“หนักมาก”แม่ของเฮเลน่ากล่าวว่า“รายละเอียดอื่นๆค่อนข้างซับซ้อน สาเหตุหลักๆคืออายุมากแล้ว อวัยวะภายในร่างกายเลยค่อยๆเสื่อมลง แม่ได้ยินมาว่า เธอเวลาเหลืออีกแค่สองสามเดือน สองสามวันมานี้ อาของลูก แอบเตรียมงานแอบเริ่มเตรียมพิธีบรมราชาภิเษกน้องสาวลูกอย่างเงียบๆ” เฮเลน่าพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดอย่างจริงจังว่า“ถ้าโอลิเวียได้ขึ้นครองราชย์ มันเป็นเรื่องดีสำหรับเรานะคะ อย่างน้อยเธอก็เห็นแก่ในความเป็นพี่น้องมาหลายปี เธอจะปฏิบัติต่อคุณแม่อย่างดี” “ขอให้เป็นแบบนั้น”แม่ของเฮเลน่ายิ้มอย่างขมขื่น แล้วกล่าวว่า“ตั้งแต่ที่พ่อของลูกจากไป ในวังก็ไม่มีใครเห็นแม่เป็นสมาชิกในราชวงศ์เลย ถ้าโอลิเวียได้ขึ้นสืบบัลลังก์ อาจจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ได้” เฮเลน่ารีบกล่าว“รอโอลิเวียขึ้นสืบบัลลังก์ หนูจะหาโอกาสคุยกับโอลิเวียค่ะ อย่างน้อยก็ให้มอบเงินค่าครองชีพในทุกเดือน ให้เป็นเหมือนตอนที่คุณพ่อยังมีชีวิตอยู่ ถ้าไม่ไหวจริงๆ หนูจะไปรับคุณแม่มาอยู่หัวเซี่ยค่ะ” “ช่างเถอะลูก”แม่ของเฮเลน่าพูดอย่างปวดใจ“ตอนนี้ลูกยังไม่ได้แต่งเข้าตระกูลเย่ ทุกอย่างยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร แม่ไม่อยากเพิ่มภาระให้ลูก” เฮเลน่าถอนหายใจ กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วจู่ๆเสียงกริ่งก็ดังขึ้น เธอรีบพูดกับแม่ว่า“แม่คะ มีคนมากดกริ่งค่ะ หนูขอไปดูก่อนนะคะ” “ไปเถอะ”แม่ของเฮเลน่ากำชับว่า“ลูกไม่ต้องเป็นห่วงแม่นะ ลูกต้องดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี” “หนูรู้แล้วค่ะแม่” วางสายเสร็จ เฮเลน่าก็เดินมาที่ประตู เธอส่องจากตาแมว ก็พบว่าคนที่ยืนอยู่ด้านนอก คือเย่ฉางหมิ่นอาสาวของเย่เฟิง รวมถึงถังซื่อไห่พ่อบ้านของตระกูลเย่ เธอรีบเปิดประตู แล้วพูดอย่างสุภาพว่า“คุณผู้หญิงเย่ พ่อบ้านถัง พวกคุณมาได้ยังไงคะ?” เย่ฉางหมิ่นมองเฮเลน่า แล้วก้าวไปข้างหน้า พลางจับมือของเฮเลน่า แล้วพูดอย่างยิ้มๆว่า“โธ่เฮเลน่า คุณปู่ของเสี่ยวเฟิงได้ยินมาว่าเธอไม่สบาย เลยสั่งให้ฉันรีบมาดูเธอน่ะ” พูดจบ เย่ฉางหมิ่นก็ถามอย่างเป็นห่วงว่า“เฮเลน่า ตอนนี้อาการของเธอเป็นยังไงบ้าง?ไปโรงพยาบาลไหม?ถ้าต้องการบอกฉันมาได้เลยนะ ฉันจะไปจัดการให้” เฮเลน่ารีบส่ายหัวไปมา“ขอบคุณสำหรับความหวังดีของคุณท่านเย่นะคะ ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ แค่ช่วงนี้เจ็ตแล็กนิดหน่อยน่ะค่ะ วันนี้ไปที่สนามบิน เลยรู้สึกเหนื่อยล้า พักผ่อนสักหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ” เย่ฉางหมิ่นพยักหน้า“ใช่ๆๆ เจ็ทแล็ก เป็นเรื่องที่ทรมานมาก เราเป็นห่วงว่าร่างกายของเธอพักผ่อนไม่เต็มที่มาเป็นเวลานาน กลัวว่าจะไม่ไหว อีกทั้งเธอก็รู้ว่า มะรืนเราจะจัดงานไหว้บรรพบุรุษแล้ว พิธีไหว้บรรพบุรุษของตระกูลเย่ยุ่งยากมาก พูดไม่เกินจริงเลยนะ ต้องใช้เวลาหนึ่งวันเต็มๆ ถึงเวลานั้นเธอต้องเหนื่อยมากแน่ๆ” เมื่อพูดถึงตรงนี้ เย่ฉางหมิ่นก็กล่าวอย่างเป็นห่วงว่า“ดังนั้นคุณปู่ของเสี่ยวเฟิงเลยให้เราพาหมอของตระกูลเราที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ให้พวกเขาช่วยตรวจสอบร่างกายของเธอในทุกด้าน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เธอมีอาการเหนื่อยล้าในวันงานพิธีไหว้บรรพบุรุษ” เมื่อเฮเลน่าได้ยินอย่างนั้น เธอก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาในทันที เธอรู้อาการของโรคที่เธอเป็นดี ต่อหน้าของหมอผู้เชี่ยวชาญมันไม่สามารถปิดบังได้ด้วยซ้ำ ขอแค่หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจของตนเอง จะต้องพบความปิดปกติจากคลื่นไฟฟ้าของหัวใจอย่างแน่นอน สามารถเห็นปัญหาใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของตัวเอง จู่ๆตระกูลเย่ก็ส่งคนมาตรวจร่างกายของตัวเอง แน่นอนว่าเฮเลน่าไม่กล้าตอบตกลง ดังนั้น เธอจึงโพล่งออกไปอย่างไม่คิดว่า“คุณผู้หญิงเย่คะ ขอบคุณความหวังดีของคุณกับคุณท่านเย่นะคะ แต่ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆค่ะ ไม่รบกวนพวกคุณดีกว่า!