ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่เฉินจะนั่งอย่างไม่สะทกสะท้านและตามอารมณ์เช่นนี้ ราวกับว่าที่นั่งนั้นเป็นของเขา ตอนนี้เย่ฉางหยุนที่ถูกแย่งที่นั่งรู้สึกโกรธจนหน้าเขียว เดิมทีเขาคิดว่าเย่เฉินเพิ่งกลับมา เขาจะต้องถ่อมตน ถึงแม้คุณท่านจะให้เขานั่งตรงนี้ เขาคงจะปฏิเสธ แล้วคืนที่นั่งให้กับตนเอง แต่ใครจะไปคิดว่าเย่เฉินจะนั่งโดยตรง! ซึ่งทำให้เย่ฉางหยุนด่าแช่งอยู่ในใจด้วยความโมโหว่า “แม่งฉิบหาย! เย่เฉินไม่เข้าใจกฎเกณฑ์เลยสักนิด ไม่เคยเรียนเรื่องข่งหยงยกสาลี่ให้พี่ชายหรือ? เพิ่งกลับมาถึงก็มาแย่งที่นั่งของอาสามเลยหรือ? หรือว่าคุณต้องการจะเหยียบหัวของผมขึ้นไป?” เย่ฉางโคงพี่ชายคนโตก็รู้สึกไม่สบอารมณ์มากเช่นกัน เดิมทีเขาคิดว่าเมื่อเย่เฉินกลับมาตระกูลเย่แล้ว ต่อหน้าคุณท่านและลุง ป้า น้า อา มากมาย เขาจะถ่อมตน แต่ไม่คิดว่าเย่เฉินไม่สนใจไยดีผู้อาวุโสเหล่านั้นเลย เย่ฉางโคงอดไม่ได้ที่จะด่าแช่งอยู่ในใจว่า “เย่เฉิน แย่งที่นั่งของฉางหยุน มองผิวเผินแล้วเป็นตบหน้าฉางหยุน แต่ความจริง เป็นการแสดงอำนาจให้เสี่ยวเฟิงเห็น!” “เพราะเย่เฉินเป็นรุ่นหลาน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของลำดับรุ่น หรือเรียงตามอายุ เขาควรจะอยู่หลังน้องชายทั้งสองคนของผม และจะต้องถูกจัดให้นั่งอยู่หลังเสี่ยวเฟิงลูกชายของผม!” “แต่ตอนนี้ คุณท่านให้เขาข้ามเสี่ยวเฟิงโดยตรง ข้ามน้องสามและน้องสี่ และนั่งตรงหน้าคุณท่านโดยตรง……” “คุณท่านลำเอียงถึงขนาดนี้ ซึ่งมันเป็นสัญญาณที่อันตรายอย่างยิ่ง! ถ้าเขาแซงหน้าเสี่ยวเฟิง งั้นต่อไปตระกูลเย่อาจตกอยู่ในมือของเขา!” เย่เฟิงรู้สึกโมโหเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นตระกูลใด ลูกชายคนโตและหลานชายคนโตจะเป็นคนสำคัญที่สุด ดังนั้นในสายตาของเย่เฟิงแล้ว ในอนาคตลูกพี่ลูกน้องทั้งหมดของตนเอง จะมาอาศัยตนเองทำมาหากิน ซึ่งพวกเขาย่อมอยู่ต่ำกว่าตนเองหลายระดับอย่างแน่นอน อย่าพูดถึงน้องพวกนี้ ถึงแม้จะเป็นอาพวกนั้นแล้วไง? หลังจากที่คุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว อำนาจของตระกูลเย่ก็จะถูกส่งมอบให้พ่อของตนเอง อาเหล่านั้นก็จะเริ่มพัฒนาไปในทิศทางของญาติต่างสายเลือด เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาทำอะไรก็ต้องเกรงใจตนเอง? แต่วันนี้คุณท่านสนับสนุนให้เย่เฉินนั่งอยู่ในตำแหน่งที่สูงเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกถึงภัยอันตราย สมาชิกคนอื่น ๆ ตระกูลเย่ก็ไม่พอใจกับการกระทำของคุณท่านเช่นกัน แต่ตอนนี้ไม่มีใครกล้าพูดต่อหน้า ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงอดกลั้นเอาไว้ หลังจากทุกคนนั่งเรียบร้อยแล้ว ถังซื่อไห่หยิบรายการชื่อของแขกที่เขียนด้วยพู่กันจีน เดินไปข้างหน้าแล้วยื่นให้เย่โจงฉวนและกล่าวด้วยความนอบน้อมว่า “คุณท่าน งานไหว้บรรพบุรุษคราวนี้ มีญาติของตระกูลเย่ที่กระจายอยู่ทั่วโลกมาร่วมงานรวมทั้งหมด 791 คน และชื่อทั้งหมดอยู่ในรายชื่อนี้แล้ว” “โอเค!” เย่โจงฉวนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและกล่าวว่า “ญาติของตระกูลเย่มาเยอะขนาดนี้ พิสูจน์ได้ว่าพวกเขาไม่ได้ลืมรากเหง้าของพวกเขา!” ถังซื่อไห่ยื่นรายชื่ออีกใบหนึ่งและกล่าวต่อไปว่า “คุณท่าน วันนี้มีตัวแทนญาติต่างสายเลือดจำนวน 136 คนที่มาพบปะเยี่ยมเยียน และทั้งหมดเป็นผู้นำแต่ละสาขาของตระกูลเย่ และลูกชายคนโตกับหลานชายคนโต รายชื่ออยู่ในลำดับรายการนี้แล้ว และอีกสักครู่เป็นลำดับการพบปะเยี่ยมเยียน” เย่โจงฉวนรับรายชื่อมา เหลือบมองแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คราวนี้มีลูกหลานที่มาพบปะเยี่ยมเยียนมากกว่าครั้งที่แล้วมาก!” “ใช่” ถังซื่อไห่พยักหน้าและกล่าวว่า “ในบรรดานี้ยังมีคนหนุ่มสาวจำนวนมาก อายุระหว่าง 16 ถึง 25 ปี ในงานไหว้บรรพบุรุษครั้งที่แล้ว พวกเขาทั้งหมดยังเป็นเด็ก จึงยังไม่ได้มาร่วมพบปะเยี่ยมเยียน” เย่โจงฉวนพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ตระกูลเย่มีลูกหลานมากมายได้แผ่ขยายไปทั่วประเทศและแม้กระทั่งทั่วโลก พรุ่งนี้ในงานไหว้บรรพบุรุษ เชิญลำดับวงศ์ตระกูลออกมา แล้วกรอกข้อมูลของรุ่นหลานเหล่านี้ทั้งหมด เมื่อบรรพบุรุษได้เห็น จะต้องปลื้มปีติเป็นอย่างมาก!” ถังซื่อไห่รีบกล่าวว่า “เป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน!” หลังจากนั้น ถังซื่อไห่ถามอีกครั้งว่า “คุณท่าน อีกเพียงสามนาทีก็จะถึงเวลาเก้าโมงครึ่งแล้ว ญาติต่างสายเลือดของตระกูลเย่มากกว่าหนึ่งร้อยคนรออยู่นอกคฤหาสน์แล้ว จะให้พวกเขาเข้ามาพบปะเยี่ยมเยียนทีละคนได้หรือยัง?” เย่โจงฉวนพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ เริ่มกันเถอะ!”