พูดจบ เขาก็ขว้างเตาอั้งโล่ในมือ ลงบนพื้นอย่างแรงและเสียงดัง ขี้เถ้ากระเด็นไปทั่ว ทันใดนั้น นายพลห้าดาวแห่งสำนักว่านหลังในชุดกระสอบทั้ง 8 นาย ยกโลงศพทั้งสองขึ้น และปรมาจารย์สำนักว่านหลงกว่า 100 ท่าน เป่าเครื่องดนตรีสว่อน่า ด้วยท่าทางเคร่งขรึม เดินมุ่งหน้าตรงไปยังภูเขาเย่หลิงซาน! …… ในขณะนี้ บนภูเขาเย่หลิงซาน! คนของตระกูลเย่จ้องมองนาฬิกาบนมือของตน เวลาที่เหลือสำหรับพวกเขาเหลือไม่ถึงชั่วโมงแล้ว เย่ฉางโคงกระสับกระส่ายมากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของเขาแอบมองกองวัสดุที่เตรียมไว้สำหรับพิธีบวงสรวงบรรพบุรุษที่อยู่ไม่ไกล เมื่อวานเขาให้ลูกชายแอบหนีออกไปซื้อชุดไว้ทุกข์ และเอาไปซ่อนอยู่ในนั้น ถ้าสถานการณ์ผิดปกติ เขาก็จะรีบเอาออกมาสวม ในเวลานี้ ลูกน้องของเย่ฉางอิงที่เนินภูเขาเย่หลิงซานส่งข่าวมาบอกว่า: “คุณนายใหญ่ตระกูลซูและคุณผู้หญิงมาแล้ว ขอขึ้นเขามาหาคุณชาย!” คนของตระกูลเย่อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเล็กน้อย พวกเขาคิดไม่ออก ตู้ไห่ชิงและซูจือหยูทำไมถึงกลับมาที่นี่ เย่เฉินก็คิดไม่ถึง ว่าสองแม่ลูกนี้จะมา ครั้นแล้วจึงพูดว่า: “ให้พวกเธอขึ้นมาเถอะ” ทางเนินภูเขาได้รับคำสั่ง ก็ปล่อยให้มาทันที ไม่นาน ซูจือหยูขับรถ และพาแม่ขึ้นไปบนภูเขา หลังจากที่หยุดรถ เธอก็ลงรถทันที มาถึงตรงหน้าเย่เฉิน และพูดอย่างเคารพว่า: “ผู้มีพระคุณ!” เย่เฉินถามด้วยความประหลาดใจว่า: “คุณมาได้ยังไง?” ซูจือหยูรีบพูด: “ได้ยินว่าท่านเจอปัญหานิดหน่อย เพราะงั้นฉันกับแม่ก็เลยรีบมาช่วยเหลือ” ตู้ไห่ชิงเดินไปหาตรงหน้าเย่เฉินทันที และพูดด้วยความเคารพว่า: “คุณเย่ ตอนนั้นฉันกับสามีว่านเหลียนเฉิงรวมถึงว่านพั่วจวินต่างก็มีความพผูกพันกันนิดหน่อย อีกเดี๋ยวพอเขามาแล้ว ฉันน่าจะยังพูดได้บ้าง หวังว่าสามารถช่วยคุณได้นิดหน่อย” คำพูดของตู้ไห่ชิง ทำให้สมาชิกในตระกูลเย่หลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะพวกเขาต่างก็รู้ดีว่า ตอนนั้นพั่วเหลียนเฉิงอาศัยการช่วยเหลือซูโสว่เต้าถึงค่อยๆก้าวขึ้นมาได้ทีละเล็กละน้อย ดังนั้น คนของตระกูลว่านกับซูโสว่เต้า ให้เกียรติกันมาตลอด และตู้ไห่ชิงกับซูโสว่เต้าก็ไม่ได้หย่าร้างกันอย่างเป็นทางการ ตอนนี้เธอยังเป็นคุณหญิงใหญ่ของตระกูลซูอยู่ รอให้ถึงตอนที่ว่านพั่วจวินฆ่าเขา ถ้าตู้ไห่ชิงออกมาขอร้อง งั้นคิดว่าเขาจะต้องให้เกียรติตู้ชิงไห่อย่างแน่นอน เย่โจงฉวนในตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ: “ไห่ชิง! ลำบากคุณแล้วที่มาถึงที่นี่โดยฉพาะเพื่อตระกูลเย่!” ตู้ไห่ชิงพูดอย่างจริงจังว่า: “ลุงเย่ ชีวิตของฉันและจือหยู คุณเย่ต่างก็เคยช่วยชีวิตไว้ เวลาแบบนี้ก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือกัน” คนอื่นๆในตระกูลเย่ต่างก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินยังเคยช่วยตู้ไห่ชิงและซูจือหยู แต่เมื่อมาคิดดีๆ ช่วงเวลาก่อนหน้าเรื่องที่เกิดขึ้นของตู้ไห่ชิงและซูจือหยูสองแม่ลูก ก็เกิดขึ้นที่เมืองจินหลิง และเย่เฉินก็รุ่งเรืองอยู่ในเมืองจินหลิงมาตลอด ก็ถือว่าเป็นเจ้าถิ่นของเมืองจินหลิงได้เลย ดังนั้น ที่เมืองจินหลิงช่วยสองแม่ลูกก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว เมื่อสมาชิกในตระกูลเย่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เย่เฉินส่ายหัวและยิ้มอย่างเหลืออด และพูดกับตู้ไห่ชิงว่า: “น้าตู้ ฉันซาบซึ้งในความหวังดีของท่าน แต่อีกเดี๋ยวหลังจากที่ว่านพั่วจวินมาถึง ฉันก็ไม่อยากให้ท่านไปอ้อนวอนแทนฉัน คุณไม่ต้องมาอ้อนวอนเขาหรอก ฉันขอบคุณมากๆเลย!