เนื่องจากเย่เฉินวางแผนที่จะไปเย่นจิงในวันที่ 3 เมษายน เพราะงั้นเขาก็บอกกล่าวกับคนที่บ้านเอาไว้แล้ว บอกแค่ว่ามีตระกูลร่ำรวยและมีอิทธิพลที่เย่นจิง เชิญตัวเองไปดูฮวงจุ้ยสุสานบรรพบุรุษในเทศกาลเช็งเม้ง เพราะงั้นต้องออกเดินทางไปก่อนสองวัน เรื่องนี้เย่เฉินบอกเซียวชูหรันไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะงั้นคนในครอบครัวก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ ถึงอย่างไรเย่เฉินออกไปดูฮวงจุ้ยก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เซียวชูหรันเพียงแค่กำชับให้เขาดูแลตัวเองให้ดี รีบไปรีบกลับ กู้ชิวอี๋ และกู้เย้นจง หลินหว่านชิว สามคนพ่อแม่ลูกที่อยู่ในเย่นจิงที่ห่างไกล ได้คาดการเรื่องที่เย่เฉินจะมาที่เย่นจิงตั้งนานแล้ว ตอนทานข้าว กู้เย้นจงพูดกับภรรยาและลูกสาวว่า : “วันนี้ก็เป็นวันที่ 2 แล้ว ผมคาดว่าเฉินเอ๋อน่าจะมาเย่นจิงในวันพรุ่งนี้นะ” พูดแล้ว เขาถามกู้ชิวอี๋ : “หนานหนาน หนูได้ถามเฉินเอ๋อหรือเปล่าว่าจะมาถึงเมื่อไหร่?แล้วเรื่องที่พักล่ะจัดการอย่างไร? ” กู้ชิวอี๋พูดทันทีว่า : “พ่อ หนูคิดว่าพรุ่งนี้พี่เย่เฉินไม่น่าจะมาหรอกนะคะ จริงๆแล้วเขาก็ไม่ค่อยลงรอยกับคนตระกูลเย่เท่าไหร่ หนูคิดว่าเร็วที่สุดก็น่าจะมาวันที่4นะ ทำแบบนี้หลังจากวันที่5เข้าร่วมพิธีบูชาบรรพบุรุษเสร็จแล้ว คาดว่าเขาจะต้องรีบร้อนกลับไปแน่ ” กู้เย้นจงส่ายหน้า พูดอย่างจริงจังว่า : “พิธีบูชาบรรพบุรุษของตระกูลเย่ยิ่งใหญ่มาก ระหว่างนั้นก็จะมีพิธีที่ยุ่งยากและซับซ้อนเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ เพราะงั้นหนึ่งวันก่อนที่จะเริ่มพิธีบูชาบรรพบุรุษ ก็คือวันที่ 4 สมาชิกตระกูลเย่จะต้องมานั่งรวมตัวกัน ใช้เวลาหนึ่งวันเพื่อมาเรียบเรียงและยืนยันขั้นตอนทั้งหมด จากการคาดการตามช่วงเวลานี้แล้ว เฉินเอ๋อมาพรุ่งนี้แน่นอน!” กู้ชิวอี๋ได้ยินคำพูดนี้ พูดอย่างดีใจมากว่า : “จริงๆเหรอ?งั้นก็ดีมากเลยนะคะ งั้นหนูจะโทรไปถามพี่เย่เฉินเดี๋ยวนี้เลย!ครั้งนี้ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ต้องให้เขามาพักที่บ้านของเราให้ได้! ” พูดแล้ว กู้ชิวอี๋ก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรศัพท์ไปหาเย่เฉินแล้ว ในเวลานี้เย่เฉินเพิ่งจะกินข้าวเสร็จ กำลังเตรียมที่จะขับรถออกไป เซียวชูหรันงานที่บริษัทยุ่งมาก ตอนเที่ยงไม่ได้กลับมา เย่เฉินนึกได้ว่าตัวเองใช้ปราณทิพย์อย่างหนักหน่วง และเย่นจิงก็มีกองกำลังทั้งคนและม้าของสำนักว่านหลงรอตัวเองอยู่ เพราะงั้นเขาคิดว่าก่อนที่จะไปเย่นจิง รีบที่จะกลั่นยาเสริมชี่ปราณออกมา กลั่นยาเสริมชี่ปราณ ต้องการสามสมุนไพรหลัก สิ่งที่จัดอยู่ในลำดับแรกสุด ก็คือแอมเบอร์กริสที่มีอายุหมื่นปีขึ้นไป สิ่งนี้ทำยากมากที่สุด แต่ว่าตอนนี้เย่เฉินมีเรียบร้อยแล้ว นี่ก็ต้องขอบคุณซวนเฟิงเหนียนที่ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตาคนนั้นที่ซูเฉิงเฟิงเชิญตัวมา สิ่งๆนี้เป็นของมีค่าที่เขาพกติดตัวไว้ นอกจากนี้แล้ว ยังต้องการโสมหิมะพันปี และเห็ดหลินจือพันปีด้วย หนึ่งในนี้ โสมหิมะพันปีเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุด เพราะว่าโสมจะเจริญเติบโตอยู่ในพื้นที่เขตหนาว ในประเทศก็จะอยู่ที่ภูเขาฉางไบ มีผลผลิตในแถบต้าซิ่งอานหลิ่ง และในวันธรรมดาแม้แต่โสมหิมะร้อยปีก็ไม่ได้เห็น โสมหิมะพันปีก็เป็นสิ่งมีค่าคู่บ้านคู่เมืองเลย แต่ว่าก่อนหน้านี้ที่นานมาแล้ว เว่ยเลี่ยงแห่งตระกูลเว่ยนำโสมหิมะพันปีที่ได้รับสืบทอดต่อมาจากตระกูลฝั่งแม่ของเขามอบให้กับเย่เฉินแล้ว และเขาก็เก็บไว้ตลอดไม่เคยนำมาใช้เลย ส่วนเห็ดหลินจือพันปี ของสิ่งนี้กลับว่าหาได้ไม่ยาก แม้ว่าเห็ดหลินจือก็เป็นสมบัติล้ำค่าที่มีไม่เยอะในแพทย์แผนจีน แต่เห็ดหลินจือและโสมกลับว่าสายพันธุ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เห็ดหลินจือของแบบนี้จะว่าไปแล้วก็เป็นเชื้อราอย่างหนึ่ง อยู่ในเครือด้วยกันกับเห็ดหูหนู อยู่กระจัดกระจายตามธรรมชาติเป็นจำนวนมาก สิ่งๆนี้โดยพื้นฐานแล้วขึ้นอยู่ทั่วทุกที่ในป่าเขาลึก อีกอย่าง เห็ดหลินจือที่อยู่ในเขาก็ไม่มีใครนึกถึงได้ คนเข้าไปขุดหาโสมบนเขามีมากมาย แต่คนเข้าไปขุดหาเห็ดหลินจือนั้นเห็นได้น้อย ประเด็นสำคัญคือเพราะว่าเห็ดหลินจือสิ่งๆนี้ คนงานบ่มเพาะขึ้นมากลับว่าไม่ได้ยากมาาก เจริญเติบโตเร็วมาก