แม้ว่าซูจือเฟยจะตัดพ้ออยู่ในใจ แต่เขาก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ดี

เขากลัวว่าคำพูดของซูจือหยูจะไปเข้าหูคุณปู่ ถ้าคุณปู่คิดว่าทั้งหมดมันเป็นความคิดของเขาที่เสนอให้ซูจือหยู คุณปู่จะไม่ตำหนิแย่เหรอ?

แม้ว่าเขาจะเป็นลูกชายและหลานชายคนโตของตระกูลซู แต่ถ้าเขาทำให้ซูเฉิงเฟิงขุ่นเคืองจริงๆ ซูเฉิงเฟิงสามารถทำให้เขาสูญเสียทุกอย่างได้ในทันที

ถึงอย่างไรเขาก็แตกต่างจากซูจือหยู ตอนนี้ซูจือหยูมีค่าหลายร้อยพันล้านแล้ว หากทุกอย่างถูกเปิดเผย เธออาจเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในหัวเซี่ยก็ได้

พอถึงได้ดังนี้ ซูจือเฟยรู้สึกแย่ลง

อย่างไรก็ตามตู้เจิ้นหัวและสมาชิกคนอื่นๆ ของตระกูลตู้กลับไม่สงสัยสิ่งที่ซูจือหยูพูดเลย

ตู้เจิ้นหัวถึงขนาดเข้ามาจับมือกล่าวชมเชย “จือหยู เธอทำได้ดีมาก! อย่าปล่อยให้ซูเฉิงเฟิงสบาย! เขาต้องจ่ายอย่างสาสม! คลิปหลุดจากบุคคลลึกลับก่อนหน้านี้ได้ทำลายชื่อเสียงของเขาแล้ว พวกเราจะคอยซ้ำเติมไปมันก็ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว สู้บีบให้เขาเฉือนเนื้อตัวเองดีกว่า!”

ตู้ไห่เฟิง น้าชายใหญ่ของซูจือหยูพูดอย่างร้อนใจ “หยวนหยางขนส่งกรุ๊ปของตระกูลซูตอนนี้ถูกบังคับให้ปิดกิจการทั้งหมดแล้ว ว่ากันว่าทุกวันจะขาดทุนเป็นเงินก้อนโต ในสถานการณ์เช่นนี้ จือหยู ฉันกลัวว่ามันยากที่จะเปลี่ยนการขาดทุนให้เป็นผลกำไร!”

ซูจือหยูจงใจมองพี่ชายที่อยู่ข้างๆ ด้วยหางตา จากนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงจับผิดเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ถ้าฉันไม่สามารถหาวิธีที่จะเปลี่ยนการขาดทุนให้เป็นผลกำไร งั้นก็ขายสินทรัพย์ทั้งหมดไปเสีย ถ้าไม่ให้เรือวิ่ง ก็คงห้ามไม่ให้ขายไม่ได้หรอกนะ? ถึงตอนนั้นก็ขายลดราคาไปทั้งหมด อย่างน้อยก็ได้คืนมาสักแสนสองแสนล้าน”

ตู้ไห่เฟิงตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ แล้วจึงยกนิ้วให้พร้อมกล่าวชมเชย “วิเศษมาก…ทำไมน้าชายใหญ่คิดไม่ถึงเลย แม้ว่าจะทำธุรกิจนี้ไม่ได้ ก็ยังเอาสินทรัพย์ไปขาย…บังเอิญน้าชายใหญ่ยังมีทรัพยากรบางอย่างอยู่ ถ้าเธอตัดสินใจที่จะขายก็บอกน้าชายใหญ่นะ น้าชายใหญ่จะมาช่วยชักใยอยู่เบื้องหลัง ต่อสู้เพื่อราคาที่ดี!”

เมื่อซูจือเฟยได้ยินดังนี้ ก็รู้สึกเจ็บปวดเหมือนกระอักเลือดอยู่ในใจ

ในห้องเพชรของเทียนเซียงฝู่

เย่เฉินชนแก้วกับทุกคน ดื่ม MOUTAI กันไปสิบกว่าขวด แขกและเจ้าภาพต่างสนุกสนาน

เย่เฉินให้เฉินจื๋อข่ายจัดเตรียมรถยนต์หลายคันเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อแบ่งกันไปส่งคนตระกูลเหอ รวมถึงเฮ่อหย่วนเจียงและเฮ่อจือชิวสองพ่อลูกด้วย

ทันทีที่พวกเขาออกมาจากห้องส่วนตัว เย่เฉินก็พูดจัดแจง “ท่านเหอ ท่านกับพี่น้องคนอื่นๆ จะนั่งรถกลับไปที่คฤหาสน์เลยสินะ ให้คุณผู้หญิงเหอขึ้นรถคันเดียวกับผม ผมจะพาพวกด็อกเตอร์เฮ่อไปส่งก่อน จากนั้นค่อยไปส่งคุณผู้หญิงเฮ่อที่โรงแรม”

เหอหงเซิ่งประกบมือคารวะเย่เฉินและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่อาจารย์เย่จัดการแล้วกันครับ”

ผู้คนย้ายไปที่ประตู หงห้าและเฉินจื๋อข่ายแบ่งคนตระกูลเหอสิบคนให้ไปกับรถสามคัน

หลังจากรถสามคันออกไปแล้ว เฉินจื๋อข่ายก็สั่งให้ลูกน้องของเขาขับรถเล็กซัสหกที่นั่งมาถึงตรงหน้า แล้วบอกกับเย่เฉินว่า “อาจารย์เย่ คุณกับคุณผู้หญิงเหอ แล้วก็ด็อกเตอร์เฮ่อและคุณเฮ่อนั่งรถอเนกประสงค์คันนี้แล้วกัน ผมจะนั่งข้างคนขับเอง”

เย่เฉินพยักหน้า ขณะที่กำลังจะขึ้นรถ ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนด้วยความดีใจระคนแปลกใจ “เย่เฉิน!”

เขาหันกลับไปมอง เห็นคนคนนี้เดินออกมาจากเทียนเซียงฝู่ เธอคือหานเหม่ยฉิง ผู้เป็นรักแรกของเซียวฉางควน พ่อตาของเขา