หลังจากที่กู้ชิวอี๋จบงานไปนานแล้ว ในงานถึงได้มีแฟนคลับที่ได้สติกลับมา แล้วจากไปด้วยคำต่อว่า

และก็มีแฟนคลับหญิงมากมายที่ทั้งเช็ดน้ำตาไปด้วยและหันหลังจากไปเงียบๆไปด้วย

เย่เฉินถึงขั้นได้ยินนักเลงชายด้านหลังตัวเองคนหนึ่ง พูดด่าทอว่า “เหี้ย! ไอ้เจ้าชายขี่ม้าขาวหน้าโง่คนไหนที่แม่งโผล่ออกมากันแน่วะ อย่าให้กูได้เจอมันนะ ไม่งั้นกูจะตีให้ขาหักเลย!”

จากนั้นก็มีคนพูดเสริมทันทีว่า “พี่ชาย ถึงตอนนั้นนับฉันเข้าไปด้วยอีกคน! ไอ้เหี้ยนี่แม่งกล้าแย่งเมียพวกเราไป ฉันว่ามันไม่อยากจะอยู่แล้วละ!”

“ไอ้สารเลวนี่มีดีอะไรกันแน่ ถึงได้ทำให้เทพธิดาของฉันใส่ชุดเจ้าสาวร้องเพลง อยากจะรีบแต่งให้มันนักรึไง?! แม่งเอ้ย น่าโมโหจริงๆเลย!”

ตอนนี้เย่เฉินรู้สึกเพียงแค่ว่าเสียวสันหลัง

อะไรคือศัตรูของประชาชน?

นี่ก็แม่งเป็นศัตรูของประชาชนไง!

เซียวชูหรันที่อยู่ด้านข้าง ก็พูดอย่างหดหู่เล็กน้อยว่า “ที่รัก พวกเรากลับกันเถอะค่ะ”

เย่เฉินพยักหน้าเบาๆ

เซียวชูหรันลุกขึ้น พูดกับซูจือหยูที่อยู่ข้างกายว่า “คุณซูคะ ฉันและสามีของฉันกลับก่อนนะคะ”

ซูจือหยูรีบพูดว่า “ฉันเองก็กลับค่ะ ออกไปด้วยกันเถอะ”

พูดจบ ก็รีบลุกขึ้นยืน

เย่เฉินมองไปยังกู้เย้นจงและหลินหว่านชิว รู้สึกว่ากลับแล้วก็ไม่สามารถทักทายพวกเขาได้ มันไม่ดูค่อยให้ความเคารพเลยจริงๆ

เวลานี้ กู้เย้นจงมีท่าทางเป็นแบบฉันเข้าใจนาย แล้วพยักหน้าเบาๆและโบกมือด้วยรอยยิ้ม

หลินหว่านชิวเองก็ส่งสายตาว่าสบายใจได้ให้กับเย่เฉิน หมายความว่าให้เย่เฉินรีบกลับบ้าน ไม่ต้องสนใจพวกเขาสองคน

แต่เย่เฉินรู้ พวกเขาสองคนต้องบินกลับเย่นจิงในคืนนี้แล้ว มีโอกาสมากที่เดี๋ยวก็ต้องไปสนามบินในทันที

ภายใต้ความจนใจ เขาจึงทำได้เพียงไว้ค่อยบอกลากับพวกเขาทั้งสองคนในวีแชท

ส่วนดอกไม้ทองห้าดอกนั้น เนื่องจากว่าที่นั่งอยู่ทางฝั่งด้านนอก ดังนั้นในตอนที่ทุกคนเริ่มแยกย้าย พวกเขาก็จำเป็นต้องรีบหลีกทางเดินแถวที่หนึ่งให้ทันที ดังนั้นเมื่อทุกคนเริ่มลุกจากที่ ก็ได้ถูกผู้คนเบียดออกไปด้านนอกแล้ว

ทั้งงานนี้ คนหลายหมื่นแยกย้ายพร้อมกันนั้นงดงามมาก

ในตอนที่มา อยู่ห่างกันเป็นอย่างมาก มีคนมาเร็วและก็มีคนมาช้า

แต่ว่าตอนนี้ พวกเขาต่างก็ลุกขึ้นยืน พากันเดินไปยังทางออกไม่กี่แห่งที่มีอยู่ ดังนั้นจึงทำให้ดูแออัดกว่าปกติมาก

ในตอนที่เย่เฉินและเซียวชูหรันเดินออกมาจากด้านในของแถวที่หนึ่ง หวังตงเสวี่ยน ซ่งหวั่นถิง อิโตะ นานาโกะ ฉินเอ้าเสวี่ยนรวมทั้งเฉินเสี่ยวจาวที่นั่งอยู่ด้านนอกสุดก็ได้ออกไปกันแล้ว

คนรอบข้างเยอะแยะขนาดนี้ เย่เฉินจึงไม่ได้จงใจไปมองหาพวกเขา

ภรรยาเซียวชูหรันและซูจือหยูเดินข้างกัน ซูจือหยูเห็นว่าตาของเซียวชูหรันแดง จึงถามอย่างสงสัยว่า “ประธานเซียวชอบกู้ชิวอี๋มากหรอคะ?”

เซียวชูหรันพยักหน้าเบาๆ พูดอย่างจริงจังว่า “ฉันชอบเธอมาตลอดค่ะ รู้สึกว่าเธอไม่เพียงแต่ร้องเพลงได้ดีเท่านั้น แต่ยังมีความใสซื่อและบริสุทธิ์ที่หาได้น้อยในวงการบันเทิงสมัยนี้ด้วยค่ะ”

ซูจือหยูยิ้ม พูดว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ เธอไม่เพียงแต่ใสซื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นความใสซื่อเพียงหนึ่งเดียวในวงการบันเทิงด้วยค่ะ”

เซียวชูหรันถามอย่างสงสัย “คำพูดนี้หมายความว่ายังไงคะคุณซู?”

ซูจือหยูพูดยิ้มๆ “พูดอย่างนี้กับคุณแล้วกัน ในวงการบันเทิง สิ่งที่ไม่ขาดเลยก็คือการเข้าหาอย่างทุกวิถีทาง มีคนขายตัวเองเพื่อผลประโยชน์ มีคนปลอมแปลงอดีตเพื่อชื่อเสียง และก็ยังมีคนคอยประจบเอาใจคนอื่นเพื่อความสัมพันธ์…