หลินหว่านชิวที่อยู่ภายใต้ความประหลาดใจ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดข้างหูซูจือหยูเสียงเบาว่า “จือหยู เธอรู้จักเฉินเอ๋อได้ยังไง?”

ซูจือหยูไม่มีการปิดบังเลยสักนิดเดียว พูดไปตามความจริงว่า “เย่เฉินคือผู้มีพระคุณของหนูค่ะ!และก็เป็นผู้มีพระคุณของแม่หนูด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้หนูและพี่ชายของหนูถูกจับตัวที่ญี่ปุ่น เย่เฉินเป็นคนช่วยพวกเราทั้งสองคนค่ะ แล้วก่อนหน้านี้หนูกับแม่หนูเกิดเรื่องที่ภูเขาจื่อจินซานเมืองจินหลิง ก้เป็นเย่เฉินที่มาช่วยพวกเราค่ะ”

หลินหว่านชิวเข้าใจขึ้นมาในทันที!

“ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง…..”

ที่นี้เธอก็ข้าใจแล้วว่า ทำไมซูจือหยูถึงได้รู้จักเย่เฉิน

เธอแอบคิดในใจว่า “ถ้าหากว่าเฉินเอ๋อแค่ช่วยซูจือหยู ซูจือหยูก็ไม่มีทางรู้ตัวตนของเขา แต่ถ้าหากว่าเฉินเอ๋อช่วยตู้ไห่ชิงด้วย งั้นสถานการณ์ก้ไม่เหมือนกันแล้ว เฉินเอ๋อหน้าตาเหมือนกับพ่อของเขามากขนาดนี้ ตู้ไห่ชิงไม่มีทางไม่รู้จักเขา ถ้าเป็นอย่างนี้ละก็ ซูจือหยูรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเฉินเอ๋อ ก็เข้าใจได้แล้ว”

สถานการณ์หลายรุ่นอายุของตระกูลซู หลินหว่านชิวสามารถพูดได้ว่ารู้ดีเป็นอย่างมาก

ตู้ไห่ชิงแม่ของซูจือหยู ในตอนนั้นความสัมพันธ์กับเธอก็ถือว่าไม่เลวเหมือนกัน

อีกอย่าง ตอนนั้นตู้ไห่ชิงชอบเย่ฉางอิงอยู่ตลอด แล้วเย่ฉางอิงก้เป็นเพื่อนสนิทกับกู้เย้นจง ดังนั้นตอนนั้นที่หลินหว่านชิวเพิ่งคบหากับกู้เย้นจง ตู้ไห่ชิงก็อยากจะใช้ความสัมพันธ์ของหลินหว่านชิว กู้เย้นจงรวมทั้งเย่ฉางอิง เพื่อมาเป็นสะพานในการเพิ่มโอกาสความสำเร็จของตัวเองที่ตามจีบเย่ฉางอิง

เพราะงั้นมีช่วงเวลาหนึ่ง ตู้ไห่ชิงและหลินหว่านชิวสนิทกันมาก

เพียงแต่ใครก็คิดไม่ถึง ว่าตู้ไห่ชิงลำบากตามจีบเย่ฉางอิงมานานหลายปีแล้วจะไม่มีผลลัพธ์อะไร แต่เย่ฉางอิงออกต่างประเทศกลับมาครั้งหนึ่ง ก็พาอานเฉิงซีที่โดดเด่นกลับมาคนหนึ่ง

ตั้งแต่หลังจากที่เย่ฉางอิงและอานเฉิงซีแต่งงานกัน ตู้ไห่ชิงก็แบกรับความเสียดายอย่างมากแต่งงานให้กับซูโสว่เต้า

ในความที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน ที่จริงแล้วหลินหว่านชิวก็เห็นใจตู้ไห่ชิงมากอยู่เหมือนกัน

เพียงแต่ใจเธอรู้ดี เรื่องของความรักมันบังคับกันไม่ได้ ชะตาชีวิตกำหนดไว้ว่าอีกฝ่ายไม่รักเธอ ไม่ว่าเธอจะทุ่มไปมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์

คิดถึงนี่ หลินหว่านชิวก็อดรู้สึกไม่ได้โลกล้อเล่นกับผู้คน

ตัวเองและสามีมาดูคอนเสิร์ตของลูกสาว ด้านข้างของด้านข้าง ก็เป็นว่าที่สามีของลูกสาวและภรรยาของเขาในตอนนี้นั่งอยู่

และคนที่นั่งคั่นกลางระหว่างตัวเองและภรรยาในตอนนี้ของเย่เฉิน ก็เป็นลูกสาวของผู้ที่รักพ่อของเย่เฉินมานานหลายปี อีกอย่างในบ้านก็ยังมีความแค้นอย่างหนักกับเย่เฉินอีกด้วย

ที่ยิ่งน่ามหัศจรรย์ก็คือ เย่เฉินกลับเคยช่วยชีวิตลูกชายและลูกสาวของศัตรูไว้ด้วย

และที่ยิ่งน่ามหัศจรรย์ยิ่งขึ้นกว่าก็คือ เย่เฉินเคยช่วยชีวิตลูกสาวของศัตรูถึงสองครั้ง!

ขณะเดียวกัน ในใจของหลินหว่านชิวก็อดมีข้อสงสัยอย่างหนึ่งไม่ได้​ “ซูจือหยูคนนี้ ถูกเฉินเอ๋อช่วยไว้สองครั้ง แล้วตอนนี้ยังมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ นี่ต้องไม่ใช่ความบังเอิญแน่นอน หรือว่าเธอเองก็มีความคิดอย่างนั้นกับเฉินเอ๋อ?”

ยิ่งคิดแบบนี้ เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองคาดเดามีโอกาสแม่นยำอยู่มาก

เธออดไม่ได้ที่จะบ่นในใจว่า “นี่มันโชคร้ายอะไรกันเนี่ย….”

ในตอนที่เธอกำลังถอนใจอยู่ แสงไฟในศูนย์แห่งนี้ก็ดับลงอย่างกะทันหัน

แสงไฟดับทั้งงาน นี่ก็แสดงได้ว่า การแสดงจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

อย่างที่คิด!

หลังจากแสงไฟดับทั้งงานไปห้าวินาที หน้าจอใหญ่บนเวทีจู่ๆก็สว่างขึ้น

ตามมาด้วย เริ่มทำการฉายวิดีโอคัทซีนท่อนหนึ่ง

วิดีโอเริ่มฉาย เป็นภาพที่ออกเหลืองเก่า ภายในวิดีโอยังมีเสียงดังวุ่นวายมากมาย เป็นวิดีโอที่ดูมีความเก่าแก่มาก

ภายในภาพ เด็กหญิงอายุประมาณสี่ห้าขวบ ใส่ชุดเดรสลายดอกไม้สวยงาม สองมือถือชายกระโปรงไว้ กำลังล้อมเค้กวันเกิดที่สวยงามไว้ เต้นไปด้วยและใช้เสียงเด็กเล็กร้องเพลงวันเกิดไปด้วย

ด้านข้างเค้ก มีเด็กชายที่อายุมากกว่าเธอนิดหน่อยยืนอยู่ บนหัวเด็กชายใส่มงกุฎวันเกิดไว้ สองมือพนมกันวางไว้ตรงหน้าจมูก ก้มหน้า ปิดตาแล้วอธิษฐานเงียบๆ

เนื่องจากก้มหน้าอธิษฐาน ดังนั้นในวิดีโอจึงไม่เห็นหน้าตาของเด็กชายคนนี้