เมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบสนองที่รุนแรงของเฮเลน่า หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกและรีบอธิบายว่า “เจ้าหญิงเฮเลน่า คุณเข้าใจผิดแล้ว…..เจ้าหญิงโอลิเวียรู้สถานการณ์ตอนนี้ทั้งหมดแล้ว ดังนั้นคนของราชวงศ์จึงไม่สามารถแต่งงานกับตระกูลเย่ได้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเธอต้องการให้คุณกลับไปพักผ่อนที่ยุโรบเหนือ” “ฉันไม่เชื่อ!” เฮเลนาปฏิเสธเสียงดังทันที “ฉันจะไม่ไปกับพวกเธอแน่นอน! ถ้าอยากไปพวกคุณก็ไปเอง!” หญิงสาวคนนั้นกล่าวทันทีว่า “เจ้าหญิงเฮเลน่า ถ้าคุณปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของราชวงศ์ ต่อไปคุณจะถูกถอดออกจากการเป็นสมาชิกของราชวงศ์! โปรดไตร่ตรองให้รอบคอบอีกครั้ง!” เฮเลน่ากล่าวโพล่งออกมาโดยไม่ลังเล “งั้นก็ถอดชื่อฉันออกจากการเป็นสมาชิกของราชวงศ์เถอะ! ไม่ว่าจะยังไง ฉันจะไม่ไปกับพวกเธอเด็ดขาด!” เมื่อหญิงสาวคนนั้นเห็นว่าเฮเลน่าหวาดระแวงอย่างชัดเจน เธอจึงสบตากับหญิงสาวอีกคนหนึ่งทันที ทันใดนั้น ทั้งสองคนก็เดินไปหาเฮเลน่าด้วยท่าทางที่ดุดัน หญิงสาวชาวหัวเซี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าหญิงเฮเลน่า ในเมื่อคุณปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ ก็อย่าโทษว่าพวกเราไม่เกรงใจ!” เฮเลน่าประหม่าทันที เธอถอยหลังและกล่าวว่า “พวกคุณอย่าเข้ามาน่ะ! ที่นี่คือหัวเซี่ย ไม่ใช่ยุโรปเหนือ คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเสรีภาพส่วนตัวของฉัน!” ทันใดนั้นหญิงชาวหัวเซี่ยเร่งความเร็ว ร่างของเธอเร็วขึ้นไม่น้อย แตกต่างจากท่าทางที่อ่อนแอก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง มองแวบเดียวก็รู้ว่าเธอได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ ถึงแม้เธอจะไม่ใช่นักศิลปะการต่อสู้ อย่างน้อยเธอก็เป็นสายลับที่ได้มาตรฐาน เช่นเดียวกับหญิงสาวชาวยุโรปเหนือคนนั้น ความเร็วและความว่องไวของเธอไม่ด้อยไปกว่าหญิงสาวชาวหัวเซี่ย ทั้งสองจู่โจมแบบสองทิศทาง บีบบังคับเฮเลน่าจนมุม จากนั้นจับแขนทั้งสองข้างของเธอ หญิงชาวหัวเซี่ยกล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบว่า “เจ้าหญิงเฮเลน่า ล่วงเกินแล้ว!” หลังจากกล่าวจบ เธอลากเฮเลน่าแล้วเดินออกไป ขณะนี้เฮเลน่ารู้สึกสิ้นหวัง ส่วนคนตระกูลเย่ที่อยู่รอบ ๆ ไม่มีใครแสดงเจตจำนงที่จะช่วยเธอ แม้แต่เย่เฟิงก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ ความจริงคนตระกูลเย่ปลงแล้ว เฮเลนาคือหมากรุกที่ราชวงศ์ยุโรปเหนือนำออกมาแลกเปลี่ยนทรัพยากร แต่ตอนนี้ราชวงศ์ยุโรปเหนือรู้ว่าตระกูลเย่ได้ล่วงเกินสำนักว่านหลง ดังนั้นจึงเปลี่ยนแผน ไม่ว่าผู้หญิงสองคนนี้จะพาเฮเลน่าไปที่ไหน มันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลเย่ ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าตระกูลเย่จะบังคับให้เฮเลน่าอยู่ที่นี่ต่อ มันก็ไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไปแล้ว และถ้าเฮเลน่าแตกหักกับราชวงศ์แล้ว มีแนวโน้มว่าเธอจะถูกถอดออกจากการเป็นสมาชิกของราชวงศ์ทันที เจ้าหญิงที่ถูกไล่ออกจากราชวงศ์ ไม่มีคุณค่าอะไรอีกแล้ว? ดังนั้นในสายตาของคนตระกูลเย่แล้ว ไม่ว่าพวกเธอจะพาเฮเลนาไปที่ไหน มันไม่เกี่ยวอะไรกับตนเอง เมื่อเฮเลน่าเห็นว่าคนของตระกูลเย่ไม่มีใครยอมช่วย เฮเลน่ารู้สึกหวาดกลัวมาก ดังนั้นเธอจึงมองไปที่เย่เฉินและตะโกนด้วยความตื่นตระหนก “เย่เฉิน… ได้โปรด…..ช่วยฉันด้วยเถอะ….. ” เย่เฉินไม่คิดว่าเฮเลน่าจะขอความช่วยเหลือจากตนเอง เขามองเฮเลน่าด้วยสีหน้าที่ราบเรียบและถามเธอว่า “ผมเพิ่งรู้จักคุณเมื่อวานนี้ ไม่ใช่ญาติหรือเพื่อน แล้วทำไมผมต้องช่วยคุณด้วย?” เฮเลน่ากล่าวด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ถ้าคุณไม่ช่วยฉัน ฉันต้องตายแน่นอน..… แม้ว่าพวกเธอจะไม่ฆ่าฉัน เกรงว่าจะบังคับนำตัวฉันไปให้คนอื่น และฉันยังคงเป็นหมากตัวหนึ่งต่อไป……” เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ดวงตาทั้งคู่ของเธอแดงก่ำ เธอมองเย่เฉินทั้งน้ำตา และขอร้องว่า “ในเมื่อคุณเคยช่วยฉันไว้ครั้งหนึ่งแล้ว ได้โปรดเป็นคนดีจนถึงที่สุด อย่าปล่อยให้พวกเธอพาฉันไป……ถ้าคุณสามารถช่วยฉันอีกครั้ง ต่อไปฉันยินยอมเป็นทาสรับใช้คุณ……..” เมื่อหญิงสาวชาวหัวเซี่ยได้ยินประโยคนี้ เธอขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันทีว่า “เฮเลน่า! เจ้าหญิงโอลิเวียร์ให้ฉันเตือนคุณว่าก่อนที่คุณจะปฏิเสธ คุณต้องคำนึงถึงแม่ของคุณด้วย! ถ้าคุณไม่ไปกับพวกเรา และมุ่งมั่นอยากจะหลุดพ้นจากการควบคุมของราชวงศ์ งั้นคุณก็รอเก็บศพแม่ของคุณในถิ่นทุรกันดารเถอะ!” เมื่อเฮเลน่าได้ยินประโยคนี้ ร่างกายของเธอแข็งทื่อราวกับถูกฟ้าผ่า