ในใจของซูเฉิงเฟิงรู้ดี
จากสายตาของเขาคนที่สามารถหยุดยั้งยอดฝีมือลึกลับคนนั้นได้ มีแค่ซูจือหยูหลานสาวของตัวเอง
เขาพูดกับซูอานสุ้นและท่านเฮ่อว่า“ถ้าจือหยูยินดีที่จะช่วยพูดให้ฉัน จะต้องทำให้คนคนนั้นละทิ้งหรือชะลอความคิดที่อยากจะฆ่าฉันได้แน่ๆ
ซูอานสุ้นพยักหน้า แล้วกล่าวว่า“คาดว่าบุคคลลึกลับคนนั้นจะต้องมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับคุณหนูใหญ่แน่ๆเลยครับ ไม่อย่างนั้นคงไม่บึ่งมาจากญี่ปุ่นเพื่อมาช่วยเธอที่จินหลิงหรอกครับ ถ้าคุณหนูใหญ่ช่วยท่านพูด ไม่แน่อาจจะทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ก็ได้ และเรื่องเล็กก็ทำให้มันสลายไป……”
ซูเฉิงเฟงถอนหายใจ แล้วกล่าวว่า“สู้ไม่ได้และหลบไม่พ้น วิธีเดียวที่เหลืออยู่คือการขอร้องให้ไว้ชีวิต……”
ท่านเฮ่ออดที่จะถามไม่ได้ว่า“คุณท่านครับ นิสัยของคุณหนูจือหยูถือว่าผมพอเข้าใจอยู่บ้าง เรื่องนี้คงจะเกลี้ยกล่อมกับเธอได้ยาก?”
“จริงนั่นแหละ……”ซูเฉิงเฟิงพูดอย่างทุกข์ใจ“เด็กคนนี้มีความต้องการสูง ก่อนหน้านี้เรื่องที่แถลงข่าว เพื่อที่จะทำให้เธอปิดปากเงียบ ฉันจะต้องเอาบริษัทขนส่งทางทะเลส่งมอบให้กับเธอ ครั้งนี้ยังต้องมาขอร้องให้เธอช่วย ไม่รู้ว่าเธอจะตั้งเงื่อนไขอะไรรึเปล่า……”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ซูเฉิงเฟิงก็กล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า“ที่ยกบริษัทขนส่งทางทะเลให้กับเธอ เป็นเพราะอยากดูว่าเธอจะสามารถทำให้กิจการขนาดใหญ่นี้ฟื้นฟูกลับมาได้หรือไม่ ถ้าไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ ตายอยู่ในมือเธอหรือตายอยู่ในมือฉันมันต่างกันอย่างไร แต่ถ้าสามารถฟื้นฟูกลับมาได้ กิจการส่วนนี้ในไม่ช้าฉันก็ต้องเอามันกลับมาให้หมดทบทั้งต้นและดอก แต่ถ้าเธอยังอยากได้กิจการส่วนอื่นๆของฉัน ถึงยังไงฉันก็ไม่มีทางเฉือนเนื้ออีกเป็นอันขาด……”
ซูอานสุ้นกล่าวว่า“คุณท่านครับ ท่านลองโทรเช็กกับคุณหนูใหญ่ดีไหมครับ?”
“อืม!”ซูเฉิงเฟิงพยักหน้า แล้วกล่าวว่า“ฉันจะโทรหาเธอเดี๋ยวนี้แหละ อ่อจริงสิอานสุ้น ฉันให้แกจับตาดูความเคลื่อนไหวของเธอในช่วงนี้ แกรู้ไหมว่าสองวันมานี้เธอทำอะไรบ้าง ?”
ซูอานสุ้นรีบตอบกลับว่า“คุณท่านครับ วันนี้คุณหนูใหญ่ไปที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงครับ”
“ว่าไงนะ?!”ซูอานสุ้นขมวดคิ้ว แล้วถามอย่างเคร่งขรึมว่า“ไปทำไม?หรือว่าเธอจะไปพูดคุยเรื่องร่วมงานกับตระกูลเย่?”
ซูอานสุ้นกล่าวอธิบาย“ไม่ได้คุยเรื่องร่วมงานกับตระกูลเย่ครับ แต่ไปคุยกับนางาฮิโกะ อิโตะครับ ท่านก็รู้ว่า นางาฮิโกะ อิโตะช่วงนี้พักอยู่ที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกง”
ซูเฉิงเฟิงถอนหายใจ แล้วพยักหน้าพลางพูดขึ้นมาว่า“เกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย โสว่เต้าหายตัวในโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงเพราะหาโอกาสเข้าใกล้นางาฮิโกะ อิโตะ ตอนนี้จือหยูยังแจ้นไปหาเขาอีก นางาฮิโกะ อิโตะจะสนใจเธออย่างนั้นหรอ?”
ซูอานสุ้นพยักหน้า แล้วกล่าวว่า“คนของผมรายงานข่าวมาว่า หลังจากที่คุณหนูใหญ่ไปที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกง เธอถูกเอมิ อีโตะน้องสาวของนางาฮิโกะ อิโตะเชิญขึ้นไป ที่หน้าล็อบบี้ของโรงแรม”
“ว่าไงนะ?!”ซูเฉิงเฟิงถามอย่างประหลาดใจ“นางาฮิโกะ อิโตะยอมพบเธองั้นหรอ?”
ซูอานสุ้นจึงกล่าวว่า“คนของผมตามขึ้นไปสังเกตการณ์ พบว่าคุณหนูใหญ่เข้าไปในห้องพักของนางาฮิโกะ อิโตะจริงๆครับ”
ซูเฉิงเฟิงอดที่จะประหลาดใจไม่ได้ แต่แล้วก็อดถอนหายใจแล้วพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า“ตั้งแต่เกิดการต่อสู้ระหว่างสามตระกูลใหญ่แห่งโตเกียว หลังจากที่ตระกูลอิโตะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะแล้วรวบกินไปทั้งหมด แม้ว่าบริษัทขนส่งทางทะเลของเราจะไม่อยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ถูกลงโทษ นางาฮิโกะ อิโตะก็ไม่ยอมร่วมงานกับเรา โสว่เต้าในฐานะลูกชายคนโตของตระกูลซู ซึ่งในสายตาของคนภายนอกเขาเป็นทายาทสืบทอด ยังไม่มีโอกาสได้เข้าพบนางาฮิโกะ อิโตะเลย คิดไม่ถึงว่าจือหยูจะทำได้!”
ซูอานสุ้นพยักหน้าแล้วกล่าวว่า“คุณหนูใหญ่ทั้งเก่งและฉลาด วาทศิลป์ของเธอไม่เหมือนกับคนหนุ่มสาวธรรมดาทั่วไป อีกทั้งตนนี้เธอยังได้ครอบครองบริษัทขนส่งทางทะเล ไม่แน่เอออาจจะสามารถพูดโน้มน้าวนางาฮิโกะ อิโตะ แล้วร่วมงานกับเธอได้สำเร็จ”
ซูเฉิงเฟิงกล่าวอย่างยินดีปรีดา“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่แน่กิจการขนส่งทางทะเลอาจจะฟื้นฟูกลับมาก็ได้ ดูท่าจือหยูพอมีฝีมืออยู่บ้าง”
พูดจบ เขาก็รีบหยิบมือถือขึ้นมา แล้วส่งข้อความหาจือหยู เนื้อหาในข้อความก็คือ“จือหยู ถ้าว่างแล้วโทรกลับหาปู่หน่อยนะ”
ซูจือหยูที่เห็นข้อความนั้นแล้ว รีบบอกกับเย่เฉินทันที ในขณะเดียวกันก็ถามเขาว่า“คุณเย่คะ ฉันต้องตอบกลับเขาไหมคะ?”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดอย่างยิ้มๆว่า“ตอบเถอะ ดูสิว่าเขาจะพูดยังไง”
ซูจือหยูรีบโทรหาซูเฉิงเฟิงทันที