จงเทียนหยู่ถูกตบจนสมองดังวิ้งๆ

แรงตบติดต่อกันสองครั้ง ทำให้เขาถูกตบจนมองหาอะไรไม่เจอ

คนที่คาบช้อนเงินช้อนทองเกิดมาแบบเขา ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยโดนตบมาก่อน มาวันนี้พึ่งลงจากสนามบินก็ถูกตบเข้าให้ถึงสองครั้ง และยังถูกคนบีบแก้มอย่างรุนแรงแบบนี้อีก ความรู้สึกแบบนี้มันทำให้เขาแทบอยากจะตาย

เขาในตอนนี้ เหมือนคนกากที่อยู่ท่ามกลางวงล้อมของหมาป่า

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับชายฉกรรจ์ที่ดุร้ายแบบนี้ เขาตกใจกลัวจนขวัญกระเจิง

บอดี้การ์ดไม่มีประโยชน์อะไรตั้งนานแล้ว ตอนนี้เขากลายเป็นของเล่นของอีกฝ่าย ดังนั้นจึงทำได้เพียงลองถามไปว่า“พี่ชายทุกท่าน มีอะไรเข้าใจผิดรึเปล่าครับ……”

เนื่องจาก ในวิดีโอคอลเมื่อสักครู่เห็นได้ชัดว่ามีสาวสวยยืนรอรับอยู่หลายร้อยคน แต่เมื่อออกมาพบว่า มีสาวสวยแม้แต่คนเดียว กลับกันมีนักเลงหลายร้อยชีวิตเพิ่มขึ้นมา ดูก็รู้ว่ามันผิดปกติ!

“ไม่มีอะไรเข้าใจผิดหรอก!”ผู้ชายที่บีบแก้มของเขาอยู่พูดอย่างเย็นชาว่า“เราเป็นแฟนคลับของแกกันทั้งนั้นแหละ รักมากจนแทบไม่ไหวแล้ว ได้ข่าวว่าแกมาที่จินหลิง ดังนั้นเราจึงรีบมาต้อนรับแกเลยไง เป็นยังไงล่ะ?ไม่พอใจกับการต้อนรับของเราอย่างงั้นหรอ?”

จงเทียนหยู่พูดด้วยใบหน้าเศร้า“พี่ชายอย่าล้อเล่นกับผมเลย……คนแบบผม ควรค่าอะไรแก่การที่พวกพี่ชายชอบกันล่ะ ถ้าน้องชายทำอะไรผิดไป ขอให้ทุกท่านพูดมาได้เลย ผมจะแก้ไข แต่ไม่เห็นจำเป็นต้องแกล้งผมแบบนี้เลย……”

ผู้ชายคนนั้นหัวเราะ“โธ่ น้องชายพูดแบบนี้เห็นเราเป็นคนนอกเกินไปแล้ว เราเดินทางมาตั้งไกลเพื่อต้อนรับแก แน่นอนว่าเพราะชื่นชอบในความสามารถด้านดนตรีของแก อีกอย่าง เรายังเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับแกอย่างดีเยี่ยม ได้เวลาแล้วล่ะ รีบไปกันเถอะ!”

พูดจบ เขาก็ส่งสายตาให้ชายฉกรรจ์อีกคนหนึ่ง ทั้งสองยิ้มให้กัน แล้วรีบก้มตัวลง จากนั้นก็แบกขาของจงเทียนหยู่กันคนละข้าง แล้วแบกจงเทียนหยู่ขึ้นมา

หลังจากนั้น กลุ่มชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ก็ก้าวเท้ายกจงเทียนหยู่เดินออกไปข้างนอก กลุ่มคนส่งเสียงยินดีปรีดากันอย่างมีความสุข ฉากนั้นดูสวยมาก

ผู้ช่วยและบอดี้การ์ดที่มาจงเทียนหยู่ แต่ละคนต่างพากันตกใจ เมื่อเห็นว่าคุณชายของพวกเขาถูกกลุ่มคนใช้วิธีนี้ในการพาตัวออกไป เขาไม่รู้ว่าควรจะตามไปหรือยืนนิ่งๆห้ามขยับ เนื่องจากอีกฝ่ายมีจำนวนคนเยอะ และแต่ละคนก็ไม่เหมือนกับคนดีอะไร ถ้าทำให้อีกฝ่ายโกรธ มันก็เท่ากับการเอาไข่กระทบหินไม่ใช่หรอ?

ในขณะที่คนพวกนี้ลังเลไม่กล้าตัดสินใจอยู่นั้น ชายฉกรรจ์ที่เหลืออีกสิบกว่าคนก็ล้อมคนพวกนี้ไว้ตรงกลาง แล้วผลักพวกเขาเข้าไปในอาคารผู้โดยสารสำหรับเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว

ในตอนที่จงเทียนหยู่ถูกยกออกมา ถึงพบว่าเรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากล!

เพราะไม่มีผู้โดยสารที่ประตูของอาคารผู้โดยสาร เดิมอาคารผู้โดยสารมีขนาดเล็กอยู่แล้ว ยังสู้สถานีรถไฟในเมื่อเล็กๆไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ทันใดนั้น เขาพบอาคารผู้โดยสารหลักที่สวยงามอยู่ไม่ไกล อาคารหลักไม่เพียงแต่มีขนาดใหญ่ แต่ยัง มีการจราจรที่พลุ่งพล่านที่ประตู และมีผู้โดยสารเข้าออกจำนวนมาก

วินาทีเขาตระหนักได้ในทันที ว่าตั้งแต่ที่เขาลงจากเครื่องบินมา ก็ถูกคนวางแผนลอบกัดแล้ว!

เขาแอบพูดในใจอย่างอดไม่ได้ว่า“หรือว่าเซียวเวยเวยจะแกล้งฉันเข้าให้แล้ว?แม่งเอ้ย ผู้หญิงคนนี้กล้ามากจริงๆ แม้แต่ฉันยังกล้ากลั่นแกล้งหรอเนี่ย?!”

“ไม่สิ!น่าจะไม่ใช่เซียวเวยเวย เพราะแผนเดิมของฉันคือเดินทางออกจากอาคารผู้โดยสารหลัก แล้วจะมีแฟนคลับสาวสวยสามคนรอฉันปรากฏตัวขึ้นที่อาคารผู้โดยสารหลัก……”

“แต่ว่า คนในสนามบินพวกนั้นกลับพาฉันมาที่อาคารผู้โดยสารสำหรับเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว……”

“แม่งเอ้ย!ถึงว่าล่ะรถคันนั้นถึงได้ปิดตายหน้าต่างทุกบาน ไม่อยากให้ฉันเห็นว่าถูกลากมาที่อาคารผู้โดยสารสำหรับเครื่องบินส่วนตัวนี่เอง!นี่มันคือการวางแผนลอบกัดฉันชัดๆ!”

“ตกลงมันคือใครกันที่กล้าขนาดนี้ แม้แต่ฉันยังกล้ากลั่นแกล้ง?!หรือว่าจะเป็นไอ้หมาตระกูลเย่คนนั้นที่แฝงตัวอยู่ในจินหลิง?!เขาก็เป็นแค่คนรับใช้ของตระกูลเย่เท่านั้น ทำไมถึงกล้าลงมือกับฉันกัน?!”

ในขณะที่จงเทียนหยู่คิดไปต่างๆนานาอย่างไม่เข้าใจอยู่นั้น ชายฉกรรจ์ทั้งหมดก็ยัดเขาเข้าไปในรถบัสคันใหญ่