บทที่ 2966 ฉันตัดสินใจเอง

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

เซียวเวยเวยคิดไม่ถึงว่าเข็มขัดที่เธอซื้อให้เย่เฉินจะทำให้คุณย่าเดือดขนาดนี้

เมื่อเห็นท่าทางเจ้ากี้เจ้าการของคุณย่า เธอก็เริ่มฉุนขึ้นมาบ้างแล้ว หลุดปากพูดออกไปว่า “เงินที่ฉันใช้อยู่ในตอนนี้ป็นเงินที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของฉันทั้งนั้น ฉันจะซื้ออะไรให้ใคร มันเป็นสิทธิ์ของฉัน คุณย่าไม่มีสิทธิ์มายุ่ง!”

“ว่าไงนะ?! ฉันไม่มีสิทธิ์ยุ่งงั้นเหรอ?!” นายหญิงใหญ่เซียวเพิ่งอดกลั้นกับเย่เฉินมา ประจบประแจงสารพัดวิธียังถูกเย่เฉินแขวะกลับ ตอนนี้ในใจจึงอัดอั้นเป็นอย่างมาก พอมาเห็นว่าเซียวเวยเวยกล้าต่อปากต่อคำกับตัวเอง ไฟโทสะก็พลันลุกฮือ

เธอหยุดเดิน ดุด่าอย่างกรุ่นโกรธว่า “แกอย่าลืมสิ ฉันมีสิทธิ์ตัดสินใจทุกอย่างในครอบครัว เมื่อก่อนเป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น ในอนาคตก็เหมือนกัน!ในช่วงเวลาที่ครอบครัวกำลังลำบากแบบนี้ ควรที่จะใช้จ่ายอย่างรอบคอบ!การที่แกใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้ ก็เท่ากับว่าไม่สนความเป็นความตายของครอบครัวเรา!”

เซียวเวยเวยรู้สึกน้อยใจ แต่ก็ยังพูดออกมาอย่างกรุ่นโกรธว่า “เมื่อก่อนไม่ว่าเรื่องอะไรคุณย่าก็ตัดสินใจทุกอย่าง นั่นก็เพราะว่าคุณย่าถือครองทุกอย่างในบ้าน แต่ทุกอย่างที่ว่าก็สูญเสียไปเพราะฝีมือของคุณย่า!ตอนนี้ครอบครัวต้องกลับมาเริ่มที่ศูนย์ เงินที่ฉันหามาได้จากน้ำพักน้ำแรงของฉัน ทำไมต้องให้คุณย่าตัดสินใจด้วย?”

ยิ่งเซียวเวยเวยพูด ก็ยิ่งขึ้นเสียงสูง “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เรื่องของฉันฉันจะตัดสินใจเอง!ส่วนเงินที่ฉันหามาได้ ฉันจะแบ่งให้คุณย่าเอาไปใช้จ่าย และแบ่งให้พ่อกับพี่เป็นค่ารักษาพยาบาล ส่วนที่เหลือ ฉันจะใช้จ่ายยังไงก็เรื่องของฉัน คุณย่าไม่มีสิทธิ์มายุ่ง!”

นายหญิงใหญ่เซียวโกรธจนแทบบ้า กัดฟันกรอดแล้วดุด่าออกมาว่า “แกมันเนรคุณ!แกจะตามรอยเซียวชูหรัน ทรยศฉันอีกคนหรือไง?!”

กรอบตาของเซียวเวยเวยคลอไปด้วยหยาดน้ำใส “ตามรอยพี่ชูหรันก็ไม่เห็นมีอะไรไม่ดีตรงไหน พอไม่เชื่อฟังคุณย่าแล้ว เธอดูมีความสุขกว่าฉันตั้งเยอะ!”

ขณะที่พูด เธอก็เค้นเสียงแข็งออกมา “เรื่องที่ควรพูดฉันก็พูดออกมาหมดแล้ว ถ้าคุณย่ายอมรับได้ ก็เอาตามที่ฉันบอก ต่อไปนี้ฉันจะแบ่งค่าใช้จ่ายให้คุณย่าเป็นรายเดือน ค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือคุณย่าไม่ต้องมายุ่ง แต่ถ้าคุณย่ารับไม่ได้ พรุ่งนี้ฉันจะออกไปเช่าห้องอยู่คนเดียว ไม่ไหวจริงๆฉันก็จะนอนที่บริษัท ห้องทำงานผู้จัดการที่บริษัทมีพื้นที่เยอะ เอาเตียงไปกางนอนยังได้เลย!”

เมื่อนายหญิงใหญ่เซียวเห็นท่าทีเด็ดเดี่ยวของเซียวเวยเวย ก็สติหลุดในทันที พูดออกมาว่า “เวยเวย แกพูดอะไรของแก….กว่าครอบครัวเราจะมาถึงจุดนี้ได้ เคยผ่านมาหมดทุกความลำบาก ทุกมรสุม จะมาบอกให้แยกย้ายกันอยู่ได้ยังไง?”

พูดมาถึงตรงนี้ เธอก็รีบเอ่ยรับประกันว่า “เวยเวย แกไม่ต้องห่วง ต่อไปนี้ย่าจะไม่ก้าวก่ายการตัดสินใจของแกอีกแล้ว แกตั้งใจหาเงินข้างนอกได้ตามสบาย เรื่องงานบ้านเดี๋ยวย่าจัดการเอง!”

เซียวเวยเวยรีบพูดว่า “ได้!งั้นก็เอาตามนี้นะ!”

นายหญิงใหญ่รีบพูดว่า “ได้ๆๆ เอาตามนี้ เอาตามนี้เลย!”

พูดจบ ก็รีบฉีกยิ้มออกมา แล้วเดินเข้าไปถามว่า “ว่าแต่เวยเวย แกจะให้ฉันเดือนละเท่าไหร่? คนอายุเยอะอย่าฉัน ต้องกินอาหารบำรุงร่างกาย อาหารที่กินก็ควรที่จะมีมาตรฐานหน่อย เอาอย่างนี้ไหมล่ะ แกให้ฉันเดือนละหกพัน คิดรวมกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของฉันกับพ่อแกแล้วก็พี่แกด้วย นอกนั้นแกก็ให้ฉันเผื่อไว้อีกสองพัน เป็นค่ารักษาพ่อกับพี่ชายแก ทั้งหมดตกเดือนละแปดพัน แกว่าเป็นไง?”

เซียวเวยเวยรู้ดีอยู่แล้ว ค่าใช้จ่ายแปดพันของคนสามคนในหนึ่งเดือน มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างสูงเกินไป

แต่เธอก็ขี้เกียจคิดเล็กคิดน้อยกับนายหญิงใหญ่เซียวแล้ว ขอแค่สามารถทำให้นายหญิงใหญ่เซียวล้มเลิกความคิดที่จะควบคุมเธอ ก็ถือเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่แล้ว

ส่วนเงินแปดพัน ถึงมันจะมากไปหน่อย แต่ว่าผลประกอบการของบริษัทในตอนนี้ก็ถือว่าดีมาก รายรับที่ได้ในแต่ละเดือนก็มีมากถึงหมื่น

อีกอย่าง การที่บริษัทพัฒนาได้ดี กำไรก็ยิ่งสูง หลังจากนี้แค่รอบริษัทจ่ายภาษีในทุกรอบไตรมาสเสร็จ ในผลประกอบการและกำไรที่ได้ยังมีโบนัสเป็นส่วนแบ่งเล็กๆของเธออีก พอคำนวณดูแล้ว ปีนี้ยังไงก็ต้องได้สามหมื่นถึงสี่หมื่น หรืออาจจะมากกว่านั้น