ครั้นทางฝั่งนี้ เย่เฉินลูบใบหน้าโดยจงใจทำเหมือนปกติ จากนั้นก็เอ่ยกับกู้ชิวอี๋ว่า: “หนานหนานเธอมาตั้งไกลแบบนี้ก็ต้องเหนื่อยเย่เลย ฉันส่งเธอไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อนดีกว่า”

กู้ชิวอี๋รีบคล้องแขนของเขา แล้วเอ่ยถามทันที: “พี่เย่เฉิน อีกสักครู่พี่ยังมีธุระอยู่ไหมคะ?”

เย่เฉินส่ายหน้า: “ไม่มีธุระอะไรหรอก มีอะไรเหรอ?”

กู้ชิวอี๋พูดออดอ้อน: “ถ้างั้นตอนเที่ยงก็อยู่กินข้าวกับฉันที่โรงแรมสักมื้อสิคะ?”

“ได้เลย” เย่เฉินตอบรับไปโดยไม่คิดสักนิด ถึงอย่างไรตอนเที่ยงเขาก็ไม่มีความคิดจะกลับบ้าน กินที่ไหนก็เหมือนกัน

ดังนั้นเขาจึงได้เปิดประตูรถที่นั่งฝั่งคนขับ พร้อมเอ่ยขึ้นมา: “ไปเถอะ เดี๋ยวฉันส่งเธอไปโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง”

“ค่ะ!” กู้ชิวอี๋รีบหอบดอกไม้แล้วเดินเข้าไปทันที

เย่เฉินทักทายกับเฉินจื๋อข่าย เฉินจื๋อข่ายเองก็เข้าไปนั่งในรถเขาเช่นกัน พร้อมขับรถอยู่ข้างหน้านำทางไป ออกจากสนามบิน

ระหว่างทาง เย่เฉินเอ่ยถามกู้ชิวอี๋: “หนานหนาน พรุ่งนี้ลุงกู้กับน้าหลินจะมาตอนไหนเหรอ?”

กู้ชิวอี๋เอ่ย: “พวกท่านน่าจะมาพรุ่งนี้เวลานี้เหมือนกันค่ะ หรืออาจจะช้ากว่านี้นิดหน่อย”

ขณะที่พูดอยู่ กู้ชิวอี๋ก็เอ่ยขึ้นอีก: “จริงสิ พี่เย่เฉิน ถ้าพรุ่งนี้เช้าพี่ไม่มีธุระอะไร พวกเราไปรับพวกท่านที่สนามบินด้วยกันก็ได้นี่คะ!”

เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยว่า: “งั้นก็ได้ เดี๋ยวอีกสักหน่อยเธอไปยืนยันเวลากับลุงกู้ น้าหลินหน่อยละกัน ถึงเวลาพวกเราก็ไปรับพวกท่านพร้อมกัน”

กู้ชิวอี๋รีบควักโทรศัพท์ออกมา ยิ้มพร้อมเอ่ยขึ้น: “ไม่ต้องรออีกสักหน่อยหรอกค่ะ ตอนนี้ฉันวิดีโอคอลกับคุณพ่อได้เลย”

เย่เฉินรีบเอ่ย: “ไม่รีบหรอก ถ้าถามตอนนี้ ลุงกู้อาจกำลังทำงานอยู่ก็ได้ ตอนเย็นเธอค่อยถามก็ไม่เป็นอะไรหรอก”

กู้ชิวอี๋โบกไม้โบกมือ: “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่เย่เฉิน ถึงยังไงฉันก็ต้องแจ้งข่าวว่าถึงอย่างปลอดภัยแล้วเหมือนกัน”

ขณะที่เอ่ยอยู่ ก็กดต่อสายวิดีโอคอล

ไม่นาน กู้เย้นจงก็รับสายวิดีโอคอล ยิ้มพร้อมเอ่ยถามว่า: “หนานหนาน ลูกถึงจินหลิงอย่างปลอดภัยแล้วใช่ไหม?”

กู้ชิวอี๋ยิ้มเอ่ยว่า: “พ่อคะ หนูถึงแล้ว พี่เย่เฉินมารับหนูค่ะ”

ขณะที่เอ่ย เธอก็รีบถือโทรศัพท์ทางขวามือ แบบนี้กล้องก็จะถ่ายเห็นเย่เฉินที่ขับรถอยู่ข้างซ้ายพอดี

กู้เย้นจงเห็นเย่เฉินก็รีบยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “โธ่ เฉินเอ๋อ ลำบากเธอไปรับหนานหนานที่สนามบินโดยเฉพาะแย่เลยนะ!”

เย่เฉินยิ้ม และเอ่ยว่า: “ลุงกู้เห็นผมเป็นคนนอกซะแล้ว หนานหนานมาจินหลิงทั้งที ผมจะไม่ไปรับเธอได้ยังไงล่ะครับ”

กู้เย้นจงหัวเราะหึหึ พร้อมเอ่ยว่า: “ตอนแรกลุงกับน้าหลินก็ว่าจะไปวันนี้เหมือนกัน แต่ว่าทางบริษัทมีการประชุมคณะกรรมการผู้บริหาร วันนี้ปลีกตัวออกมาไม่ได้จริงๆ ลุงกับน้าหลินก็เลยได้ไปจินหลิงพบหน้าเธอพรุ่งนี้เช้านะ”

“ครับลุงกู้” เย่เฉินรีบเอ่ยต่อ: “พรุ่งนี้ผมกับหนานหนานจะไปรับลุงกับน้าหลินพร้อมกันนะครับ”

กำลังเอ่ยอยู่ ทางฝั่งนั้น หลินหว่านชิวก็เดินเข้ามายังห้องทำงานของกู้เย้นจง พร้อมเอ่ย: “เหล่ากู้ ทุกคนมาครบกันแล้ว คุณมาได้แล้ว”

กู้เย้นจงเยิ้ม เอ่ยว่า: “ผมกำลังวิดีโอคอลกับหนานหนาน เย่เฉินอยู่ คุณจะมาคุยอะไรกับเฉินเอ๋อสักสองสามคำหน่อยไหม?”

“งั้นเหรอ?” หลินหว่านชิวเอ่ยขึ้นด้วยความปีติยิ่ง เร่งรีบเดินไปยังข้างหน้ากู้เย้นจงทันที จากนั้นก็โน้มตัวเล็กน้อยยิ้มให้กับกล้อง เอ่ยว่า: “เฉินเอ๋อ พรุ่งนี้ก็วันเกิดเธอแล้ว น้าขออวยพรวันเกิดให้ล่วงหน้านะ!”

เย่เฉินรีบเอ่ย: “ขอบคุณครับน้าหลิน!”

หลินหว่านชิวได้คิดว่าเย่เฉินเป็นลูกเขยของตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว ถึงขั้นปฏิบัติเหมือนเป็นลูกชายแท้ๆ ของตน ดังนั้นจึงรู้สึกสนิทกับสนมกับเขามาก เธอยิ้มพร้อมเอ่ย: “ช่วงนี้เธอไม่มาเยี่ยมลุงกู้ของเธอที่เย่นจิงเลยนะ พวกเราสองคนคิดถึงเธอมากเลย ลุงกู้ของเธอเอาแต่บ่นถึงเธออยู่ที่เย่นจิงทุกวันเลยนะ”

กู้เย้นจงยิ้ม เอ่ยว่า: “พูดเหมือนว่าคุณไม่บ่นถึงอย่างนั้นแหละ ทำไมผมถึงจำได้ว่าปกติแล้วคุณบ่นถึงเขาบ่อยที่สุดเลยล่ะ?”

หลินหว่านชิวยิ้มเอ่ยว่า: “ในใจของฉัน เฉินเอ๋อก็เป็นเหมือนลูกชายของตัวเอง ฉันเป็นแม่จะบ่นถึงหน่อยไม่ได้ตรงไหนเหรอ?”

กู้เย้นจงพยักหน้า พูดกับเย่เฉิน: “เฉินเอ๋อดูเอาเองละกัน ลุงกับน้าหลินเห็นเธอเป็นลูกของตัวเองไปแล้วนะ จากนี้ไปถ้าเธอมีเวลาว่าง จะต้องมาเยี่ยมพวกเราที่เย่นจิงบ่อยๆ นะ!”

เย่เฉินเอ่ยตอบรับปากโดยไม่ลังเลสักนิด: “ลุงกู้ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะไปเยี่ยมทั้งสองท่านแน่นอน”

กู้เย้นจงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เอ่ยว่า: “เฉินเอ๋อ ลุงกับน้าหลินของเธอจะต้องไปเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารแล้ว แค่นี้ก่อนนะ รอพวกเราเจอกันพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน!”