โทรศัพท์ถูกรับอย่างรวดเร็ว
ซูเฉิงเฟิงที่อยู่ปลายสายแสร้งถามอย่างเป็นห่วงเป็นใยว่า“จือหยู สองสามวันมานี้เป็นยังไงบ้าง?มีปัญหาอะไรต้องการให้ปู่ช่วยไหม?”
ซูจือหยูตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่เป็นเดือดเป็นร้อนว่า“ช่วงนี้ก็ดีค่ะ หนูกำลังคิดหาทางให้กิจการขนส่งทางทะเลฟื้นฟูหลับมา ความหวังดีของคุณปู่หนูขอรับไว้ค่ะ แต่ความช่วยเหลือคงไม่จำเป็นค่ะ”
ซูเฉิงเฟิงถอนหายใจ แล้วพูดอย่างรู้สึกผิดว่า“สองวันมานี้ปู่กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ในใจไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดต่อเธอ ในขณะเดียวกันก็เอาแต่คิดหาวิธีชดใช้ให้พวกแกสองแม่ลูก พอดีวันนี้อานสุ้นคุยเรื่องมัลดีฟส์กับปู่ ปู่เลยคิดว่า จะมอบเกาะของตระกูลซูในมัลดีฟส์ให้กับแก แบบนี้แกกับแม่ของแกสามารถไปพักผ่อนได้ เพื่อผ่อนคลายสักหน่อย”
หมู่เกาะมัลดีฟส์ถึงแม้จะแพงมาก แต่ไม่ได้มีมูลค่าอะไร หมู่เกาะที่พัฒนาโดยตระกูลซู ตัวอย่างเช่นหมู่เกาะที่รัฐบาลท้องถิ่นของมัลดีฟส์ขายสิทธิครอบครองหนึ่งร้อยปี ใช้เงินแค่ไม่กี่สิบล้านดอลลาร์ซื้อมาเท่านั้น แต่สิ่งที่มีมูลค่ามากที่สุดก็คือสิ่งก่อสร้างบนเกาะ
เกาะหนึ่งเกาะ ไม่ได้มีเพียงสิ่งก่อสร้างที่แก้ไขปัญหาทั้งหมด ยังต้องมีการตกแต่งที่หรูหรา ยิ่งต้องมีท่าเรือ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านฮาร์ดแวร์ครบชุดการสื่อสารผ่านดาวเทียมต่างๆ กระทั่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เองรวมถึงความสามารถในการผลิตน้ำจืด
ดังนั้นสิ่งก่อสร้างครบชุด ตระกูลซูลงทุนไปทั้งหมดเกือบสามพันล้านหยวน
ตอนแรก ซูเฉิงเฟิงสร้างเกาะนั้น เป็นสวรรค์บนดินที่เขาจะอาศัยในบั้นปลายชีวิต ดังนั้นสำหรับเขาแล้วมันเป็นสิ่งที่เขาใช้จ่ายไปอย่างไม่คำนึงถึงต้นทุน
ถ้าจะให้เขายกให้ซูจือหยูจริงๆ แน่นอนว่าเขาเสียดายมาก
แต่เขาเพียงแค่พูดปากเปล่าไปเท่านั้น เพื่อต้องการเอาชนะใจหลานสาวก่อน
ตามความเข้าใจที่เขามีต่อซูจือหยู เขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ซูจือหยูจะอยากได้เกาะของเขา
ประการแรก ตอนนี้ซูจือหยูจะต้องทุ่มเทความสนใจทั้งหมดไปที่กิจการขนส่งทางทะเล จะให้เธอไปมัลดีฟส์ เธอจะต้องไม่สนใจอย่างแน่นอน
ประการที่สอง ตู้ไห่ชิงแม่ของเธอตอนนี้อาจจะยังเกลียดเขาอยู่ จะให้ตู้ไห่ชิงไปพักผ่อนที่เกาะของเขา ตู้ไห่ชิงต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน
เป็นไปตามคาด
ซูจือหยูที่ได้ยินคำพูดแบบนี้ จึงอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
เธอไม่ได้โง่
รู้ดีว่าคำพูดของคุณปู่ มีเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่เป็นเรื่องหลอกลวง
เกาะเส็งเคร็งอะไรอย่างมัลดีฟส์นั่น เธอไม่สนใจแม้แต่นิดเดียว!
ซูจือหยูคิดจะปฏิเสธ แต่พอเห็นเย่เฉินส่งสายตาของกับตนเอง เป็นสัญญาณให้เธอตอบตกลง
ดังนั้น เธอจึงชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า“ขอบคุณคุณปู่มากนะคะ ว่างๆรบกวนคุณปู่ให้พ่อบ้านซูส่งเอกสารสิทธิ์ในการครอบครองเกาะมาที่จินหลิงด้วยนะคะ หลังจากที่สิทธิ์ในการครอบครองอยู่ภายใต้ชื่อของหนูแล้ว หนูจะหาเวลาพาแม่ไปพักผ่อนค่ะ”
เมื่อซูเฉิงเฟิงได้ยินแบบนั้น ถึงกับรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว
เขาแอบพูดในใจว่า“ฉันแค่พูดๆเอง ทำไมแกถึงตอบตกลงจริงๆเนี่ย?อายุยังหนุ่มยังสาว จะเอาเกาะที่ใช้อาศัยในบั้นปลายชีวิตไปทำไม?แกเอาของฉันไป หลังจากนี้ฉันจะทำยังไงล่ะ?คงเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะไปพัฒนาเพิ่มอีกเกาะหรอกมั้ง?”
เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงรีบพูดขึ้นมาว่า“จือหยู เอกสารสิทธิ์การครอบครองเกาะจะต้องไปจัดการโอนย้ายชื่อที่มัลดีฟส์ ซึ่งมันค่อนข้างลำบาก แต่แกพาแม่แกไปพักผ่อนที่นั่นก่อนได้นะ”
ซูจือหยูจึงพูดไปตามน้ำ“พอดีเลยค่ะ ตอนที่หนูไปที่นั่นเอาเอกสารสิทธิ์ครอบครองไปโอนย้ายที่นั่นด้วยเลย”
พูดจบ ซูจือหยูก็พูดเสริมอีกว่า“คุณปู่คะ คุณปู่ก็รู้ว่า แม่ของหนูต้องไม่ยอมแน่ๆ ถ้าเกาะนั้นอยู่ภายใต้ชื่อของคุณปู่ เธอจะต้องไม่ยอมไปแน่ แต่ถ้าอยู่ภายใต้ชื่อของหนูมันจะไม่เหมือนกัน”
ซูเฉิงเฟิงจึงทำได้เพียงแค่พูดอย่างโกหก“คุณพูดถูก ปู่ลืมคิดข้อนี้ไป ในเมื่อเป็นแบบนี้ เมื่อไรที่แกมีเวลาว่างไปล่ะก็ ฉันจะให้อานสุ้นไปด้วย จัดการเรื่องเอกสารซะ……”
พูดจบ ซูเฉิงเฟิงก็รีบพูดขึ้นมาอีกว่า“จริงซูจือหยู ครั้งนี้ปู่มีเรื่องให้แกช่วยหน่อย……”
ซูจือหยูตอบรับอืม“ว่ามาได้เลยค่ะ”
ซูเฉิงเฟิงจึงรีบกล่าวว่า“แบบนี้นะ ผู้มีพระคุณของแกคนนั้นน่ะ เมื่อกี้โทรหาปู่ เขาอาจจะเข้าใจอะไรปู่ผิดไป ในสายเหมือนจะไม่ค่อยสบอารมณ์ ดังนั้นปู่เลยอยากให้แกช่วยไปพูดกับเขาหน่อย จากนี้ไปทุกคนห้ามยุ่งเกี่ยวกันอีก แกดูสิว่าได้ไหม