เมื่อได้ยินว่าเซียวชูหรันมีลูกค้าใหม่อีกแล้ว เย่เฉินก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

บริษัทของเซียวชูหรันมีธุรกิจสองสายงาน หนึ่งในนั้นคือการออกแบบต่อเติม อีกสายหนึ่งคือการตกแต่งภายใน

หนึ่งในนั้น การออกแบบเป็นธุรกิจที่สำคัญที่สุดของเซียวชูหรัน เพราะเธอชำนาญในเรื่องการออกแบบอยู่แล้ว

สำหรับธุรกิจการออกแบบภายใน เธอรับบทเป็นหัวหน้างานมากกว่า งานอื่นๆต้องจ้างบริษัทภายนอกเข้ามาทำ

ปัจจุบันงานออกแบบตี้เหากรุ๊ปได้สำเร็จลุล่วงไปแล้ว การต่อเติมได้เดินไปในทิศทางที่เป็นระเบียบ อีกทั้งถูกต้อง ดังนั้นความสนใจของเซียวชูหรันและพนักงานส่วนหนึ่งจึงปล่อยออกมา เริ่มหาโปรเจกต์ใหม่

หลังจากทาขนข้าวเช้าเสร็จ สองสามีภรรยาก็ขับรถออกจากบ้าน เย่เฉินขับรถส่งเซียวชูหรันมุ่งหน้าไปยังเขตเหล่าเฉิง

หลังจากขับมาสักระยะ เย่เฉินก็พูดกับเซียวชูหรันว่า“คุณครับ คุณบอกโลเคชันคร่าวๆกับผมหน่อยนะ ผมจะเปิดจีพีเอสนำทาง จะได้ดูข้อมูลการจราจรด้วย”

เซียวชูหรันกล่าว“บ้านเลขที่ฉันจำไม่ได้ค่ะ แค่ฉันรู้ว่ามันอยู่ละแวกใกล้กับโบสถ์คาทอลิกของเขตเหล่าเฉิง คุณขับตรงไปก่อนก็ได้นะคะ”

เมื่อเย่เฉินได้ยินอย่างนั้น เขาอดที่รู้สึกตกใจไม่ได้

นี่เป็นบ้านเก่าที่เขาเคยอาศัยกับพ่อแม่ตอนเด็กไม่ใช่หรอ มันใกล้กับโบสถ์คาทอลิกของเขตเหล่าเฉิงพอดี

เขาอดคิดในใจไม่ได้ว่า“ลูกค้าคนใหม่ของเมียฉัน คงไม่ใช่ตู้ไห่ชิงน้าตู้แม่ของซูจือหยูหรอกใช่ไหม?”

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจของเย่เฉินก็รู้สึกว่าเหมือนตัวเองจะคิดมากไป

เนื่องจากมีตึกราวบ้านช่องที่เป็นประวัติศาสตร์จำนวนมากในเขตเหล่าเฉิง บ้านเก่ามากมายไม่อนุญาตให้รื้อถอน แต่ที่นั่นยังมีประชาชนอาศัยอยู่จำนวนมาก ดังนั้นลูกค้าของเซียวชูหรัน คงจะไม่บังเอิญเป็นตู้ไห่ชิงหรอกใช่ไหม?

ในชั่วขณะหนึ่ง เย่เฉินเคยคิดอยากจะแอบถามภรรยาสักคำถาม ยกตัวอย่างเช่นลูกค้าใหม่แซ่อะไร แต่พอนึกๆดูแล้วเขาก็คิดว่าช่างมันเถอะ

เมื่อเขาขับรถมาที่โบสถ์คาทอลิกในเขตเหล่าเฉิง เย่เฉินก็เลี้ยวซ้ายตามคำแนะนำของเซียวชูหรัน เมื่อเห็นว่าขับใกล้เข้าไปบ้านเก่าที่อยู่ในวัยเด็กของตัวเองเรื่อยๆ หัวใจของเย่เฉินเกิดความรู้สึกไม่ดีบางอย่างขึ้น

เป็นไปตามคาด ในตอนที่เขาขับเข้ามาในตรอกของบ้านเก่านั้น เซียวชูหรันก็ชี้ไปยังบ้านเก่าหลังนั้นอย่างมั่นใจ แล้วกล่าวว่า“คุณคะ บ้านของลูกค้าของฉันก็คือหลังนั้นแหละค่ะ คุณจอดรถไว้ที่หน้าประตูก็พอแล้ว”

เย่เฉินอุทานในใจ“นี่สินะที่เรียกว่าสิ่งที่ควรมาหลบยังไงก็หลบไม่พ้น”

จากนั้น เขาก็แสร้งถามเซียวชูหรันว่า“เมียจ๋า อีกเดี๋ยวผมมีธุระ คุณจะให้ผมรอคุณไหมครับ?”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ”เซียวชูหรับรีบตอบกลับ“คุณไปทำธุระของคุณเถอะ ฉันว่าทางฉันน่าจะต้องอยู่ตลอดเช้า ถ้าเสร็จแล้วฉันจะเรียกแท็กซี่ไปโรงแรมของตี้เหากรุ๊ปค่ะ คืนนี้คุณไปรับฉันที่นั่นแล้วกัน”

“ได้ครับ”เย่เฉินถอนหายใจอย่างอก

ตอนนี้สิ่งที่เขาคิดก็คือ ทางที่ดีอย่าพบกับตู้ไห่ชิง และซูจือหยูสองแม่ลูก ภายใต้สถานการณ์แบบนี้จะดีที่สุด

ดังนั้น เขาจึงค่อยขับรถไปจอดที่หน้าประตูของบ้านเก่า หลังจากนั้นก็รอให้เซียวชูหรันลงจากรถเสร็จ เขาก็รีบขับรถออกไปทันที

แต่ทว่า กลัวสิ่งไหนได้สิ่งนั้น

เขาพึ่งจอดรถสนิท รถเบนซ์สีดำคันหนึ่งก็จอดอยู่ด้านหลังของรถเขา

คนขับรถคือชายวัยกลางคนคนหนึ่ง หลังจากที่เขาลงจากรถ ก็รีบเปิดประตูทั้งสองด้านออก ซูจือหยูกับตู้ไห่ชิงแม่ของเธอออกจากรถกันมาคนละด้าน

และในเวลานี้เอง เซียวชูหรันก็ผลักประตูลงจากรถเช่นกัน