เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็รีบหยิบมือถือขึ้นมา แล้วหัวเราะพลางพูดขึ้นมาว่า“ตอนนี้ผมได้โทรหาซวนเฟิงเหนียนแล้ว ถ้าเขาสามารถฝึกฝนวิชาของเหอหงเซิ่งได้ งั้นฉันก็จะเพิ่มให้เขาอีกห้าสิบล้าน”
พูดจบ เขาก็รีบโทรหาซวนเฟิงเหนียน
แต่ทว่า ปลายสายขึ้นแจ้งเตือนว่า“ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่อยู่ในพื้นที่ให้บริการ โปรดโทรอีกครั้งในภายหลัง!”
ซูเฉิงเฟิงอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ แล้วกล่าวว่า“ซวนเฟิงเหนียนคนนี้ ปกติเข้ากับใครไม่ค่อยได้ ไปจินหลิงมาหลายวันขนาดนี้ ได้ข่าวว่าในทุกวันเขาพักที่สุสานทุกวัน ทำเอาจะโทรก็โทรไม่ติด”
ท่านเฮ่อที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นมาว่า“คุณท่านครับ คนแบบนี้โดยปกติรักสันโดษ อีกทั้งซวนเฟิงเหนียนใช้หนอนกู่ดวงชะตา ได้ยินว่ามีชีวิตโดยอาศัยการกัดกินสมองของคน ซึ่งชั่วร้ายมาก ไม่แน่อาจจะมีชีวิตและสุขภาพดีขึ้นเมื่ออาศัยอยู่ในสุสานสภาพแวดล้อมแบบนั้น”
ในขณะที่กำลังพูด ซูอานสุ้นผู้เป็นพ่อบ้านวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ แล้วพูดด้วยสีหน้าประหม่าว่า“คุณท่านครับ แย่แล้วครับ!”
ซูเฉิงเฟิงอดที่จะซักไซ้ไม่ได้ว่า“เกิดอะไรขึ้น?ถึงได้ตื่นตระหนกตกใจขนาดนี้”
ซูอานสุ้นยื่นมือถือส่งให้กับซูเฉิงเฟิง แล้วกล่าวว่า“คุณท่านดูประกาศบุคคลสูญหายใบนี้สิครับ!”
ซูเฉิงเฟิงมองไป บนประกาศบุคคลสูญหาย มีรูปถ่ายของซวนเฟิงเหนียนรวมถึงชื่อของเขาด้วย รอหลังจากที่เขาดูเนื้อหาในนั้นชัดเจนแล้ว ดวงตาของเขาถึงกับมืดลงในทันที
ซูอานสุ้นรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อพยุงเขาไว้ รีบทำการหยิกเขากว่าจะทำให้เขาค่อยๆรู้สึกตัวขึ้นมาได้
ซูเฉิงเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ซวนเฟิงเหนียนหายไปอีกคนหรอเนี่ย?!”
“ใช่ครับ……”ซูอานสุ้นพูดด้วยสีหน้าทุกข์ใจ“ทางตำรวจพบรถที่เขาเช่า ถูกฟ้าผ่าพังเสียหายแล้ว แต่เขากลับหายตัวไป ตอนนี้ทางตำรวจกำลังเร่งหาเบาะแสอยู่ครับ!”
ท่านเฮ่อหัวใจถึงกับหล่นวูบ เขารีบขยับเข้าไปดูใกล้ๆ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงชาไปจนถึงก้นบึ้งหัวใจ
“เมื่อสักครู่ผมยังหวังว่าซวนเฟิงเหนียนจะจัดการเหอหงเซิ่งได้ ได้มาซึ่งวิชาของเหอหงเซิ่ง แต่ฝันยังไม่จบ ซวนเฟิงเหนียนก็หายตัวในจินหลิงซะงั้น?!”
ซูเฉิงเฟิงในตอนนี้เริ่มนั่งไม่ติดแล้ว เขาพูดพึมพำอย่างหมดแรง“จินหลิงนั่นมันเป็นเมืองที่ไหนกันล่ะ……นี่มันหลุมดำชัดๆ!แม้แต่ซวนเฟิงเหนียนยังสามารถดูดเข้าไปได้ ที่นี่มีอะไรซ่อนไว้กันนะ……”
ซูอานสุ้นด้านหนึ่งคอยช่วยเขาตบหลังเบาๆ อีกด้านก็คอยพูดปลอบว่า“คุณท่านอย่าร้อนใจนะครับ ตอนนี้ซวนเฟิงเหนียนแค่ติดต่อไม่ได้เท่านั้น สำหรับสถานการณ์ ตอนนี้เรายังไม่ทราบ รอข่าวยืนยันก่อนนะครับ ท่านว่ายังไงครับ?”
ซูเฉิงเฟิงโบกมือไปมา แล้วพูดอย่างหมดแรงว่า“รอต่อไปไม่มีความหมายอะไรแล้ว ตั้งแต่โสว่เต๋อแล้ว ที่เรารอคอยปาฏิหาริย์ แต่จนถึงป่านี้แล้วยังไม่มีเบาะแสอะไรเลย ต่อมาโสว่เต้าก็เหมือนหายตัวไปจากโลก ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นซวนเฟิงเหนียน……คนที่ฉันส่งไปที่จินหลิง ตอนนี้เหลือแค่ไหม้เฉิงซินคนเดียวแล้ว!”
ซูอานสุ้นรีบกล่าวว่า“คุณท่านครับ ท่านโทรหาไหม้เฉิงซินหน่อยไหมครับ ให้เขาช่วยทำนายให้หน่อยว่าตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เขาเป็นตาแก่ที่ไม่มีกำลังโจมตีอะไร ในเวลาปกติทำอะไรก็รอบคอบมาก ใครจะเกิดเรื่องอะไรแต่เขาเป็นคนที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา”
“ใช่”ซูเฉิงเฟิงรีบพยักหน้า แล้วพูดว่า“ไหม้เฉิงซินไม่อยากเดือดร้อนมาตลอด ไม่ว่าจะเวลาไหนก็มักจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอยู่เสมอ จากลักษณะนิสัยการทำงานของเขา จะต้องไม่พบเจอกับอันตรายอะไรแน่”
พูดจบ มืออันสั่นเทาของเขา ก็รีบโทรหาไหม้เฉิงซินต่อ
แต่สิ่งที่ทำให้เขาคาดคิดไม่ถึงก็คือ ปลายสาย ระบบยังคงขึ้นแจ้งเตือนว่า
“ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกปิดเครื่อง กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ…