จากนั้น พ่อของเฮเลน่าก็พบว่าเฮเลน่าเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด แต่เพื่อทำให้เฮเลน่าสามารถสืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้า เขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับราชวงศ์ แต่แอบพาเฮเลน่าหาหมอที่ดีที่สุด ใช้วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาเฮเลน่า เพื่อให้เฮเลน่าสามารถมีชีวิตได้นานขึ้นอีกหน่อย พ่อของเฮเลน่าเชื่อว่า แม้จะมีโอกาสในการสืบราชบัลลังก์น้อยมาก แต่ตราบใดที่ปกปิดข้อบกพร่องแต่กำเนิดของเฮเลน่า อีกทั้งคิดหาทุกวิถีทางทำให้เฮเลน่าสามารถมีชีวิตอยู่รอดไปจนถึง25ปี เฮเลน่าก็จะมีโอกาสได้สืบราชบัลลังก์ก่อนตาย เพราะตัวเขากับยายของเฮเลน่า อายุต่างกันแค่สามสิบปี แต่เฮเลน่ากับยายของเธอต่างกันหกสิบปี ภายใต้สถานการณ์ปกติ ราชินีองค์ปัจจุบันจะมีชีวิตอยู่ในวัยแปดสิบปี ถ้าหากเฮเลน่าสามารถมีชีวิตอยู่รอดไปจนถึงอายุยี่สิบห้า พอถึงตอนนั้นยายของเธอก็แปดสิบห้าปีแล้ว ขอแค่เฮเลน่าสามารถอยู่ต่อไปจนถึงยายของเธอสิ้นพระชนม์ เธอก็จะสามารถสืบทอดราชบัลลังก์ได้อย่างราบรื่น และในฐานะสมาชิกของราชวงศ์ จุดสูงสุดของชีวิตคือการสืบทอดบัลลังก์ ดังนั้น พ่อของเธอ ขอแค่เฮเลน่าสามารถสืบทอดราชบัลลังก์ได้อย่างราบรื่น ถึงจะเป็นราชินีแค่ปีเดียว หรือเป็นราชินีแค่หนึ่งเดือน ก็ถือว่าได้เติมเต็มชีวิตแล้ว สิบปีก่อน สภาพร่างกายของเฮเลน่าเก็บเป็นความลับมาอย่างดีมาตลอด แต่ในตอนที่พ่อของเฮเลน่าตาย เพราะเฮเลน่าเสียใจมากเกินไป จึงทำให้อาการโรคหัวใจของเธอกำเริบขึ้นมาในงานศพ ถูกหามส่งโรงพยาบาลถึงรอดพ้นอันตรายมาได้ ยายของเฮเลน่า ซึ่งเป็นราชินีในปัจจุบันของยุโรปเหนือตระหนักได้ว่าเธอถูกหลอก ดังนั้นเธอจึงพยายามกีดกันเฮเลน่าจากมรดกของเธอ และวางลูกสาวของอาของเฮเลน่า ลูกพี่ลูกน้องของเฮเลน่าขึ้นเป็นรัชทายาทลำดับที่หนึ่งแทน เฮเลน่าที่สูญเสียการปกป้องของคุณพ่อ ในขณะเดียวกันก็สูญเสียสิทธิ์ในการเป็นรัชทายาท เธอจึงถูกตัดขาดจากเรื่องของภายในวังไปอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าเธอจะป่วยหนัก แต่เฮเลน่าก็ยังคงหนีจากชะตากรรมของการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ให้ราชวงศ์ได้ และถูกบังคับให้แต่งงานกับตระกูลเย่ ถึงแม้ว่าราชวงศ์จะวินิจฉัยโรค ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสามถึงห้าปี แต่ราชวงศ์ก็ยังคงไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ ในความคิดของราชวงศ์ เวลาแค่สามถึงห้าปีก็มากพอแล้ว พวกเขาวางแผนจะใช้ประโยชน์จากเธอให้ภายในสามถึงห้าปี พยายามหาทางเอาทรัพยากรและเงินทุนสนับสนุนจากตระกูลเย่ จะต้องสามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย และที่เฮเลน่าตอบตกลงทุกอย่างนั้น ก็เป็นเพราะราชวงศ์ใช้แม่ที่อยู่ในวัยชราของเธอเป็นตัวประกัน ถ้าหากเธอไม่ตอบตกลง หลังจากที่เธอตายไป แม่ของเธอก็จะถูกขับไล่ออกจากราชวงศ์ สูญเสียสิทธิ์ในการถูกปฏิบัติเหมือนคนในราชวงศ์ นั่นหมายความว่า ในอนาคตแม่ของเธอจะไม่ได้รับแม้แต่เงินบำนาญ เฮเลน่าไม่อยากให้หลังจากที่ตัวเองตายไป แม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีที่พึ่งพา ดังนั้นจึงถูกบีบบังคับไม่สามารถทำอะไรได้ แล้วตอบตกลง ช่วงนี้ เธอเหมือนกำลังเหยียบอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ ด้านหนึ่งก็คอยกังวลว่าเรื่องสุขภาพร่างกายของเธอจะถูกตระกูลเย่พบ ด้านหนึ่งก็คอยเป็นห่วงว่า ตนกับเย่เฟิงที่ไม่ได้มีความรักต่อการหลังจากแต่งงานกันไป เกรงว่าจะมีแต่ทำให้ตนเองตายเร็วขึ้น ถ้าเป็นแบบนั้น ตนก็จะไม่มีโอกาสได้ดูแลแม่ของตัวเอง ก่อนที่จะตาย เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้ เฮเลน่าก็อดที่จะน้ำตาไหลอาบแก้มไม่ได้ คนคนหนึ่งต้องพลัดถิ่น ความรู้สึกเหมือนถูกควบคุมโดยโชคชะตา ไม่สามารถต่อต้านอะไรได้ ความรู้สึกที่ไม่สามารถทำอะไรได้ มันทรมานมากจริงๆ ในขณะเดียวกัน เธอก็อดนึกถึงเย่เฉินไม่ได้ ดังนั้น เธอจึงอดคิดในใจไม่ได้ว่า“หรือเย่เฉินผู้ชายคนนั้นจะดูออกว่าฉันเป็นโรคอะไร?” “ได้ยินคนอื่นบอกว่า แพทย์แผนจีนมี‘การมองที่ผิวการ การฟังเสียง การถามเกี่ยวกับอาการ การสัมผัสกับสภาพของชีพจร’ได้ยินมาว่าสามารถดูอาการของคนคนหนึ่งได้ หรือเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านแพทย์แผนจีน?” เมื่อคิดถึงตรงนี้ ก้นบึ้งหัวใจของเฮเลน่าก็อดที่จะถอนหายใจไม่ได้ เธอคิดในใจ“ผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนจีนจะมีประโยชน์อะไร?ถึงจะสามารถตรวจโรคของฉันได้ แต่ก็ช่วยฉันรักษาโรคไม่หายอยู่ดี” “โรคของฉันได้รับการวินิจฉัยตอนฉันคลอด ยี่สิบปีต่อมา แพทย์ทั่วโลกสามารถตรวจได้ว่าฉันเป็นโรคอะไร แต่ไม่มีทางรักษาให้หายได้……” “หัวใจของฉันรวมถึงหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดปอดมีความบกพร่องอย่างหนัก แม้แต่การปลูกถ่ายหัวใจก็รักษาไม่หาย……”