ในเวลานี้การไลฟ์สดของซูจือหยูได้สิ้นสุดลง เธอนั่งนิ่งอยู่ในห้องหนังสือคนเดียว กำลังคิดเกี่ยวกับแผนการต่อไปซ้ำไปซ้ำมา

ตู้ไห่ชิงเคาะประตูแล้วพูดว่า “จือหยู ออกมากินข้าวกันเถอะ”

ซูจือหยูได้สติกลับมา รีบพูดว่า “ตกลงค่ะแม่ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

จากนั้นเธอก็หยิบเอกสารทางกฎหมายกองใหญ่ออกมาจากลิ้นชักโต๊ะ แล้วเดินออกมา

สมาชิกในครอบครัวของเธอ นอกจากซูจือเฟยพี่ชายของเธอที่ได้รับข้อมูลจากซูเฉิงเฟิงมาก่อนล่วงหน้าแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่มีใครรู้ว่าซูจือหยูทำข้อตกลงกับซูเฉิงเฟิงอย่างไร

ในเวลานี้ ทุกคนในครอบครัวของเธอต่างประหลาดใจ สงสัยว่าทำไมเธอถึงปล่อยซูเฉิงเฟิงไปในการไลฟ์สดเมื่อสักครู่นี้

แม้แต่ตู้ไห่ชิงแม่ของเธอก็ยังไม่เข้าใจ

เมื่อซูจือหยูสังเกตเห็นว่าสมาชิกครอบครัวบนโต๊ะมองมาที่ตนด้วยสายตาประหลาดใจ เธอจึงวางกองเอกสารทางกฎหมายไว้บนโต๊ะและพูดอย่างจริงจังว่า “แม่คะ พี่คะ คุณตา น้าชายใหญ่ น้าชายรอง มีเรื่องหนึ่งที่ฉันยังไม่ได้บอกพวกคุณ”

ในเวลานี้ทุกคนมองมาที่เธอ รอให้เธอพูดต่อ

ซูจือหยูชี้ไปที่เอกสารทางกฎหมายแล้วกล่าวว่า “วันนี้ฉันบรรลุข้อตกลงกับคุณปู่แล้ว ฉันจะไม่โจมตีหรือฟ้องร้องเขาในงานแถลงข่าวครั้งนี้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน เขาได้โอนหุ้นทั้งหมดของหยวนหยางขนส่งกรุ๊ปของตระกูลซูให้กับฉัน ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องเสร็จสมบูรณ์แล้ว การเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมและการค้าก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว”

ทุกคนในที่นี้ต่างตกตะลึงอ้าปากค้างเมื่อได้ยินเรื่องนี้

นอกจากซูจือเฟยที่รู้ทุกอย่างล่วงหน้า คนอื่นๆ ก็มีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ!

ไม่มีใครคาดคิดว่า ซูจือหยูจะได้มาหยวนหยางขนส่งกรุ๊ปทั้งหมดจากมือซูเฉิงเฟิงในราคาเท่านี้!

หากนี่คือการชดเชยที่ซูเฉิงเฟิงมอบให้เธอ เงินชดเชยก้อนนี้ก็มากเกินไปจริงๆ

ตู้ไห่ชิงเป็นคนแรกที่ได้สติกลับมา เธอนึกถึงคำขอร้องที่เย่เฉินเสนอกับลูกสาว

เขาต้องการให้เธอเป็นผู้นำของตระกูลซูภายในสามปี

หรือว่านี่จะเป็นก้าวแรกของลูกสาวในการบรรลุเป้าหมาย?

ต้องบอกว่าก้าวแรกของเธอช่างน่าทึ่งจริงๆ!

เมื่อคุณตาตู้เจิ้นหัวได้ยินเช่นนี้ ก็อดถามไม่ได้ว่า “จือหยู นี่เธอกำลังคิดจะทำอะไร?”

ซูจือหยูรู้ว่า นอกจากแม่แล้วก็ไม่สามารถให้ใครรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอได้ โดยเฉพาะซูจือเฟย พี่ชายของเธอ

ดังนั้นเธอจึงพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันแค่อยากจะต่อสู้เพื่อเป็นหลักประกันให้ตัวฉันเอง

จากนั้นเธอก็มองไปที่ซูจือเฟยและพูดต่อ “ต้องขอบคุณพี่ชายที่เตือนฉัน ฉันไม่มีทรัพย์สินส่วนตัว ถ้าฉันขัดแย้งกับตระกูลซู ฉันจะไม่ได้อะไรเลยจริงๆ และฉันก็รอรับสินสอดที่ยังไม่ได้จนถึงวันแต่งงานไม่ไหวแล้วจริงๆ หยวนหยางขนส่งกรุ๊ปนี้เป็นค่าชดเชยและสินสอดของฉันที่ตระกูลซูเตรียมไว้ให้ฉันในอนาคต”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ซูจือเฟยก็รู้สึกเศร้าใจมากเหลือเกิน

“ฉันเคยพูดกับเธอแบบนี้ก็จริง แต่นั่นก็เพื่อเกลี้ยกล่อมไม่ให้เธอไปทำกับตระกูลซู ไม่ใช่ให้เธอไปทำกับคุณปู่…”

“และฉันก็ไม่ได้ขอให้เธอเอามีดไปกรีดเลือดกรีดเนื้อคุณปู่นะ!”