เมื่อจงเทียนหยู่ได้ยินแบบนั้น เขาถึงกับมึนงงในทันที

เขาแอบคิดว่า“นี่มันคำพูดที่คนพูดกันหรอห้ะ?เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ไงกัน?!นังแพศยาแซ่เย่ หรือว่าหล่อนจะให้ท้ายลูกหลานของตัวเองพอรู้ว่าฉันล่วงเกินหลานของเธอ เลยจงใจไม่อยากช่วยฉันพูด?!”

ในตอนที่เขากำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เย่ฉางหมิ่นพูดขอโทษขอโพย“เทียนหยู่ น้าไม่ได้โกหกจริงๆ ถ้าน้าเอ่ยปากพูด เย่เฉินอาจจะลงโทษหนักขึ้น ไม่มีทางลดลงแน่……”

เมื่อจงเทียนหยู่ได้ยินน้ำเสียงของเย่ฉางหมิ่นจริงใจมาก เขาจึงรู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้น เขาจึงโพล่งออกไปว่า“นะ……นี่มันเป็นเพราะอะไรหรอครับน้าเย่……ผม……ผมคิดไม่ออกจริงๆ……น้าเป็นอาของเขาไม่ใช่หรอครับ?หรือว่าแม้แต่น้าเขาก็ไม่ยอมไหวหน้าหรอครับ?”

เย่ฉางหมิ่นหัวเราะอย่างเย้ยหยัน“เหอะๆ……เขาน่ะหรอไว้หน้าฉัน?แม้แต่ลูกน้องของเขายังกล้าตบตีฉันเลย!อีกทั้งหลังจากที่ลูกน้องของเขาตบฉัน เขายังไม่เข้าข้างฉันเลย กลับกันยังเข้าข้างลูกน้องของเขาด้วย อีกทั้งวันตรุษจีนเขายังจับฉันขังไว้ที่จินหลิงด้วย ฉันขอร้องอ้อนวอนเขา เขาไม่สนใจฉันด้วยซ้ำ แม้แต่พ่อของฉันช่วยฉันพูดยังไม่มีประโยชน์อะไรเลย……”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เย่ฉางหมิ่นก็นึกถึงเหตุการณ์ที่ตนเคยถูกจับขังในสลัมของจินหลิง เธอก็รู้สึกเจ็บปวดมาก อดที่จะสะอื้นไม่ได้

หลังจากนั้น เธอก็พูดอีกว่า“นายว่า น้าขอร้องอ้อนวอนให้ตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วจะอ้อนวอนขอความเมตตาของนายได้ยังไง?”

จงเทียนหยู่ถึงกับมึนงง ในสมองราวกับถูกคนนับหมื่นใช้ใบมีดกรีดกระจกในเวลาเดียวกัน สมองของเขาแทบจะระเบิดออกมา

เขาโพล่งออกไปอย่างไม่รู้ตัวว่า“นะ……นี่มันสัตว์เดรัจฉานชัดๆ!เป็นคนยังไงกันที่ทำกับอาแท้ๆของตัวเองได้!”

เย่ฉางหมิ่นเข้าอกเข้าใจเหมือนกัน เธอถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย“เทียนหยู่ นายพูดถูก……”

เย่เฉินที่ไม่ได้พูดอะไรในตอนแรก จู่ๆก็เอ่ยปากถามว่า“เย่ฉางหมิ่น หรือคุณลืมไปแล้วว่าทำไมผมถึงขังคุณไว้ที่จินหลิง?”

เมื่อเย่ฉางหมิ่นได้ยินเสียงของเย่เฉิน เธอก็ตกใจจนขวัญกระเจิง

เธอไม่มีเวลาครุ่นคิด เธอถามโพล่งออกไปว่า“เทียนหยู่ นะ……นายเปิดลำโพงหรอ?!”

จงเทียนหยู่พูดอย่างเขินๆว่า“คะ……คือเย่เฉินให้ผมเปิดครับ……”

เย่ฉางหมิ่นรีบเปลี่ยนคำพูดอย่างเอาตัวรอด“เมื่อกี้น้ายังพูดไม่จบเลย!ที่เย่เฉินขังน้า มันเป็นเพราะน้าทำผิด น้าหาเรื่องใส่ตัวเองแหละ!”

พูดจบ เธอก็รีบพูดอย่างประจบสอพลอว่า“เย่เฉิน อย่าเข้าใจปิดนะ เมื่อกี้อายังพูดไม่ทันจบเลย นายอย่าคิดเป็นอย่างอื่นนะ……”

มุมมองของจงเทียนหยู่แทบพังทลาย!

“นี่ยังเป็นเย่ฉางหมิ่นอยู่หรอ?!”

“นี่เป็นคุณหนูใหญ่ผู้ที่ร้ายแซ่บแทบทรวงแห่งเย่นจิงไม่ใช่หรอ?!”

“ทั่วทั้งเย่นจิงมีใครไม่รู้บ้างว่า เย่ฉางหมิ่นเป็นคนยโสโอหัง ทำทุกอย่างตามอำเภอใจ ไม่เห็นใครหน้าไหนอยู่ในสายตาทั้งนั้น!”

“แต่ว่า จนถึงตอนนี้ กลับกลัวเย่เฉินคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้?เมื่อรู้ว่าเย่เฉินฟังอยู่ข้างๆ เธอเปลี่ยนไปราวกับหนูเห็นแมว?!การเอาตัวรอดมันน่ากลัวมากจริงๆ!”

“ตกลงเย่ฉางหมิ่นอ่อนแอเกินไป หรือเย่เฉินแข็งแกร่งเกินไป?!”

ในตอนที่จงเทียนหยู่ตกตะลึงไม่หาย เย่เฉินก็เอ่ยปากถามเย่ฉางหมิ่นว่า“พูดมาขนาดนี้ อันที่จริงคุณก็แค่อยากมาช่วยไอ้หมอนี่พูดขอร้อง ไม่ใช่หรอ?”

เย่ฉางหมิ่นรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว

เธอพบว่าเย่เฉินเป็นคนชั่วจริงๆ