แต่ หลังจากที่เข้ามาแล้ว จงเทียนหยู่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขามองเห็นตลอดโถงทางเดินไม่มีผู้คนแม้แต่คนเดียว จึงกล่าวอย่างสงสัยว่า“ทำไมสนามบินของพวกคุณคนน้อยแบบนี้ล่ะ?นอกจากเราแล้ว ก็ไม่มีผู้โดยสารคนอื่นๆเลย?”

ผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าเกาหัวแกรกๆ แล้วกล่าวว่า“เอ่อคือ……อาจจะเป็นเพราะวันนี้มีการควบคุมปริมาณก็ได้ครับ วันนี้มีเครื่องบินไม่มาก หลายเที่ยวบินดีเลย์และถูกยกเลิกไปก็เยอะครับ”

จงเทียนหยู่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป โดยทั่วไปแล้ว สนามบินของเมืองรองถึงแม้จะไม่ค่อยยุ่งเท่าไรนัก แต่มันก็ไม่ถึงกับไม่มีคนแบบนี้?

ในขณะที่กำลังมึนงงอยู่นั้น ผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าชี้ไปที่ประตูกระจกทึบแสง“คุณจงครับ ข้างหน้าก็คือทางออกแล้วครับ ด้านนอกมีแฟนคลับของคุณรออยู่เยอะเลยครับ ถ้าคุณรู้สึกไม่สะดวก ผมสามารถให้รปภ.ส่งคุณออกจากที่นี่ได้เลยครับ หรือจะให้รปภ.ไล่แฟนคลับของคุณไปแล้วคุณค่อยออกไปก็ได้ครับ”

“อย่านะ!”ความสงสัยของจงเทียนหยู่หายไปทันควัน แล้วรีบโพล่งออกไปว่า“ผมเห็นแฟนคลับเป็นครอบครัวผมมาตลอด พวกเธอเดินทางมาตั้งไกลเพื่อมาต้อนรับผม แน่นอนว่าผมต้องไปทักทายพวกเธอ!”

พูดจบ เขารีบสาวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว มาที่ประตูกระจก อยากจะเดินออกไปแทบรอไม่ไหว เพื่อไปทักทายเหล่า“แฟนคลับ”สาวสวยสามร้อยคนที่เขาซื้อมา

ในเวลานี้เอง ประตูถูกเปิดออก เมื่อฉากภายนอกตรงทางเดินปรากฏขึ้นในรูม่านตาของจงเทียนหยู่ เขาก็รู้สึกว่าสมองของเขาถูกไฟช็อตยังไงอย่างนั้น เขาตกตะลึงไปในทันที!

เพราะ ประตูทางออกในตอนนี้ ถึงแม้จะมีผู้คนมากมายล้อมอยู่ แต่มันไม่ใช่ภาพในจินตนาการที่เขาวาดฝันไว้เลยว่ามีสาวงามมากมายยืนรออยู่

มันกลับตาลปัตร!

ภาพตรงหน้าคือชายฉกรรจ์รูปร่างใหญ่โต ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น!

ในขณะที่จงเทียนหยู่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ผู้ชายที่มีรอยบากคนหนึ่ง ตะโกนอย่างเสียงดังด้วยความดุดันว่า“จงเทียนหยู่!ผมรักคุณ!กูจะมีลูกกับมึง!”

มีเสียงปิวปากดังขึ้นมาในทันที

ผู้ชายอีกคนตะโกนขึ้นมาเช่นกันว่า“บัดซบ!จงเทียนหยู่ กูก็รักมึงเหมือนกัน!กูจะมีลูกกับมึง!”

เมื่อสิ้นเสียง ก็มีผู้ชายที่สวมเสื้อกล้ามชุดกีฬาท่ามกลางอากาศหนาวเย็นคนหนึ่ง โบกแขนที่เต็มไปด้วยรอยสักทั้งสองข้าง พูดอย่างมีความสุขว่า“จงเทียนหยู่แห่งเย่นจิน หัวเซี่ย!แจ๋วไปเลย ที่รักของผม!”

จงเทียนหยู่ตกใจมาก ขาสองข้างอ่อนระทวย เขารีบถอยหลัง แอบพูดในใจด้วยความกระวนกระวายว่า“นี่มันๆๆ……นี่มันก็อะไรกันวะเนี่ย?!สาวสวยล่ะ?สาวๆต้อนรับล่ะ?ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นกลุ่มนักเลงหัวไม้แบบนี้ล่ะ?!”

แต่สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ เหล่าผู้ชายที่ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นไม่ให้โอกาสเขาได้ถอยหลัง คนกลุ่มใหญ่วิ่งตรงเข้ามา ปากก็ตะโกนไม่หยุดว่า“จงเทียนหยู่ผมรักคุณ จงเทียนหยู่วันนี้ผมจะนอนกับคุณ!”คำพูดประเภทนี้ ล้อมจงเทียนหยู่ไว้แน่น

บอดี้การ์ดทั้งสี่คนของจงเทียนหยู่ไม่ทันรู้ตัว ก็ถูกกลุ่มคนสองสามร้อยคนเบียดออกจากฝูงชนไป เมื่อเห็นเหล่าชายฉกรรจ์จำนวนมากมายขนาดนี้ พวกเขาเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้

แต่จงเทียนหยู่ที่ถูกนักเลงรูปร่างใหญ่โตล้อมไว้ ทำให้เขาตกใจกลัวมาก เขาถามอย่างหวาดกลัวว่า“พะ……พวกคุณจะทำอะไรน่ะ?”

มีคนตะโกนว่า“บัดซบ!ยังต้องถามอีกหรอ?กูเป็นแฟนคลับที่ภักดีต่อมึงนะเว่ย!มึงมาจินหลิง กูก็ต้องมารับมึงที่สนามบินสิ!”

จงเทียนหยู่จะร้องไห้อยู่แล้ว กำลังคิดในใจว่าฉันจะไปมีแฟนคลับอย่างพวกแกได้ยังไง?พวกแกต้องการมาทำร้ายฉันใช่ไหม?

ดังนั้น เขาจึงโพล่งออกไปว่า“พวกคุณต้องเข้าใจอะไรผิดแน่!รีบปล่อยผมออกไปนะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่เกรงใจ!”

เมื่อสิ้นเสียง จู่ๆก็มีคนตบหน้าเขาไปหนึ่งฉาด แล้วสบถว่า“บัดซบ!กูขี่มอเตอร์ไซต์มาตั้งไกลเพื่อมารับมึงที่สนามบิน มึงกล้าพูดกับกูแบบนี้หรอวะ กูไว้หน้ามึงเกินไปแล้วใช่ไหม?”

“จริงด้วย!”ไม่รู้ว่าใครตบเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็มีคนบีบแก้มของเขาอย่างรุนแรง แล้วตะคอกด้วยความโกรธเคืองว่า“แม่งเอ้ย มีใครพูดกับแฟนคลับอย่างมึงบ้าง?พูดกับกูใหม่เดี๋ยวนี้นะ!”