เย่เฉินโบกมือ: “ลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้น ในเมื่อฉันพูดแล้วว่าจะไว้ชีวิตเขา ก็ฆ่าเขาไม่ได้เด็ดขาด” สิ้นเสียง เย่เฉินเอ่ยอีกครั้ง: “เอาละ นายก็ไม่ต้องเป็นห่วงมากเกินไป ฉันมีวิธีพาซูโสว่เต้าปลีกตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย” “ครับ!” เฉินจื๋อข่าย เอ่ยตอบ: “ถ้างั้นคุณชายต้องระมัดระวังตัวดีๆ เลยนะครับ!” เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยว่า: “จริงสิ ตอนสองสามทุ่มนายมาที่บ้านฉันหน่อยนะ บอกว่ามาเชิญฉันไปดูฮวงจุ้ยให้กับเพื่อนต่างแดนคนหนึ่ง ตอนนั้นฉันจะถามสถานที่นาย นายก็บอกว่าไปเมืองหรง สำหรับค่าตอบแทน นายก็บอกไปว่าสามล้าน” เฉินจื๋อข่ายรีบเอ่ย: “ได้ครับคุณชาย ผมทราบแล้ว” …… เมื่อเย่โจงฉวนได้ยินว่าเย่เฉินจะไปซีเรีย ความคิดแวบแรกก็คือโน้มน้าวเย่เฉินอย่างสุดความสามารถ ไม่ให้เขาไป ถึงอย่างไร สถานการณ์ของซีเรียก็ไม่มั่นคง อีกทั้งพิธีกราบไหว้ตระกูลเย่ ก็ใกล้จะเริ่มแล้ว เย่โจงฉวนไม่อยากให้เย่เฉินต้องไปเสี่ยงอันตรายที่นั่น ทว่า หลังจากครุ่นคิดแล้ว เขาก็รู้สึกว่าตนเองอาจโน้มน้าวเย่เฉินได้ยากมาก แทนที่จะให้ตนไปพูดเกลี้ยกล่อมเพื่อห้ามเขาไว้ เขาก็คงจะดื้อรั้นอยากไปอยู่ดี ไม่สู้ทำแบบซื่อตรงสักหน่อย ยังจะแลกความรู้สึกดีจากเขามาได้บ้าง ดังนั้น เขาจึงไม่ว่าอะไรมาก ทำการให้กลุ่มนักบินเตรียมพร้อม ถือโอกาสเหมาะในเวลากลางคืนบินมุ่งหน้าไปยังจินหลิงทันที เช้าตรู่ของวันถัดไปก็สามารถรับเย่เฉินไปยังเลบานอนได้โดยตรง ทางฝั่งเย่เฉินเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ก็รับประทานมื้อเย็นพร้อมกับภรรยาและพ่อตาแม่ยายราวไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น หลังมื้อเย็นจบลง ทั้งครอบครัวกำลังดูโทรทัศน์ในห้องรับแขกอยู่นั้น อยู่ๆ กริ่งประตูบ้านก็ดังขึ้น เซียวชูหรันลุกขึ้นพร้อมเดินไปยังประตู มองผ่านหน้าจอวิดีโอฉายภาพเฉินจื๋อข่าย จึงได้พูดกับเย่เฉินอย่างประหลาดใจ: “ที่รัก เหมือนว่าจะเป็นผู้จัดการทั่วไปเฉินของป๋ายจินฮ่านกง!” เย่เฉินเอ่ย: “อ้อ งั้นอาจจะมาหาผมน่ะ เปิดประตูเถอะ” เซียวชูหรันพยักหน้า จากนั้นก็กดปุ่มปลดล็อก ไม่นาน เฉินจื๋อข่ายก็เดินมาหน้าประตู พร้อมเคาะประตู เซียวชูหรันเปิดประตูออก เอ่ยอย่างเกรงใจ: “ผู้จัดการทั่วไปเฉินสวัสดีค่ะ!” เฉินจื๋อข่ายเองก็รีบเอ่ยทักทายเช่นกัน: “นายหญิงเย่สวัสดีครับ ขอโทษด้วยนะครับ ที่มารบกวนดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ ไม่ทราบว่าอาจารย์เย่อยู่หรือเปล่า?” เย่เฉินตะโกนขึ้นมาจากห้องรับแขก: “ฉันอยู่นี่ ผู้จัดการทั่วไปเฉินมีธุระอะไรเหรอ?” เฉินจื๋อข่ายเดินไปหาเย่เฉินอย่างเคอะเขิน พร้อมเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง: “อาจารย์เย่ มีบางเรื่องอยากจะขอรบกวนให้คุณช่วยหน่อย” เย่เฉินยิ้ม เอ่ยว่า: “ประธานเฉิน คุณไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นหรอก มีเรื่องอะไรก็พูดมาตรงๆ เลยเถอะ” เฉินจื๋อข่ายเอ่ยตามที่เย่เฉินจัดเตรียมไว้แล้ว: “คืออย่างนี้นะอาจารย์เย่ เพื่อนของผมทำธุรกิจที่ต่างแดน ช่วงนี้ทางบริษัทบริหารติดขัด เขาสงสัยว่าจะเป็นเพราะปัญหาฮวงจุ้ยของบ้านใหม่ที่เขาเพิ่งย้ายไป เพราะฉะนั้นเลยอยากให้ผมไปช่วยเหลือ หาอาจารย์ด้านฮวงจุ้ยสักคนไปดูให้เขาหน่อย ผมก็เลยคิดถึงคุณขึ้นมา ไม่รู้ว่าคุณมีเวลาว่างหรือเปล่า ถ้ามีละก็รบกวนคุณไปสักหน่อย” ได้ยินว่ามีคนต้องการเชิญให้เย่เฉินไปดูฮวงจุ้ยให้ ดวงตาของหม่าหลันก็เบิกกว้าง หูตั้งขึ้น ขึ้นมาทันที พร้อมเข้าไปถามเขาว่า: “ผู้จัดการทั่วไปเฉิน ไม่ทราบว่าเพื่อนของคุณคนนั้น เชิญลูกเขยฉันไปดูฮวงจุ้ยให้เนี่ย เขาให้เท่าไรเหรอ?” เฉินจื๋อข่ายรีบเอ่ย: “แบบนี้นะครับคุณผู้หญิงหม่า ความหมายของเพื่อนผมคือ ขอแค่อาจารย์เย่ยอมที่จะไป ก็จะให้สามล้าน ถ้าปัญหาสามารถแก้ไขได้ละก็ ก็จะให้ห้าล้านครับ!” “แม่เจ้า เยอะขนาดนี้เลยเหรอ!” หม่าหลันเอ่ยอย่างปลื้มปีติยิ่ง: “เย่เฉินของเราหาเงินได้ง่ายจริงๆ เลยนะ!” เย่เฉินปริปากถามเฉินจื๋อข่ายขึ้นมา: “เพื่อนของนายคนนั้นอยู่ที่ไหน?” เฉินจื๋อข่ายเอ่ย: “อยู่ที่เมืองหรงครับ นั่งเครื่องบินไปประมาณสองชั่วโมง!” เย่เฉินพยักหน้าเบาๆ พร้อมเอ่ยว่า: “ถ้างั้นเอาแบบนี้นะ นายช่วยฉันจองตั๋วเครื่องบินไปเมืองหรงพรุ่งนี้เช้าหนึ่งใบ จากนั้นค่อยส่งรายละเอียดที่อยู่ให้ฉันทีหลัง” “อย่างนั้นดีมากเลยครับ!” เฉินจื๋อข่ายรีบเอ่ย: “ผมจะจองตั๋วให้คุณเดี๋ยวนี้เลย หลังจากจองเรียบร้อยแล้ว ผมจะส่งข้อมูลตั๋วให้นะครับ!” “โอเค” เย่เฉินเอ่ยต่อ: “ถ้างั้นก็ตามนี้ละนะ” เฉินจื๋อข่ายพยักหน้าตอบรับ เอ่ยว่า: “อาจารย์เย่ ถ้างั้นผมไม่ขอรบกวนคุณแล้ว ขอบคุณมากนะครับ!”