ในขณะที่เย่เฉินและทุกคนกำลังมีช่วงเวลาที่ดีในเทียนเซียงฝู่ ซูจือหยูก็ได้จัดงานแถลงข่าวสั้นๆ ทางออนไลน์
งานแถลงข่าวเป็นการถ่ายทอดสดผ่านสื่อออนไลน์ และสถานที่ถ่ายทอดสดของจือหยูได้เลือกห้องหนังสือโบราณในบ้านเก่าของตระกูลตู้
ตอนแรกทุกคนเชื่อว่าเธอจะประณามซูเฉิงเฟิงต่อหน้าสาธารณชนในการแถลงข่าว
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจก็คือ ซูจือหยูดูมีท่าทีสงบนิ่งมากและไม่มีความก้าวร้าวเลย
ในช่วงเริ่มต้นของการแถลงข่าว ซูจือหยูลุกขึ้นยืนและพูดกับกล้องว่า “สวัสดีทุกท่าน ฉันชื่อซูจือหยู ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงเป็นใยของทุกคนในช่วงเวลานี้ ฉันจัดงานแถลงข่าวนี้เพื่อบอกเพื่อนๆ ทุกคนที่ห่วงใยฉันและแม่ของฉัน ฉันกับแม่ คุณตู้ไห่ชิง ตอนนี้กลับคืนสู่ชีวิตครอบครัวตามปกติแล้ว พวกเราสุขภาพแข็งแรงมาก ทุกคนได้โปรดวางใจ”
จากนั้นเธอเสริมอีกว่า “แม่กับฉันไม่ใช่บุคคลสาธารณะ ดังนั้นฉันต้องขอโทษประชาชนทั่วประเทศที่ตัวฉันและแม่ของฉันที่ใช้ทรัพยากรส่วนรวมมากมาย”
จากนั้นเธอก็บอกเล่าประสบการณ์ของแม่และเธอในอุบัติเหตุทางรถยนต์คร่าวๆ
เธอไม่ได้พยายามปิดบังความจริงอะไรมากเกินไป กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตพาเธอและแม่ของเธอออกจากอุโมงค์ภูเขาจื่อจินซาน และให้การรักษาสองแม่ลูกอย่างมืออาชีพ หลังจากที่ทั้งสองหายดีแล้ว ก็จะกลับมาที่เมืองจินหลิงอย่างเป็นทางการ
บางคนต้องการทราบตัวตนของผู้มีพระคุณช่วยชีวิต แต่ซูจือหยูประกาศว่าเธอไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเช่นกัน
นอกจากนี้ ตนเองยังได้สัญญากับผู้มีพระคุณช่วยชีวิตที่จะไม่เปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับเขาต่อหน้าสาธารณชน
ส่วนที่ว่ามีคนถามเธอ ว่าจะทวงความรับผิดชอบจากซูเฉิงเฟิงปู่ของเธอหรือไม่ คำตอบของซูจือหยูคลุมเครือมาก “คำถามนี้ ฉันยังไม่อยากตอบในตอนนี้ค่ะ”
ชาวเน็ตยังอยากเห็นบทหลานสาวฉีกหน้าคุณปู่ ถึงอย่างไรเมื่อมีการสนับสนุนจากความสนใจและความเห็นอกเห็นใจของประชาชนทั่วประเทศ ซูจือหยูจะสามารถผลักตัวการก่อเหตุอย่างซูเฉิงเฟิงลงไปในขุมนรกได้อย่างง่ายดาย
ราวกับว่าคนทั้งประเทศได้ใช้แรงสนับสนุนของตัวเอง ช่วยสร้างปืนที่อยู่ยงคงกระพันให้กับซูจือหยู ทันทีที่ซูจือหยูเหนี่ยวไก จะทำให้ซูเฉิงเฟิงบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคาดคิดว่าในที่สุดซูจือหยูเลือกที่จะละทิ้งไกปืนในมือ!
คนนับไม่ถ้วนผิดหวัง และแน่นอนก็มีหลายคนเข้าใจซูจือหยู
บางครั้งฝ่ามือและหลังมือก็เป็นเนื้อเหมือนกัน ในเมื่อเธอและแม่ปลอดภัย จึงเป็นการดีกว่าที่จะเปลี่ยนเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก เพื่อเห็นแก่หน้าตาของครอบครัว
เย่เฉินได้รับข่าวส่งมาขณะที่กำลังดื่มอยู่
พอคลิกเปิดดู แม้แต่การเขียนข่าวก็แสดงออกถึงความผิดหวัง
พวกเขาบอกว่า ซูจือหยูได้ละทิ้งโอกาสที่จะทวงคืนความยุติธรรมให้ตัวเองและแม่
แน่นอน ชาวเน็ตบางคนเชื่อว่าต้องมีเบื้องหลัง ต้องเป็นซูเฉิงเฟิงที่บังคับให้ซูจือหยูยอมแพ้โดยใช้ทางใดทางหนึ่ง
แต่เนื่องจากซูจือหยูไม่ได้ชี้แจงอย่างชัดเจน จึงไม่มีใครได้เปรียบในความคิดเห็นดังกล่าวและทัศนคติอื่นๆ
แต่เย่เฉินรู้อยู่แก่ใจอย่างชัดเจน
ซูจือหยูเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก และมีบุคลิกที่แข็งแกร่ง
หากเธอละทิ้งโอกาสนี้ มันก็ไม่ใช่เพราะเธอกลัวซูเฉิงเฟิงแน่นอน
เธอต้องใช้โอกาสนี้ เพื่อแลกค่าชดเชยอื่นๆ จากซูเฉิงเฟิง
เฉินจื๋อข่ายซึ่งนั่งถัดจากเย่เฉิน ก็ได้รับข่าวนี้เช่นกัน
เขามีสีหน้าประหลาดใจ ยื่นโทรศัพท์ให้เย่เฉินและกระซิบว่า “คุณชาย ดูนี่สิ…”
เย่เฉินพยักหน้า “ผมเพิ่งเห็นเมื่อกี้นี้เอง”
เฉินจื๋อข่ายถามด้วยความงุนงง “คุณว่า ทำไมคุณหนูซูไม่ใช้โอกาสนี้จัดการซูเฉิงเฟิงให้หนัก? ไลฟ์สดวันนี้มีคนดูหลายสิบล้านคนดูบนแพลตฟอร์มมากกว่าหนึ่งแห่ง นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดในการโจมตีเฉิงเฟิงให้เต็มที่ หลังจากวันนี้ไปจะไม่มีร้านแบบนี้ในหมู่บ้านนี้แล้ว”
เย่เฉินกล่าวยิ้มๆ “อย่าตกใจไป เธอมีความคิดของตัวเอง