ผ่านไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนเธอจะยอมรับชะตากรรม พยักหน้าเบา ๆ และกล่าวด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “โอเค…..พวกคุณชนะ…..ฉันจะไปกับพวกคุณ…..” หญิงสาวถอนหายใจด้วยความโล่งอกและกล่าวว่า “การที่คุณคิดได้มันเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว รีบไปเถอะ เครื่องบินกำลังรออยู่!” เฮเลน่ามองไปที่เย่เฉินและกล่าวอย่างซาบซึ้งว่า “เย่เฉิน ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้……วันพรุ่งนี้ คุณดูแลตนเองด้วย!” หลังจากกล่าวจบ เธอถูกหญิงสาวสองคนนั้นพาและเดินมุ่งหน้าไปที่ประตู ขณะนี้ เย่เฉินกล่าวทันทีว่า “เดี๋ยวก่อน!” เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงสองคนนั้นรู้สึกตกตะลึง และหญิงสาวชาวหัวเซี่ยถามว่า “คุณเย่คิดว่ายังมีศัตรูไม่มากพอ และต้องการเป็นศัตรูกับราชวงศ์ยุโรปเหนืออีกหรือ?” เย่เฉินยิ้ม พยักหน้าและกล่าวว่า “คุณพูดถูก! คนอย่างผมเกิดมาก็ไม่เคยกลัวที่จะล่วงเกินคนอื่น ยิ่งมีศัตรูมากเท่าไหร่ ผมยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น!” หลังจากนั้น สีหน้าของเขานิ่ง และถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “บอกมา เจ้าหญิงโอลิเวียของพวกคุณต้องการส่งเฮเลน่าไปที่ไหน?” หญิงสาวกล่าวโพล่งออกมาว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ! ทางที่ดีคุณควรปล่อยพวกเราไป มิเช่นนั้น เรื่องนี้อาจบานปลายไปสู่เหตุการณ์ทางการทูต!” เย่เฉินยิ้มและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “วางใจเถอะ เรื่องนี้ไม่สามารถแพร่ออกไปข้างนอกได้อย่างแน่นอน! ถ้าคุณสองคนไม่บอกความจริง ก็อย่าคิดว่าจะได้ออกไปจากที่นี่ตลอดไป ที่ประตูมีโลงศพมากมาย พวกคุณสามารถไปเลือกด้วยตนเอง ผมฆ่าคนแล้วก็จะจฝังให้ด้วย!” หญิงสาวชาวหัวเซี่ยกัดฟันและกล่าวว่า “ล่วงเกินสำนักว่านหลงแล้วยังอวดดีขนาดนี้ คุณไม่ชอบให้ตนเองมีชีวิตยืนยาวหรือ?!” เย่เฉินกล่าวเยาะเย้ย “วางใจเถอะ พวกคุณตายก่อนผมแน่นอน!” ทันทีที่กล่าวจบ ทันใดนั้นก็เห็นเฉินจื๋อข่ายและหงห้าวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาในตระกูลเย่ เมื่อเห็นเย่เฉิน หงห้ากล่าวโพล่งออกมาว่า “อาจารย์เย่ หงห้ามารอฟังคำสั่งของคุณแล้ว!” เย่เฉินไม่คิดว่าหงห้าจะมีที่นี่ จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” หงห้ายิ้มและกล่าวด้วยความนอบน้อมว่า “อาจารย์เย่ ผมเพิ่งมาถึง ผู้จัดการทั่วไปเฉินไปรับผมที่สนามบิน พวกเราสองคนคิดว่าคุณคงจะขาดคน ดังนั้นพวกเราจึงรีบมาดู!” เย่เฉินพยักหน้า ชี้ผู้หญิงสองคนข้างเฮเลน่า แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “มาได้จังหวะพอดี ลากพวกเธอสองคนออกไป แล้วให้พวกเธอสองคนไปเลือกโลงศพ แล้วฆ่าไม่ละเว้น!” หงห้าตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ และกล่าวโพล่งออกมาทันที “ได้ครับ อาจารย์เย่!” หลังจากนั้น เขากล่าวกับผู้หญิงสองคนนั้นว่า “เดินออกไปเองเถอะ อย่าบังคับให้ผมต้องหยาบคาย!” หญิงสาวชาวหัวเซี่ยมีท่าทีเย็นชา และกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “คิดจะฆ่าฉัน มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!” หลังจากนั้น เธอหยิบกริชออกมาโจมตีหงห้าทันที มองแวบเดียวก็รู้ว่าหญิงสาวคนนี้เกิดในกองกำลังพิเศษ และเธอเด็ดขาด รวดเร็วและแม่นยำ ถ้าคนธรรมดาทั่วไป อยู่ภายใต้การโจมตีอย่างกะทันหันเช่นนี้ เกรงว่าคงไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ แต่หงห้าไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เขากินยาอายุวัฒนะของเย่เฉินไปหนึ่งเม็ด ทำให้สมรรถภาพทางกายและปฏิกิริยาตอบสนองของเขาดีกว่าคนธรรมดาทั่วไปมาก ดังนั้น ชั่วพริบตาเดียวเขาก็สามารถคว้าข้อมือที่ถือกริชของอีกฝ่ายไว้ หญิงสาวไม่คิดมาก่อนว่าหงห้าซึ่งเป็นวัยกลางคน จะมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วขนาดนี้! ยิ่งไปกว่านั้น มือของหงห้านั้นทรงพลังมาก หลังจากตนเองถูกเขาจับแล้ว ตนเองก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อีก ขณะที่เธอกำลังประหลาดใจ หงห้าออกแรงบีบมือของเขา ได้ยินเสียงดังคลิก ข้อมือของหญิงสาวหักทันที! “โอ๊ย………มือของฉัน!” หญิงสาวร้องด้วยความเจ็บปวด แต่เธอก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้ หงห้ามองเธอด้วยความเหยียดหยามและกล่าวเยาะเย้ยว่า “ด้วยฝีมือแค่นี้ ยังกล้าลอบโจมตีกู! คอยดูว่าอีกสักครู่กูจะฆ่ามึงอย่างไร?!” หลังจากนั้น เขาคำรามอย่างเย็นชา “ออกไปเลือกโลงศพกับกู แล้วกูจะส่งพวกคุณสองคนไปลงนรก!” หญิงสาวหน้าซีดด้วยความตกใจ มองไปที่เย่เฉินทันที ร้องไห้อ้อนวอนว่า “คุณเย่ ไว้ชีวิตด้วย! ฉันพูดแล้ว! ฉันจะพูดทุกอย่าง!