เย่เฉินพูดนิ่งๆว่า “นายก็บอกไปว่าเขาได้เงินมาง่ายเกินไป นายอายุมากขนาดนี้แล้วยังมาไกลขนาดนี้ แล้วยังมาลำบากที่จินหลิงอีกหลายวัน ลำบากกว่าเขามาก ดังนั้นจึงคาดหวังว่าจะสามารถแบ่งเงินค่าเหนื่อยมาจากเขาบ้างสักหน่อย”

ไหม้เฉิงซินพยักหน้า แต่ก็พูดขึ้นมาอย่างประหม่าอีกว่า “คุณชายเย่ ซวนเฟิงเหนียนคนนั้นคุณไม่รู้จัก คนๆนี้โหดเหี้ยมอย่างมาก ครั้งก่อนที่นัดผมไปเจอที่สุสานเขาเฟิ่งหวง เห็นได้ชัดว่าอยากจะข่มขู่ผม ถ้าหากว่าผมไปคุยข้อตกลงกับเขาในเวลานี้ แล้วอยากได้เงินจากเขา งั้นเขาจะต้องคิดจะฆ่าผมแน่นอนครับ….”

เย่เฉินพูด “นายไม่ต้องกังวล แม้ว่าฉันจะค่อนข้างไม่พอใจในตัวนาย แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องใช้ชีวิตของนายมาเป็นเหยื่อล่อ เพียงแค่นายให้ความร่วมมือล่อซวนเฟิงเหนียนออกมา ฉันจะต้องให้ความปลอดภัยกับนายอยู่แล้ว”

แม้ว่าในใจของไหม้เฉิงซินจะไม่ค่อยมีความมั่นใจ แต่ก็รู้ดีว่าในเวลานี้ไม่มีตัวเลือกอื่น ดังนั้นจึงทำได้เพียงตอบตกลง พูดว่า “คนอย่างซวนเฟิงเหนียน จะต้องเป็นคนขี้สงสัยแน่นอน คุณชายเย่คิดไว้ว่าจะนัดเจอเขาที่ไหนครับ? ถ้าหากว่าสถานที่เปลี่ยวเกินไป ผมกลัวว่าเขาจะระมัดระวัง….”

เย่เฉินโบกมือ “นายนัดเขามาที่ป๋ายจินฮ่านกงเลย เขาจะต้องรู้แน่นอนว่านายพักอยู่ที่นี่ ดังนั้นมีเพียงแค่นัดเขามาที่นี่ถึงจะปลอดภัยที่สุด”

ไหม้เฉิงซินพูดอย่างอดไม่ได้ว่า “คุณชายเย่ โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงผู้คนมากมาย แล้วตำแหน่งก็อยู่ที่ตัวเมือง ถ้าหากว่าสู้กับซวนเฟิงเหนียนที่นี่ จะดูเกินไปมั้ยครับ? ถ้าหากว่าตอนนั้นปัญหาหนักไป จะจบไม่ง่ายนะครับ แล้วอาจจะมีปัญหาที่คาดไม่ถึงด้วย….”

เย่เฉินหัวเราะทีหนึ่ง พูดว่า “ฉันให้นายนัดเขามาเจอที่นี่ ก็เพื่อลดความหวาดระแวงของเขาให้มากที่สุด แล้วนายก็ต้องรู้ไว้ด้วย คนแบบนี้ไม่มีทางที่จะตอบตกลงมาเจอกับนายที่นี่แน่นอน”

พูดแล้ว เย่เฉินก็พูดอีกว่า “เขาจะต้องมีความกังวลอย่างที่นายพูดเมื่อกี้แน่นอน ถ้าหากว่าเขาคิดจะฆ่านายจริงๆ เขาก็ไม่กล้าที่จะฆ่านายที่ป๋ายจินฮ่านกง เพราะงั้นฉันเชื่อว่าเขาจะต้องนัดนายออกไปเจอ แล้วอีกอย่างสถานที่เขาก็จะต้องเป็นคนเลือกแน่นอน ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาก็จะไม่มีความกังวลและความสงสัยอะไรแน่นอน”

ไหม้เฉิงซินพยักหน้า กุมมือพูดว่า “คุณชายเย่คิดรอบคอบจริงๆครับ งั้นผมโทรหาเขาเดี๋ยวนี้แหละครับ!”

“ไม่ได้!” เย่เฉินพูดเสียงเย็นชา “เมื่อคืนเขาเพิ่งเจอกับนาย วันนี้นายไม่ได้ออกจากประตูโรงแรมเลยด้วยซ้ำ แล้วไปบอกกับเขาว่านายมีเบาะแส เขาจะต้องไม่เชื่อแน่นอน”

ไหม้เฉิงซินอดไม่ได้พูดว่า “ซวนเฟิงเหนียนคงไม่รู้สถานการณ์ของผมขนาดนั้นหรอกมั้งครับ?”

เย่เฉินพูดนิ่งๆว่า “นายกับซวนเฟิงเหนียนไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน นายใช้ความสามารถหาเงิน เขาใช้การฆ่าคนหาเงิน ก็เหมือนกับพ่อครัวและนักฆ่า ไม่เกี่ยวข้องกันสักนิด เพราะงั้นพวกนายไม่ใช่คนประเภทเดียวกันเลย ไม่อยู่ในมิติเดียวกัน และนายก็ไม่สามารถเข้าใจได้ ว่าคนที่ใช้การฆ่าคนหาเงินอย่างเขา นิสัยนั้นระมัดระวังแค่ไหน และความคิดจะรอบคอบเพียงใด ดีไม่ดีเขาอาจจะแอบสอดส่องนายอยู่ก็ไม่แน่ เพราะงั้นถ้าหากว่านายโทรไป ดีไม่ดีก็จะความแตกกันหมด”

ไหม้เฉิงซินรีบถามว่า “งั้นความหมายของคุณชายเย่คือ?”

เย่เฉินเอ่ยปากพูด “นายทำตามแผนการเดิมของนาย ไปที่คฤหาสน์ตระกูลตู้ หลังจากกลับมาแล้วค่อยโทรหาเขา”

ไหม้เฉิงซินพยักหน้า จากนั้นก็มองไปยังไหม้เค่อที่ยืนนิ่งไม่ขยับอยู่ข้างกาย รีบร้อนพูดว่า “คุณชายเย่ครับ รบกวนคุณให้หลานชายผมกลับสู่สภาพเดิมด้วยครับ ผมกับเขาไปที่คฤหาสน์ตระกูลตู้ด้วยกันครับ”

เย่เฉินพูดนิ่งๆว่า “ไหม้เค่อรออยู่ที่นี่ คนของฉันจะดูแลเขาอย่างดี ถ้าหากว่าซวนเฟิงเหนียนมาถามอ้อมๆ นายก็บอกไปว่าเมื่อคืนไหม้เค่อได้รับการกระทบจิตใจที่เขาเฟิ่งหวง วันนี้ไม่ค่อยสบาย ดังนั้นจึงไม่ได้ให้เขาตามไปด้วย ฉันเชื่อว่าซวนเฟิงเหนียนจะไม่สงสัยแน่นอน”