หลังจากที่เย่เฉินส่งสองพ่อลูกตระกูลเหอที่บ้านแล้ว ก็บอกให้รถอเนกประสงค์ไปยังโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง

ซูรั่วหลีแม่ของเหออิงซิ่วรอเธออยู่ที่นี่ทั้งคืนจนหงุดหงิดแล้ว

เมื่อรถมาถึงที่ประตูโรงแรม เย่เฉินก็บอกกับเฉินจื๋อข่าย “เหล่าเฉิน คุณช่วยขึ้นไปส่งคุณผู้หญิงเหอข้างบนหน่อย ผมจะไม่ขึ้นไป”

เหออิงซิ่วรีบถาม “อาจารย์เย่ไม่ขึ้นไปนั่งสักหน่อยเหรอคะ?”

เย่เฉินกล่าวยิ้มๆ “ไม่นั่งล่ะครับ ดึกแล้ว ผมจะกลับบ้านเลย”

เหออิงซิ่วพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “โอเคค่ะ ขอบคุณอาจารย์เย่ที่อุตส่าห์มาส่งฉัน ต่อไปหากมีเรื่องอะไร อาจารย์เย่โทรหาฉันได้ตามสบายเลยนะคะ!”

เย่เฉินกล่าวต่อว่า “ครับ มีอะไรผมจะโทรหาคุณ เราเคยตกลงกันไว้แล้ว เรื่องเงินทุนหนึ่งร้อยล้านของแต่ละปี คุณผู้หญิงเหอกลับไปก็เอาเลขบัญชีมาให้ผม ผมจะโอนเข้าไปให้ สำหรับยาส่วนที่เหลือ อีกสองสามวันผมจะเอามาให้คุณกับมือ”

เหออิงซิ่วรีบกล่าวว่า “ไม่รีบค่ะ ไม่รีบค่ะ อาจารย์เย่ เราตกลงกันแล้วว่าเป็นค่าตอบแทนรายปี แต่เราเพิ่งจะมาที่นี่ คุณไม่จำเป็นต้องทำตามสัญญาทั้งหมดเร็วขนาดนี้ก็ได้ค่ะ”

“ไม่มีปัญหาครับ” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยกล่าวว่า “คุณผู้หญิงเหอรีบขึ้นไปเถอะ ผมว่ารั่วหลีกำลังรอคุณจนหงุดหงิดแล้ว”

เหออิงซิ่วพยักหน้าเล็กน้อยกล่าวว่า “อาจารย์เย่ ถ้าอย่างนั้นฉันขึ้นไปก่อนนะคะ”

ในเวลานี้เฉินจื๋อข่ายได้ช่วยเปิดประตูไฟฟ้าเบาะหลังให้เหออิงซิ่ว เหออิงซิ่วก้าวลงจากรถและเข้าไปในโรงแรมพร้อมกับเฉินจื๋อข่าย

เย่เฉินกำลังจะสั่งคนขับรถให้ไปที่ Tomson Riviera ทันใดนั้นเขาก็เห็นคนแก่และคนหนุ่มออกมาจากโรงแรมผ่านหน้าต่างรถ เขารู้สึกประหลาดใจที่พบว่าสองตาหลานนี้เป็นสองคนที่เขาเคยพบที่มหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐศาสตร์จินหลิง

ตอนนั้นเย่เฉินเดาว่าทั้งสองน่าจะเป็นอาจารย์ฮวงจุ้ย และมีแนวโน้มว่าน่าจะมาเพราะตัวเขาเอง แต่ทั้งสองคนดูเหมือนจะไม่มีเจตนาร้าย ดังนั้นเย่เฉินจึงไม่ได้โจมตีพวกเขาก่อน

แต่นึกไม่ถึงว่า สองคนนี้จะจะอาศัยอยู่ในโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง

เย่เฉินสั่งให้คนขับรถออกรถพร้อมกับโทรหาเฉินจื๋อข่ายไปด้วย “เหล่าเฉิน มีชายสองคนออกมาจากโรงแรม คนแก่คนหนึ่ง คนหนุ่มคนหนึ่ง คนแก่น่าจะอายุเกือบร้อยแล้ว คนหนุ่มดูประมาณยี่สิบกว่า คุณช่วยผมดูหน่อยว่าพวกเขาพักอยู่ที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ช่วยตรวจสอบข้อมูลของพวกเขาหน่อย แล้วส่งกลับมาให้ผม”

เฉินจื๋อข่ายตอบรับทันที “ครับคุณชาย ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้”

เมื่อเย่เฉินลงจากรถที่หน้าประตู Tomson Riviera เฉินจื๋อข่ายก็ส่งข้อความเสียงทาง WeChat ให้เขา

“คุณชาย เมื่อกี้ผมเพิ่งตรวจสอบคร่าวๆ ชายชราและชายหนุ่มพักอยู่ในโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงจริงๆ คนที่มีอายุชื่อไหม้เฉิงซิน คนหนุ่มชื่อไมค์ ทั้งสองใช้พาสปอร์ตอเมริกันลงทะเบียนเข้าพัก”

“มาจากอเมริกาเหรอ?” เย่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วตอบเขาว่า “สมาชิกตระกูลเหอมาพอดี ช่วยบอกท่านเหอหน่อยว่า เราจะส่งคนสองคนที่มีทักษะคล่องแคล่วไปจับตาดูพวกเขาอย่างใกล้ชิด หากมีการเคลื่อนไหวใดๆ ให้รายงานผมทันที”

“ครับ คุณชาย”

เย่เฉินไม่รู้ว่าไหม้เฉิงซินที่มาจากอเมริกามีภูมิหลังอย่างไร แต่รู้สึกว่าคนคนนี้ดูเหมือนจะเป็นพวกมีวิชาฮวงจุ้ยเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงคิดว่าปรมาจารย์ฮวงจุ้ยที่ตนเองรู้จักบนภูเขาเย่หลิงซานคือ ล่ายชิงหวา

แต่แม้ว่าทั้งสองจะเห็นเป็นศัตรูกันตั้งแต่พบกันครั้งแรก แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นมิตรภาพระหว่างสุภาพบุรุษเจือจางราวกับน้ำ พวกเขาไม่มีใครทิ้งช่องทางติดต่อไว้ให้อีกฝ่าย

ดังนั้นเย่เฉินจึงโทรหาปู่ของตน

ตอนแรกล่ายชิงหวาได้รับเชิญจากเขาให้มาเลือกหลุมฝังศพใหม่ให้ตระกูลเย่ เขาจะต้องมีช่องทางติดต่อล่ายชิงหวา

ในเวลานี้เย่โจงฉวนได้รับโทรศัพท์จากเย่เฉิน เขาอดประหลาดใจไม่ได้ ยิ้มกล่าวว่า “เฉินเอ๋อ คิดยังไงถึงโทรหาคนแก่อย่างผมล่ะ?”

เย่เฉินเองก็ไม่ได้ปิดบัง พูดไปตามตรงว่า “ผมได้ยินมาว่าคุณรู้จักปรมาจารย์ฮวงจุ้ยชาวอเมริกัน ผมมีเรื่องอยากขอคำชี้แนะหน่อย ไม่ทราบว่าขอเบอร์โทรศัพท์ของเขาให้ผมจะได้หรือไม่?”

เย่โจงฉวนพูดอย่างประหลาดใจ “เอ๊ะ? คุณไปได้ข่าวมาจากไหนเหรอ?”

เย่เฉินยิ้มๆ “ข้างนอกร่ำลือกัน”

เย่โจงฉวนยิ้มกล่าวว่า “มีน่ะมี คุณล่าย ชาวอเมริกันเชื้อสายจีน แต่คุณล่ายมีอายุมากแล้ว ตอนที่ออกจากเย่นจิงก่อนหน้านี้เขาบอกผมว่าจะเกษียณอายุแล้ว ถ้าคุณต้องการเชิญเขาออกมา เกรงว่าจะไม่สำเร็จ”

เย่เฉินพูดอย่างเย็นชา “ผมแค่อยากจะขอคำแนะนำทางโทรศัพท์ไม่กี่คำถาม”

เย่โจงฉวนตอบรับแล้วกล่าวว่า “เดี๋ยวผมจะส่งหมายเลขโทรศัพท์ของคุณล่ายให้คุณ ตอนคุณโทรหาเขา ถ้าเขาไม่สนใจพูดคุยกับคุณ คุณก็บอกเขาว่าคุณคือหลานชายของผม อย่างน้อยเขาก็น่าจะให้เกียรติอยู่บ้าง”

“ตกลง” เย่เฉินก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ก่อนจะบอกว่า “งั้นรบกวนช่วยส่งข้อความให้ผมหน่อย”