เดิมทีในแผนการของเย่เฉิน แค่ตนไปถึงในวันเช็งเม้งเช้าตรู่ในวันที่ 5 เมษายน เข้าร่วมพิธีบูชาบรรพบุรุษ ณ ภูเขาเย่หลิงซานเลยก็โอเคแล้ว หลังจากที่รวมพิธีบูชาบรรพบุรุษเรียบร้อยแล้ว ตนก็จะกลับไปยังจินหลิงทันที ไม่ต้องให้คนจากตระกูลเย่มาเข้าหาเขามากเกินไป ทว่า ในเมื่อถังซื่อไห่หวังว่าให้เขาไปถึงโดยเร็ว ถ้าเช่นนั้นไปเร็วขึ้นหน่อยก็ไม่เป็นอะไร แม้ว่าเย่เฉินจะมีอคติกับคนตระกูลเย่เล็กน้อย ทว่าสำหรับถังซื่อไห่ เขายังคงเชื่อใจอยู่เป็นอย่างมาก ขณะที่เย่เฉินและเฉินจื๋อข่ายมาถึงห้องพักรับรองแขกวีไอพีแล้ว ซูจือหยูกำลังยืนโทรศัพท์อยู่ระเบียงทางเดินพอดี เมื่อเธอเห็นเย่เฉินกำลังมา ทั้งสองคนก็ประสานตากัน เย่เฉินมองเห็นว่าเธอกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ ราวกับมีเรื่องทุกข์ในใจ จากนั้น เธอจึงได้เอ่ยกับปลายสายว่า: “คุณปู่ ตอนนี้ฉันมีธุระ หลังงานแถลงข่าวจบแล้วฉันจะติดต่อกลับไปนะ” สิ้นเสียง ก็วางสายทันที พร้อมหันมาเอ่ยกับเย่เฉินอย่างสุภาพว่า: “ผู้มีพระคุณคุณมาแล้วเหรอคะ” เย่เฉินเห็นท่าทีของเธอผิดปกติไป จึงได้เอ่ยถามว่า: “คุณหนูซู เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?” ซูจือหยูลังเลชั่วขณะ รวบรวมความกล้าแล้วจึงเอ่ยถามว่า: “ผู้มีพระคุณ ขอคุณอะไรกับคุณเป็นการส่วนตัวหน่อยได้ไหม?” เย่เฉินพยักหน้า จากนั้นเอ่ยกับเฉินจื๋อข่ายว่า: “เหล่าเฉิน นายเข้าไปก่อนไป ฉันขอคุยกับคุณหนูซูหน่อย” เฉินจื๋อข่ายรีบเอ่ยขึ้น: “คุณชาย ห้องรับรองข้างๆ หลายห้องก็ว่างอยู่ วันนี้ทำความสะอาดสถานที่แล้ว คุณกับคุณหนูซูหาห้องรับรองเจรจากันได้ ถึงยังไงงานแถลงของเราจะเริ่มในอีกครึ่งชั่วโมง” “โอเค” เย่เฉินหันหน้าเอ่ยกับซูจือหยู: “คุณหนูซู พวกเราไปห้องรับรองข้างในกันเถอะ” ซูจือหยูรีบพยักหน้าทันที: “ค่ะ” เย่เฉินและซูจือหยูเดินมาห้องรับรองที่อยู่ส่วนลึกสุด เพิ่งเข้ามาในห้อง ซูจือหยูก็เอ่ยอย่างเร่งรีบ: “ผู้มีพระคุณ เมื่อเช้านี้ฉันเห็นเนื้อข่าวเมื่อสองวันก่อนของสหรัฐอเมริกา CNN พวกเขาบอกว่าองค์กรทหารรับจ้างสุดยอดของโลกอย่างสำนักว่านหลงประสบความล้มเหลวของสงครามที่ยิ่งใหญ่ เสียทหารไปนับพันคน อีกทั้งสิ่งที่สร้างความเสียหายใหญ่หลวงกับพวกเขาก็คือหัวหน้าฝ่ายค้านของซีเรียชื่อว่าฮามิด ฉันอยากถามคุณว่า พ่อของฉันอยู่ที่ฐานของฮามิดหรือเปล่าคะ?” เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยยอมรับอย่างตรงไปตรงมา: “ถูกต้อง พ่อของเธออยู่กับฮามิดจริงๆ ” สิ้นเสียง เย่เฉินก็ถามขึ้นด้วยความลังเลเล็กน้อย: “เรื่องนี้ผ่านไปหลายวันแล้ว เธอเพิ่งรู้ข่าวงั้นเหรอ?” ซูจือหยูเอ่ยถาม: “เรื่องนี้โดยทั่วไปแล้วจะไม่รายงานข่าวในประเทศ บอกแค่ว่าสถานการณ์ทางซีเรียสั่นคลอนเล็กน้อย วันนี้ตอนเช้าฉันหาเจอในเว็บข่าวของต่างประเทศเองน่ะค่ะ…” สิ้นเสียง เธอจึงเอ่ยถามอย่างกระวนกระวายใจ: “ผู้มีพระคุณ พ่อของฉันจะไม่เจออันตรายอะไรที่ซีเรียใช่ไหม?” เย่เฉินเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบ: “ไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ต้องห่วง การคุ้มกันของทางฮามิดค่อนข้างแน่นหนาอยู่พอสมควร การันตีความปลอดภัยของพ่อเธอแน่นอน” ซูจือหยูเอ่ยต่อ: “แต่ว่าฉันได้ยินมา…ฉันได้ยินมาว่าสำนักว่านหลงนั่น ร่วมมือกันกับรัฐบาลซีเรียแล้ว ว่าจะช่วยเหลือพวกเขาในการกวาดล้างกลุ่มกบฏทั่วซีเรีย จากนั้นสร้างฐานทหารรับจ้างของตัวเองขึ้นมาในซีเรีย ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ พวกเขาจะต้องกำจัดฮามิดนั่นอย่างราบคาบแน่นอน…” สำหรับซูจือหยู แม้ว่าเธอจะมีความไม่ชอบใจนักกับการกระทำมากมายของพ่อตน ทว่าถึงอย่างไรก็เห็นแก่สายเลือดเดียวกัน ดังนั้นหลังจากที่ได้ทราบว่าสถานการณ์ทางซีเรียมีอันตรายแล้ว สิ่งที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดก็คือความปลอดภัยของพ่อเธอ เมื่อเย่เฉินได้ยินดังนั้นแล้ว ก็เอ่ยถามอย่างสงสัยอย่างอดไม่ได้ว่า: “เธอไปได้ยินมาจากไหน เรื่องของสำนักว่านหลงจะก่อตั้งฐานทหารรับจ้าง?”