เฉินตัวตัวมองไปที่ซูจือเฟย แล้วพูดอย่างจริงจังว่า“คุณชายซู เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาที่ว่ามันจะออกมาดีหรือไม่ดี นี่มันเป็นปัญหาเรื่องของหลักการ การร่วมงานของเราคือทำหน้าที่ของใครของมัน ทำงานของตัวเองให้ดี ในขณะเดียวกันต้องเคารพคนอื่นๆด้วย คุณเข้ามาแทรกแซงการทำงานของเราแบบนี้ มันไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก ถ้าชิวอี๋รู้ เธอจะต้องโกรธมากแน่ๆ!”

พูดจบ เฉินตัวตัวก็หันหลังไปพูดกับผู้ช่วยคนหนึ่งที่ตนพามาด้วย“เรียกบริษัทที่รับผิดชอบมาที ฉันอยากถามเขาว่า ทั้งๆที่เราเป็นคู่สัญญาของพวกเขา ทำไมพวกเขาจะต้องปิดบังเรื่องที่พวกเขาทำงานร่วมกับคนอื่น เพื่อเปลี่ยนแปลงโปรเจกต์ของเรา!”

ผู้ช่วยคนนั้นรีบกล่าวว่า“ได้ค่ะพี่ตัวตัว ฉันจะรีบไปตามตัวเขามาค่ะ!”

ซูจือเฟยรีบขวางเธอไว้ แล้วพูดกับเฉินตัวตัวว่า“โธ่ตัวตัว ทุกคนก็ต่างอยากทำให้คอนเสิร์ตนี้ออกมาสมบูรณ์แบบกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเรื่องนี้คุณไม่จำเป็นต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ก็ได้มั้ง?นอกจากนี้ บริษัทที่รับผิดชอบผมก็เป็นคนให้เงินพวกเขาเอง แต่พวกเขาก็รับประกันว่าจะทำงานให้ดีที่สุด คุณให้คนลองแสงสีเสียงดูก่อนก็ได้ ขอแค่เอฟเฟกต์ดีกว่าก่อนหน้านี้ นี่ก็พิสูจน์ได้แล้วไม่ใช่หรอว่างานพวกนี้ไม่ได้ทำไปโดยเปล่าประโยชน์”

พูดจบ ซูจือเฟยก็พูดต่อไปว่า“อีกทั้ง อุปกรณ์แสงสีเสียงยังถูกควบคุมจัดการโดยมืออาชีพอย่างพวกคุณ ไม่ว่าคุณกู้จะมาซ้อม หรือจัดแสดง เธอให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่สุด แต่ไม่ใช่ยี่ห้อของอุปกรณ์แสงสีเสียง ขอแค่คุณไม่บอกกับเธอ เธอจะรู้ได้ยังไงล่ะ?ถ้าเธอมาถึงแล้วพบว่าเอฟเฟกต์การแสดงมันดีกว่าปกติ เธอคงจะต้องดีใจมากแน่ๆ รอหลังจากที่จบจากคอนเสิร์ต ผมจะไปขอโทษเธอด้วยตัวเองเลย และจะไม่ให้พวกคุณรับเคราะห์เด็ดขาด คุณว่าไง?”

เฉินตัวตัวรู้ดีว่าซูจือเฟยจะทำอะไร

ที่เขาทำแบบนี้ ก็เพราะแค่อยากเอาใจกู้ชิวอี๋เท่านั้น

อะไรคือการรอจบจากคอนเสิร์ตแล้วค่อยไปขอโทษเธอ?

น่าจะเป็นการไปรับหน้ามากกว่า?

เวลานี้เอง ซูจือเฟยก็พูดขึ้นมาอีกว่า“ตัวตัว พรุ่งนี้คุณกู้จะมาซ้อมแล้ว คืนของวันมะรืนงานคอนเสิร์ตก็จะเริ่มแล้ว ตอนนี้ชุดอุปกรณ์ทั้งหมดก็ประกอบเสร็จแล้ว มาเปลี่ยนแปลงตอนนี้คงไม่ได้แล้วล่ะ ดังนั้นครั้งนี้คุณช่วยผมหน่อยนะ ผมรับรองแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแน่นอน”

หลังจากเฉินตัวตัวคิดหน้าคิดหลังแล้ว ก็คิดว่าที่ซูจือเฟยพูดมาก็มีส่วนถูก งานคอนเสิร์ตของคนหลายหมื่น ลำพังแค่ประกอบเวทีก็ใช่เวลาหลายวันแล้ว การขนย้ายอุปกรณ์นานกว่าอีก ตอนนี้อยากจะเปลี่ยนกลับเป็นอุปกรณ์เก่าคงจะเป็นไปไม่ได้ ดูท่าคงทำได้แค่ตกกระไดพลอยโจนแล้วล่ะ

เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอก็ทำได้แค่สั่งช่างไฟและช่างเสียง“พวกคุณสองคนวันนี้ลำบากกันอีกหน่อยนะคะ ทดลองอุปกรณ์ทั้งหมดใหม่อีกครั้ง ดูสิว่าชุดอุปกรณ์นี้เข้ากับอุปกรณ์ก่อนหน้าทั้งหมดได้ไหม ถ้าทำได้จะเป็นอะไรที่ดีมาก แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็รีบหาวิธีแก้ไข ถึงจะต้องอดหลับอดนอน ก็ต้องมั่นใจให้ได้ว่าพรุ่งนี้จะจัดการเสร็จทั้งหมด!”

ทั้งสองตอบตกลงอย่างไม่ลังเล จากนั้นก็เริ่มทำงานกันทันที

ซูจือเฟยที่อยู่ข้างถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วทำมือคารวะเฉินตัวตัว พลางพูดอย่างซาบซึ้งว่า“ตัวตัว ครั้งนี้ผมต้องขอบคุณคุณมากๆนะครับ”

เฉินตัวตัวเห็นท่าทีเคารพอย่างจริงใจ ก็แอบสะท้อนใจ“ซูจือเฟคนนี้ เพื่อคอนเสิร์ตของกู้ชิวอี๋เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ถ้าหลังจากจบคอนเสิร์ต ได้เห็นชิวอี๋เตรียมเซอร์ไพรส์ให้กับเย่เฉิน จะรู้สึกเสียใจไหมนะ จะแหลกสลายคาที่ไหมเนี่ย?