เย่เฉินคิดไม่ถึงจริงๆ ความกล้าที่นายหญิงใหญ่เซียวกล้าวิ่งมาอวดเก่งใส่ตัวเขา นั่นก็คือเซียวเวยเวย
เธอจะต้องยังไม่รู้แน่ๆ เซียวเวยเวยสามารถเปลี่ยนจากสาวโมเดลลิ่งที่ยอมให้ผู้คนรังแก กลายมาเป็นผู้จัดการบริษัทโมเดลลิ่งซ่างเหม่ยได้ ล้วนเป็นเพราะตัวเขาเห็นว่าเธอน่าสงสาร เลยให้โอกาสกับเธอสักครั้งก็เท่านั้น
ฟังมาถึงนี่ เขามองนายหญิงใหญ่เซียว เหมือนกับว่ากำลังมองดูลิงโง่ พูดอย่างล้อเลียนว่า “นายหญิงใหญ่ สิ่งที่คุณพ่ายแพ้มากที่สุดในชีวิตนี้ก็คือสายตาสั้น หากว่าคุณสามารถมองปัญหาได้ลึกอีกสักหน่อย ตระกูลเซียวก็คงไม่ต้องตกอับมาจนถึงจุดนี้”
ตามมาด้วย เขาพูดอีกว่า “ถ้าหากว่าคุณยังอยากจะอยู่ Tomson Riviera งั้นก็จำไว้ว่าต่อไปก็อย่ามายุ่งเกี่ยวกับบ้านพวกเราอีก แต่ถ้าหากคุณทำไม่ได้ งั้นต่อไปคุณอาจจะไม่มีโอกาสอยู่ที่นี่ต่อไปแล้วละ”
พูดพวกนี้จบ เย่เฉินก็เตรียมจะปิดประตู แต่ไม่คิดเลยว่า นายหญิงใหญ่เซียวได้ยินคำพูดนี้ ก็ร้อนรนขึ้นมาทันที รีบเดินเข้ามา ขวางไว้ที่ประตู ด่าออกมาว่า “เย่เฉิน!แกกล้ามาสั่งสอนฉัน แกถือเป็นตัวอะไร?!ถ้าไม่ใช่เพราะตาแก่นั่นของฉันพาแกกลับมาจากไซต์งานก่อสร้าง ตอนนี้ก็ไม่รู้แกจะไปขอข้าวกินที่ไหนอยู่ แล้วยังกล้าพูดว่าฉันสายตาสั้น?! แกคิดว่าธุรกิจเมื่อก่อนของตระกูลเซียวของฉันนั้นลมพัดมาหรือไง?”
เย่เฉินส่ายหัว พูดว่า “ธุรกิจตระกูลเซียวของพวกคุณลมพัดมาหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ตอนนี้ได้ถูกคุณทำลายทิ้งหมดแล้ว บริษัทเซียวซื่อน่าจะโดนล้มละลายไปนานแล้วใช่มั้ย? ถ้าหากว่าผมเดาไม่ผิด ตอนนี้ทางธนาคารฝั่งนั้นคุณก็น่าจะยังติดหนี้อยู่นะ ไม่อย่างนั้นคฤหาสน์เก่าของคุณก็คบจะไม่ถูกธนาคารยึด ตอนนี้นอกจากที่ว่าคุณสามารถพักอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ของอู๋ตงไห่ชั่วคราวแล้ว คุณยังมีอะไรอีก? ถ้าไม่ใช่ว่าตอนนี้เซียวเวยเวยสามารถหาเงินได้เยอะหน่อย ตอนนี้คุณก็น่าจะยังดึงถุงพลาสติกอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่เลยมั้งครับ?”
นายหญิงใหญ่เซียวไม่คิดเลยว่า ทุกคำพูดของเย่เฉินจะแทงใจขนาดนี้ ตระกูลเซียวล้มละลาย เป็นเรื่องที่ก้นลึกหัวใจของเธอไม่สามารถรับได้อย่างมากที่สุด ส่วนถูกกดดันให้ไปทำงานที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ก็เป็นเรื่องที่ก้นลึกหัวใจของเธอรู้สึกอับอายมากที่สุด
เธอที่ลนลาน พูดว่า “เย่เฉิน! แกอย่าได้ใจเร็วไป! อีกไม่นานแกก็จะล้มเหลวเอง! ถึงตอนนั้นฉันจะรอหัวเราะพวกแกทั้งบ้าน!”
เย่เฉินพยักหน้า พูดยิ้มๆว่า “เชิญครับๆ ก็กลัวแค่ว่าร่างกายของยัยแก่อย่างคุณ จะรอไม่ถึงวันที่ผมล้มเหลว ถึงตอนนั้นไม่สามารถเห็นด้วยตาตัวเอง ก็คงจะน่าเสียดายเกินไปไม่ใช่หรอครับ?”
นายหญิงใหญ่เซียวกัดฟันเยาะเย้ยว่า “ฉันดูแล้วมันก็แค่เพียงเดือนสองเดือนนี้แล้วละ! ถึงตอนนั้นรอพวกคนรวยพวกนั้นรู้สึกตัว ไม่เพียงแต่จะขอเงินที่แกหลอกมาจากพวกเขาคืนไป แล้วยังจะส่งแกเข้าคุกด้วย และตัดสินแกจำคุกตลอดชีวิต!”
นายหญิงใหญ่เซียวยิ่งพูดยิ่งโมโห ด่าว่าอย่างกับขึ้นสมองว่า “ถึงตอนนั้น เซียวฉางควนกับหม่าหลันที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของแก ก็จะต้องไม่มีจุดจบที่ดีอะไรแน่นอน!”
พูดแล้ว เธอก็พูดอย่างโมโหอีกว่า “ใช่สิ ฉันเกือบจะลืมไปเลย! ยังมีเซียวชูหรันด้วย!”
สายตาของเย่เฉินเย็นชาขึ้นมาในทันที จ้องเธอและพูดอย่างเย็นชาว่า “นายหญิงใหญ่ ผมเห็นแก่เซียวชูหรัน ถึงได้ยังมีความอดทนกับคุณอยู่น้อยนิด แต่ถ้าหากคุณกล้าพูดจาไม่ดีใส่เธอ อย่าหาว่าผมไม่ให้เกียรติละ!”
“โอ๊ย! แกคิดว่ายัยแก่อย่างฉันเป็นคนถูกขู่โตมาหรือไง? แม้แต่คุกฉันยังเคยเข้าเลย ยังจะกลัวแก?!” นายหญิงใหญ่เซียวเห็นว่าเย่เฉินเหมือนว่าจะอ่อนไหวกับการที่ตัวเองพูดถึงเซียวชูหรันมาก จึงได้คิดว่าจับจุดอ่อนของเขาไว้ได้แล้ว ดังนั้น ความเย่อหยิ่งของเธอก็ยิ่งมากขึ้น
ตอนที่เธอเตรียมจะหาเรื่องพูดเซียวชูหรัน เสียดสีเย่เฉินดีๆสักหน่อย จู่ๆก็ได้ยินมีคนตะโกนเสียงดังมาว่า “คุณย่า! ท่านมาทำอะไรที่นี่คะ?!”
คนที่พูด กลับเป็นเซียวเวยเวย!