที่แข็งแกร่งสิบคน มีพรสวรรค์ที่สุด และมีความจงรักภักดีมากที่สุด เตรียมเดินทางไปที่จินหลิงเพื่อรายงานกับเขา
จากสิ่งที่เหออิงซิ่วพูด ครั้งนี้เขาพึ่งบุกทะลวงเส้นลมปราณเส้นที่สี่ เหอหงเซิ่งได้กลายเป็นนักบู๊สี่ดาว ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในสิบคนไปด้วย
เย่เฮินไม่ได้รู้สึกว่า ตระกูลเหอเป็นคนอย่างไร เนื่องจากเขาไม่ได้ต้องการให้คนของตระกูลเหอมาสละชีวิตเพื่อตนเอง
แต่ว่า พอได้ยินข่าวที่ว่าคุณท่านตระกูลเหอออกโรงด้วยตัวเอง มันทำให้เย่เฉินรับรู้ได้ถึงความจงรักภักดีของตระกูลเหอ
เพราะคนของตระกูลเหอจะมาถึงคืนนี้ ดังนั้นเย่เฉินจึงมาที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงโดยเฉพาะ เพื่อนำข่าวนี้มาบอกกับซูรั่วหลี