และในเวลานี้ หนอนกู่ดวงชะตาของซวนเฟิงเหนียนพุ่งกัดเข้าไปกลางกะโหลกศีรษะของเย่เฉินแล้ว

เกิดขึ้นเร็วมาก วิกฤตที่เป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวง ทันใดนั้นเย่เฉินก็ยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง ตบฉาดหนึ่งก็เหมือนกับนักบาสเกตบอลที่บล็อกลูกบาสแบบนั้น ดึงหนอนกู่ดวงชะตานั่นล้มลงไปกับพื้นเลย!

เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันตรงหน้า ทำให้ซวนเฟิงเหนียนและไหม้เฉิงซินที่ได้เห็นตกตะลึงจนตาค้างพูดไม่ออกเลย

เป็นใครก็คิดไม่ถึงว่า หนอนกู่ดวงชะตาที่พร้อมโจมตีทุกเมื่อ จะต้องได้รับชัยชนะแน่นอนนั่น จู่ๆถูกอีกฝ่ายตบเข้าไปฉาดหนึ่งก็ล้มลงแล้ว

ซวนเฟิงเหนียนก็คิดว่าตัวเองตาลายมองเห็นไม่ชัดเจนแล้ว

แต่เมื่อเขาขยี้ตาแล้วถึงได้เห็นว่า หนอนกู่ดวงชะตานั่นของตัวเองกำลังกลิ้งบิดตัวไปมาบนพื้น

เขาโพล่งพูดออกไปทันทีว่า : “นี่……จะเป็นไปได้ยังไง!หนอนกู่ดวงชะตาของฉันไม่เคยมีใครหน้าไหนสู้ได้เลย แกทำได้ยังไง?!”

เย่เฉินพูดดูถูกเหยียดหยามอย่างเยือกเย็นว่า : “คนที่ไร้ความสามารถอย่างเช่นแก ก็ยังกล้าพูดว่าตัวเองนั้นไม่อาจมีใครสู้ได้?มิน่าล่ะแกถึงเป็นศิษย์สำนักเดียวกันกับวีจิ้งไห่ พวกแกสองคนล้วนเป็นแค่เพียงเศษสวะที่ชอบคุยโวโอ้อวด!”

ซวนเฟิงเหนียนขมวดคิ้วพร้อมถามว่า : “แกรู้จักศิษย์น้องวีจิ้งไห่?!”

เย่เฉินพยักหน้า โพล่งพูดออกไปว่า : “รู้จักสิ วีจิ้งไห่อาจารย์วิชาซวนซวนจากฮ่องกงไง ว่ากันว่าเครื่องรางที่ทำขึ้นมาอย่างสบายๆล้วนแต่ขายได้กว่าหลายแสน ปีที่แล้วเขามาทำตัวเสแสร้งที่จินหลิง คิดว่าตัวเองเป็นคนที่สุดยอดมาก สุดท้ายอยู่ในมือของฉันแม้แต่หนึ่งกระบวนท่าก็ไม่สามารถสู้ได้เลยก็ตายเลย ตอนที่ตายแม่งก็ยังอนาถอย่างมาก”

พูดจบ เย่เฉินยิ้มพร้อมพูดว่า : “ไอ้หยา ในเมื่อพูดแบบนี้ ศิษย์พี่ศิษย์น้องอย่างพวกแกยังคงมีวาสนาต่อกันจริงๆห่างกันพันลี้ยังได้พบหน้ากัน เขาตายที่จินหลิง แกก็ตามเขามาตายที่นี่ด้วยกัน!”

ใบหน้าของซวนเฟิงเหนียนตกใจอย่างมาก เขาเอี้ยวตามองหนอนกู่ดวงชะตาที่นอนกลิ้งอยู่กับพื้นอย่างไม่หยุดหย่อน ยังคงคิดที่จะรอโอกาสต่อต้าน

ดังนั้น เขาแอบทำมือแบบมุทราออกมา เกี่ยวนิ้วกับหนอนกู่ดวงชะตานั่น หนอนกู่ดวงชะตานั่นก็เหมือนว่าได้รับการกระตุ้นทำให้มีอาการคึกแล้วทันที พยายามดิ้นรนบินขึ้นฟ้าอีกครั้ง!

เดิมทีเขาคิดที่จะโจมตีเย่เฉินโดยไม่ทันตั้งตัว แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ หนอนกู่ดวงชะตานั่นเพิ่งจะบินขึ้นมา ก็ถูกเย่เฉินตบเข้าไปอีกหนึ่งฉาดแล้ว ล้มลงบนพื้นอย่างหนักหน่วง!

ครั้งนี้ หนอนกู่ดวงชะตาได้รับบาดเจ็บสาหัส และซวนเฟิงเหนียนเพราะว่ามีสายเลือดที่ลึกซึ้งกับหนอนกู่ดวงชะตา หนอนกู่ดวงชะตาประสบอุปสรรค เขาก็ถูกแว้งกัดทันที คนทั้งคนราวกับว่าได้รับการโจมตีอย่างหนักหน่วงยังไงอย่างนั้น เจ็บปวดไปทั้งตัวอย่างมาก

ในเวลานี้ เย่เฉินเหยียบไปที่ลำตัวของหนอนกู่ดวงชะตานั่นเลย ทันใดนั้นทำให้หนอนกู่ดวงชะตานั่นขยับเขยื้อนไม่ได้เลย

เจ็บปวดและตื่นตกใจ ทำให้หนอนกู่ดวงชะตาร้องจี๊ดๆในปากอย่างไม่หยุดหย่อน

เย่เฉินพูดอย่างน่าสนใจว่า : “แม่งเอ๊ย ดักแด้ตัวใหญ่นี่ของแกร้องโอดครวญได้น่าเกลียดมากขนาดนี้!ฉันจะใช้เท้าเหยียบให้ขี้ของมันออกมาเลย!”

พูดจบ ใช้แรงใต้ฝ่าเท้านิดหน่อย หนอนกู่ดวงชะตาที่เรียกว่ารูปร่างเป็นเหล็ก อยู่ยงคงกระพันนั่น ทันทีที่ถูกเหยียบก็พ่นเมือกสีเขียวกองใหญ่ออกมาตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงด้านหลังเลย และตายโดยทันที

และซวนเฟิงเหนียนก็ยิ่งอนาถ คนทั้งคนพูดโอ๊ยๆแสดงความเจ็บปวดออกมา อ้วกเลือดกองใหญ่ออกมา ทันใดนั้นแม้แต่ยืนก็ยืนไม่นิ่งแล้ว

ซวนเฟิงเหนียนตกใจจนโง่แล้ว มองเย่เฉินอย่างแนบแน่น โพล่งพูดถามว่า : “แก……แกเป็นใครกันแน่?!”

เย่เฉินยิ้มแล้ว พูดอย่างยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า : “ฉันเหรอ?ฉันก็คือคนที่แกตามหามาโดยตลอดไง แกอยากจะหาตัวฉันให้เจอ แล้วฆ่าฉันให้ตายไม่ใช่เหรอ?ตอนนี้ฉันก็อยู่ตรงหน้าแกแล้ว แกลงมือจัดการได้แล้ว”

“อะไรนะ?!” ซวนเฟิงเหนียนเบิกตามองกว้าง พร้อมทั้งมองไปยังไหม้เฉิงซิน พูดด่าว่า : “แซ่ไหม้ แกมันไอ้เฒ่าจอมเหี้ย จู่ๆก็กล้าที่จะหักหลังฉัน !”

ในเวลานี้ในใจลึกๆของไหม้เฉิงซินดีใจมาก รีบวิ่งเหยาะๆไปยังเบื้องหลังของเย่เฉินแล้ว พร้อมทั้งพูดกับซวนเฟิงเหนียนว่า : “ซวนเฟิงเหนียน สัตว์เดียรัจฉานที่ไร้ซึ่งมโนธรรมอย่างแกแบบนี้ ทุกคนล้วนแต่สามารถลงโทษแกอย่างมหันต์ได้!วันนี้กูช่วยคุณชายเย่จัดการสัตว์เดรัจฉานอย่างแกแล้ว ก็ถือว่ารักษาความยุติธรรมแทนพระเจ้า!”