เฉินตัวตัวที่หน่ายใจแต่ก็ต้องเปิดกระเป๋าเดินทางออกตามคำขอของกู้ชิวอี๋ แล้วเอาของที่กู้ชิวอี๋นึกถึงอยู่ตลอดเวลาออกมา

กู้ชิวอี๋มองดูผ่านวิดีโอคอลอยู่นาน หลังจากที่มั่นใจว่าไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้นถึงถอนหายใจ แล้วพูดกำชับว่า“ตัวตัว เธอจะต้องช่วยฉันเก็บของรักของหวงไว้ให้ดีนะ อย่าให้มีอะไรผิดพลาดล่ะ”

“วางใจเถอะ”เฉินตัวตัวเบะปากแล้วพูดว่า“ถึงฉันจะเป็นอะไรไปก็ไม่มีทางให้มันเป็นอะไรหรอก พอใจรึยัง?”

“อิๆ!”กู้ชิวอี๋ใช้มือทั้งสองข้างเท้าคางอย่างมีความสุด ทำท่ายิ้มเหมือนดอกไม้“ตัวตัวดีที่สุดเลย!รักนะคะ!”

“อย่านะ อย่ารักฉันนะ!”เฉินตัวตัวทำหน้ารังเกียจ“เธอไปรักพี่เย่เฉินของเธอเถอะ!”

กู้ชิวอี๋พูดอย่างจริงจัง“พูดอีกก็ถูกอีก!ฉันพูดสองคำนี้กับเธอได้ยังไงเนี่ย ทั้งๆที่มีแค่เย่เฉินถึงเหมาะกับคำนี้!”

เฉินตัวตัวพูดอย่างโกรธเคือง“กู้ชิวอี๋!เธอมันนังเนรคุนเห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน!เสียดายที่ฉันดูแลเธอดีขนาดนี้!”

กู้ชิวอี๋แลบลิ้น แล้วทำหน้าผี“แบะๆๆ……ฉันจะลุกจากเตียงแล้ว ไม่สนใจเธอแล้ว บายๆ!”

พูดจบ ก็รีบจัดการวางสาย

เฉินตัวตัวส่ายหัวไปมาอย่างหน่ายใจ แล้วนำของรักของหวงของกู้ชิวอี๋เก็บ จากนั้นก็รีบเดินออกจากห้องพัก หลังจากรวมตัวกับทีมงานคนอื่นๆเสร็จ ก็เดินทางไปยังสถานที่จัดคอนเสิร์ตเพื่อทำการตรวจสอบ

แน่นอนว่าซูจือเฟยอยู่เป็นเพื่อนตลอดทาง

ขบวนรถนำทีมของกู้ชิวอี๋เดินทางไปยังศูนย์กีฬาโอลิมปิก ตอนนี้สถานที่จัดคอนเสิร์ต ได้รับการจัดตั้งเรียบร้อยแล้ว

รถบรรทุกอุปกรณ์ที่ซูจือเฟยเป็นคนจัดการ ได้นำอุปกรณ์ทั้งหมดที่ทุกคนนำมาจากเย่นจิงขนถ่ายมาไว้ที่สถานที่จัดคอนเสิร์ตเรียบร้อยแล้ว

พอเข้ามาภายในที่จัดการคอนเสิร์ต เฉินตัวตัวก็รีบสั่งกับคนข้างๆว่า“ทุกคนรีบทำงานในส่วนของตัวเองเร็วเข้า กลุ่มที่รับผิดชอบเวทีรีบทำการตรวจสอบอุปกรณ์เร็วเข้า เน้นตรวจสอบที่ลิฟต์นะ ต้องแน่ใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด”

“นอกจากนี้ช่างไฟให้รีบเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ เพื่อลองใช้เอฟเฟกต์แสงดู และให้ตรวจสอบทีละแถวว่ามีอุปกรณ์ที่เสียหายหรือมีอันตรายอะไรซ่อนอยู่ไหม”

“ช่างเสียงรบกวนลองตรวจสอบอุปกรณ์เสียงด้วยค่ะ ตรวจสอบว่ามีปัญหาอะไรไหม และให้ตรวจสอบเสียงในฮอลล์อีกครั้งด้วยค่ะ เราต้องทำให้แน่ใจว่าผู้ชมในคอนเสิร์ตจะได้ยินเสียงที่ดีที่สุด”

ซูจือเฟยที่อยู่ข้างๆได้ยินเฉินตัวตัวพูด เขารีบกล่าวกับเฉินตัวตัวว่า“ตัวตัว คอนเสิร์ตในครั้งนี้ ผมให้เพื่อมผมซื้อชุดอุปกรณ์แสงและเสียงที่ดีมากจากอเมริกามา เพราะอุปกรณ์ชุดนี้หายากจริงๆ ดังนั้นผมเลยถือวิสาสะ ให้บริษัทที่รับผิดชอบเปลี่ยนชุดอุปกรณ์ทั้งหมด โดยไม่ได้บอกกล่าวกับคุณ ต้องขอโทษคุณด้วย”

เมื่อเฉินตัวตัวได้ยินว่าเปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งหมด เธอก็ชักสีหน้า แล้วพูดอย่างประหม่าด้วยความโกรธเล็กน้อย“คุณชายซู ถ้าฉันจำไม่ผิด เราร่วมงานกับคุณ แค่การเพิ่มชื่อไปด้วยเท่านั้นนะคะ แต่การร่วมทำบุญการกุศลของเรากับคุณ ทำไมคุณถึงเปลี่ยนอุปกรณ์แสงสีเสียงของเราล่ะ?คอนเสิร์ตใหญ่ขนาดนี้ แสงสีเสียงทุกอย่างต้องเดินตามแบบของเรา กระทั่งไฟบนเวที ก็ต้องสว่างตามเพลงทุกเพลงและทุกวินาที เราจัดการวางแผนไว้ทั้งหมดแล้ว คุณเปลี่ยนโดยถือวิสาสะแบบนี้ ถ้าเกิดเราไม่สามารถทำตามขั้นตอนแผนงานของเราได้ล่ะ เอฟเฟต์บนเวทีก็จะเกิดความผิดพลาด!”

ซูจือเฟยรีบอธิบายว่า“ตัวตัวคุณอย่าใจร้อนสิ ผมรู้ว่าผมไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายแผนการทำงานของพวกคุณ แต่ผมทำไปเพราะหวังดีนะครับ เพราะถึงยังไงนี่ก็เป็นการทัวร์คอนเสิร์ตแรกในปีนี้ของคุณกู้ ผมอยากให้คอนเสิร์ตในครั้งนี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเลยทำไปโดยไม่ได้บอกกล่าวกับคุณล่วงหน้า เปลี่ยนแปลงแผนงานไปเล็กน้อย”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ซูจือเฟยก็รับประกันว่า“แต่ตัวตัวคุณวางใจเถอะ ครั้งนี้ผมได้จ้างช่างแสงสีเสียงไฟของอเมริกามาโดยเฉพาะ และพวกเขาจะทำงานร่วมกับทีมงานของพวกคุณ อุปกรณ์ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงโดยอิงจากโปรแกรมก่อนหน้านี้ทั้งหมด ดังนั้นการแสดงทั้งหมดคุณสามารถวางใจได้เลย มีแต่จะอัพเกรดขึ้น ไม่ทำให้ผิดพลาดแน่นอน”