เย่เฉินกินยาอายุวัฒนะเป็นจำนวนมากเหมือนกับกินช็อกโกแลต แม้ยาอายุวัฒนะจะไม่สามารถเพิ่มปราณทิพย์ได้ แต่ก็ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก และสามารถกล่าวได้ว่าทำให้ร่างกายแข็งแรงเหมือนกำแพงเหล็กก็ไม่เกินไป นอกจากนี้หมัดขวายังมีปราณทิพย์ช่วยหนุน ซึ่งทำให้มันแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แล้วหมัดของเฉินจงเหล่ยจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างไร เฉินจงเหล่ยตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ และเขารู้ว่าความแข็งแกร่งแบบนี้ ไม่ง่ายเหมือนนักศิลปะการต่อสู้แล้ว! แม้แต่ว่านพั่วจวินที่เส้นลมปราณทะลวงทั้งแปดเส้นแล้ว อาจไม่มีความแข็งแกร่งเช่นนี้! เขาตกตะลึงจนตาค้าง จ้องไปที่เย่เฉินและถามด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัวว่า “คุณ…..คุณเป็นใครกันแน่?……..” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ผมเคยบอกคุณไปแล้ว เรียกผมว่าอาจารย์เย่!” เฉินจงเหล่ยอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรง กัดฟันและถามว่า “ทำไมคุณถึงแข็งแกร่งขนาดนี้……” เย่เฉินกล่าวเยาะเย้ย “โอ้ สาเหตุหลักนั้นเป็นเพราะคุณนั้นมันอ่อนแอเกินไป!” หลังจากกล่าวจบ เย่เฉินยื่นมือออกมา แล้วจับไปที่คอของเฉินจงเหล่ยแน่นราวกับคีมเหล็ก และการแสดงออกของเขาเปลี่ยนจากการเยาะเย้ยเป็นความเคร่งขรึมที่น่าเกรงขาม เมื่อเฉินจงเหล่ยถูกเขาจับคอ เขาจึงรีบใช้มือซ้ายของตนเองแกะมือของเย่เฉิน แต่ถึงแม้เขาจะใช้กำลังทั้งหมด ก็ไม่สามารถแยกนิ้วของเย่เฉินออกได้แม้แต่มิลลิเมตร เขามองเย่เฉินอย่างสิ้นหวัง และพบว่าในสายตาของเย่เฉินนั้นตนเองเป็นแค่เศษขยะ ชีวิตและความตายของตนเองตกอยู่ในมือของเขาอย่างสมบูรณ์ ขณะนี้ เฉินจงเหล่ยกัดฟันอย่างสิ้นหวังและกล่าวอย่างสุดกำลังว่า “คุณ…..คุณฆ่าผมเสียเถอะ! ฆ่าผมแล้ว สำนักว่านหลงจะไม่มีวัน….จะไม่มีวันปล่อยคุณไป และจะไม่ปล่อย…..ฮามิดไปเช่นกัน! บัญชีแค้นของผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลคนนี้ ก็จะ…..คิดกับ….ฮามิด……คุณ…..ต่อให้คุณแข็งแกร่งกว่านี้…..ก็ไม่สามารถ…..ไม่สามารถปกป้องทุกคนได้…..” เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “โอ้ คุณข่มขู่ผมหรือ? ผมเป็นคนที่ไม่กลัวการข่มขู่ที่สุด” หลังจากนั้น เย่เฉินยิ้มและกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ถ้าคุณต้องการให้ผมฆ่าคุณ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณสมหวังง่าย ๆ หรอก ผมต้องการให้คุณรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าการตายนั้นดีกว่าการมีชีวิตอยู่” หลังจากกล่าวจบ เย่เฉินปล่อยปราณทิพย์เข้าสู่ร่างกายของเฉินจงเหล่ย ปราณทิพย์อันทรงพลังนี้ เหมือนกับเครื่องเจาะอุโมงค์ที่ใช้สำหรับสร้างรถไฟใต้ดิน เคลื่อนไปทั่วเส้นลมปราณพิเศษ 8 เส้นของเขา และทำลายเส้นลมปราณทั้งหมดของเขาทันที! สำหรับนักศิลปะการต่อสู้ที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาหลายปีแล้ว หากเส้นลมปราณถูกทำลาย เท่ากับกลายเป็นคนไร้ค่าทันที เฉินจงเหล่ยรู้สึกว่าเส้นลมปราณของเขาขาด และร่างกายของเขาเกือบจะพังทลาย เขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ด้วยความลำบากยากเข็ญมาหลายปี และเขาถือว่าการแสวงหาศิลปะการต่อสู้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เดิมเส้นลมปราณเส้นที่เจ็ดของเขาใกล้ทะลวงแล้ว และเขากำลังจะกลายเป็นอัจฉริยะคนที่สองของสำนักว่านหลง ที่สามารถทะลวงเส้นลมปราณเส้นที่เจ็ดได้ แต่ใครจะไปคิดว่าความพยายามและความภาคภูมิใจทั้งหมดจะหายไปในชั่วพริบตา! เขามองไปที่เย่เฉินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น กัดฟันและถามว่า “คุณ…..คุณทำ…..ทำอะไรกับผม?” เย่เฉินมองเฉินจงเหล่ยที่กำลังสิ้นหวังและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ผมทำลายเส้นลมปราณทั้งหมดของคุณแล้ว ยินดีด้วย นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป คุณเป็นคนไร้ค่าแห่งศิลปะการต่อที่สูงศักดิ์” เฉินจงเหล่ยรู้สึกโกรธจนหายใจไม่ออก และเวียนหัวเนื่องจากสมองขาดออกซิเจน และเขาหมดสติไป หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง ดวงตาของเขาจ้องไปที่เย่เฉินและตะโกนด้วยเสียงที่แหบแห้ง “คุณ…..คุณโหดเหี้ยมมาก!” เย่เฉินกล่าวเย้ยหยัน “ผมแค่ทำลายผลการฝึกฝนของคุณเท่านั้น เรียกว่าโหดเหี้ยมหรือ? แล้วเมื่อสักครู่คุณอยากจะชกผมให้ตายด้วยหมัดเดียว เรียกว่าอะไรล่ะ?” เฉินจงเหล่ยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็รู้ว่าวันนี้ตนเองไม่สามารถหนีความตายได้ ดังนั้นเขาจึงกล่าวด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “หยุดพูดไร้สาระ ฆ่าผมเถอะ!” เย่เฉินยิ้มบาง ๆ และกล่าวว่า “เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะฆ่าคุณ อย่างน้อยตอนนี้ยังฆ่าคุณไม่ได้” หลังจากกล่าวจบ เย่เฉินมองไปที่ผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลที่เสียชีวิตไปไม่กี่นาทีเพราะหัวใจได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง และถามด้วยรอยยิ้มว่า “คุณคิดว่าถ้าเพื่อนคนนี้ฟื้นคืนชีพได้ แล้วรายงานเรื่องทั้งหมดให้ผู้บัญชาการระดับสูงสุดของกองทัพรัฐบาล พวกเขาจะชำระบัญชีกับคุณอย่างไร? พวกเขาจะชำระบัญชีกับสำนักว่านหลงของพวกคุณอย่างไร?”