เมื่อเย่โจงฉวนได้ยินอย่างนั้น เขาก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ แล้วถามไถ่ถังซื่อไห่“ซื่อไห่ ตอนนี้แกอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แกคิดว่าคำพูดพวกนั้นของเฉินเอ๋อ ตกลงเป็นเรื่องจริงไหม หรือเขาพูดไม่คิด?” ถังซื่อไห่พูดอย่างนอบน้อม“เรียนคุณท่าน ผมคิดว่าคุณชายเฉินจริงจังครับ ไม่เหมือนกับคนที่มีความคิดไม่ให้เกียรติ” เย่โจงฉวนพยักหน้าเบาๆ แล้วกล่าวว่า“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ทันใดนั้นเย่เฟิงจึงโพล่งออกไปว่า“คุณปู่!คงไม่ได้จริงจังใช่ไหมครับ?!เย่เฉินเขาแตะอั๋งเฮเลน่าชัดๆ ทำไมคุณปู่ถึงคิดว่าเขาไม่ได้มีใจไม่ให้เกียรติครับ?!” เย่โจงฉวนพูดอย่างเรียบเฉย“จากที่ฉันดู เฉินเอ๋อน่าจะดูออกว่าเฮเลน่ามีปัญหาบางอย่างด้านสุขภาพจากที่ฉันรู้จักเฉินเอ๋อ เขาไม่ว่างจน คิดหาวิถีทาง มาทำเรื่องไม่ให้เกียรติผู้หญิงคนหนึ่งแบบนี้หรอก” เย่เฟิงโต้เถียงว่า“คุณปู่ครับ คุณปู่ลำเอียงเกินไปแล้วนะครับ!คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ อีกอย่างเขาจากบ้านไปนานหลายปี คุณปู่ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนนิสัยสันดานยังไงด้วยซ้ำ!เฮเลน่าเป็นผู้หญิงที่สวมหมดจด ผู้ชายมากมายคิดไม่ดีเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แล้วทำไมเย่เฉินจะเป็นไม่ได้?” เย่โจงฉวนส่ายหัวเบาๆ แล้วหัวเราะ พลางพูดอย่างจริงจังว่า“เฟิงเอ๋อ ฉันไม่เข้าใจในตัวเฉินเอ๋อจริงๆนั่นแหละ แต่อย่างน้อยฉันก็รู้อะไรมาบ้าง……” พูดถึงตรงนี้ เย่โจงฉวนก็มองไปที่เย่เฟิง แล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า“และความเข้าใจที่แกมีต่อเฉินเอ๋อ มันก็น้อยเกินไปจริงๆ!” “ถ้าแกเข้าใจเขาบ้าง แกจะรู้ว่า ถ้าเขาอยากทำตัวไม่ให้เกียรติผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงมากแค่ไหนอยากต่อแถวให้เขาย่ำยี” “อีกทั้ง เลือกใครสักคนออกจากพวกเธอไม่มีคนไหน ที่ด้อยไปกว่าเฮเลน่าหรอกนะ!” เมื่อเย่เฟิงได้ยินดังนั้น ก็แทบจะโกรธจนกระอักเลือดออกมา เขาก่นด่าในใจว่า“แม่เxด!!!คุณท่าน หมายความว่าไงห้ะ?หมายความว่าเย่เฉินเก๋ามากงั้นหรอ มีผู้หญิงมากมาย กระทั่งดีกว่าสวยกว่าเฮเลน่า วิ่งเข้าอ้อมกอดของเขา?” เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขายิ่งรู้สึกทุกข์ใจ“นี่หมายความว่าไง?จงใจเหน็บแนมฉันงั้นหรอ?” เขาโกรธจนแทบอยากร้องไห้ เขาพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น“คุณปู่ครับ……ถึงคุณปู่จะลำเอียงยังไง คงไม่สามารถลำเอียงได้ถึงขนาดนี้มั้งครับ!เย่เฉินเป็นหลานของคุณปู่ ผมก็เป็นเหมือนกัน!อีกทั้งเฮเลน่าก็ยังเป็นว่าที่หลานสะใภ้ของคุณปู่ ถึงคุณปู่จะไม่ช่วยผม แต่ก็ต้องช่วยเฮเลน่าพูดรึเปล่า!คุณปู่คงไม่คิดปล่อยให้เธอรู้สึกปวดใจ ก่อนที่จะได้เข้าบ้านเรา?” ในเวลานี้เย่โจงฉวนไม่มีกะจิตกะใจสนใจความรู้สึกของเย่เฟิง เขาเห็นเย่เฟิงอารมณ์พลุ่งพล่าน จึงกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า“เอาล่ะ!เรื่องนี้อย่าพูดอีก!ฉันเชื่อว่าเฉินเอ๋อไม่ใช่คนแบบนั้น!” พูดจบ เขาก็พูดอย่างจริงจังว่า“ในเมื่อเฉินเอ๋อบอกว่าเฮเลน่าอาการไม่ค่อยดี ฉันก็คิดว่าทางที่ดีหาหมอตรวจสุขภาพให้เธอสักหน่อยดีกว่า วันมะรืนเธอยังต้องเข้าร่วมพิธีบูชาบรรพบุรุษของเรา หลังจากนั้นอีกสองวันค่อยจัดงานหมั้นให้แก ถ้าเฮเลน่าเกิดเป็นโรคอะไรในพื้นที่ของเรา ไม่เพียงแต่จะกระทบต่อจังหวะการผลักดันความก้าวหน้าของเรา อีกทั้งเราก็ไม่รู้จะอธิบายกับราชวงศ์แห่งยุโรปเหนือยังไง” เย่เฟิงแทบเข่าทรุด แล้วโพล่งออกไปว่า“คุณปู่ครับ!เรื่องนี้คุณปู่ไม่ช่วยเฮเลน่าทวงยุติธรรมก็ช่างเถอะ แต่ทำไมยังเชื่อคำพูดข้างเดียวของเย่เฉินด้วยล่ะ?ถ้าถึงตอนนั้นดึงเฮเลน่าไปตรวจสุขภาพ เฮเลน่าจะต้องคิดว่าเราบ้าไปแน่ๆ!