เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย “ดี งั้นเรื่องญาติของตระกูลเย่ ก็ฝากนายด้วยนะ”
พูดจบ เขาก็มองไปที่เย่โจงฉวนอีกครั้ง แล้วกล่าวขึ้นเรียบๆว่า “คุณปู่ งานไหว้บรรพบุรุษคราวนี้ ก็เอาขั้นตอนยืดเยื้อเหล่านั้นออกไปเลยเถอะ! ผู้นำพิธีต้องจริงใจ หากไม่จริงใจแล้ว ต่อให้เอาพิธีมาจัดให้ยิ่งใหญ่แค่ไหน โออ่าเพียงใดแล้วจะมีความหมายอะไร?”
เย่โจงฉวนพยักหน้า แล้วกล่าวอย่างเห็นพ้องว่า “เฉินเอ๋อเธอพูดถูก การไหว้บรรพบุรุษไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานที่ แต่ขึ้นอยู่กับความกตัญญู ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างระดมคนไปไหว้บรรพบุรุษ กลับกลายเป็นว่าพอพบเจออันตรายนิดหน่อย คนส่วนใหญ่ก็หันหัวกลับ แล้วเอาบรรพบุรุษไปขายหมด หากตอนนี้บรรพบุรุษที่อยู่ในประโลกทราบ ไม่รู้ว่าจะโกรธมากแค่ไหน แล้วยังจะจัดงานหรูหราเหล่านั้นไปเพื่ออะไร”
คนตระกูลเย่ที่คุกเข่าอยู่ แต่ละคนละอายใจสุดจะรับได้ จนไม่กล้าเงยหน้า
เย่เฉินไม่สนใจพวกเขา ก้าวฝีเท้าเดินไปยังหน้าสุดของสุสานบรรพบุรุษตระกูลเย่ ก่อนจะคุกเข่าสองข้างลงกับพื้น มองดูสุสานหลายร้อยแห่งของบรรพบุรุษตระกูลเย่รวมถึงพ่อแม่ของเย่เฉิน จากนั้นก็เอ่ยขึ้นเสียงดัง “บรรพบุรุษตระกูลเย่ที่อยู่เบื้องบน หลานผู้ไม่รักดีเย่เฉิน ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมาระหกระเหินอยู่ข้างนอก ไม่สามารถมาไหว้บรรพบุรุษได้ หวังว่าบรรพบุรุษจะให้อภัย!”
นิ่งไปชั่วครู่ เย่เฉินก็กล่าวอีกว่า “วันนี้ เป็นการเริ่มต้นใหม่ของตระกูลเย่ที่ยืนหยัดขึ้นมาท่ามกลางอันตราย! เย่เฉินหลานไม่รักดีก็กลับสู่ตระกูลเย่อย่างเป็นทางการในวันนี้เช่นกัน และรับช่วงต่อเป็นผู้นำตระกูลเย่!”
“ณ ที่แห่งนี้ เย่เฉินขอสัญญาต่อบรรพบุรุษตระกูลเย่! ตั้งแต่วันนี้ไป จะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ฉกฉวยผลประโยชน์จากตระกูลเย่อีก! และไม่อนุญาตให้ใครดูหมิ่นบรรพบุรุษของตระกูลเย่! ตระกูลเย่ทั้งบนล่าง ต้องเห็นผลประโยชน์ของตระกูลเย่เป็นที่ตั้ง!”
“เย่เฉินหลานไม่รักดี วันนี้ขอกล่าวปฏิญาณต่อหน้าบรรพบุรุษทุกท่าน! จะต้องทุ่มแทแรงกายสุดแรง ทำให้ตระกูลเย่กลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของโลก ตั้งตระหง่านอยู่บนจุดสูงสุดของโลก!”
กล่าวจบ เย่เฉินก็ก้มตัวลงไป คำนับอย่างเคารพนบนอบต่อเบื้องหน้าบรรพบุรุษตระกูลเย่สามครั้ง
เย่โจงฉวนก็มาหยุดที่ด้านข้างของเย่เฉิน แล้วคุกเข่าลงกับพื้นเช่นกัน หันหน้าเข้าหาหลุมฝังศพของบรรพบุรุษแล้วเอ่ยปากกล่าวว่า “บรรพบุรุษตระกูลเย่ที่อยู่เบื้องบน วันนี้เย่เฉินเด็กหลงทางของตระกูลเย่เรา ในที่สุดก็กลับมาแล้ว! ตั้งแต่วันนี้ไป ตระกูลเย่ของเราจะไม่มีลูกหลานสายตรงคนใดระหกระเหินอยู่ด้านนอกอีก ในที่สุดลูกหลานสายตรงทุกคนก็ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันเสียที! ผมเองก็นับได้ว่าได้ทำตามคำสัญญาที่เคยสัญญาต่อบรรพบุรุษทุกท่านเมื่อคราวก่อนสำเร็จลุล่วงแล้ว!”
พูดจบ เย่โจงฉวนก็กล่าวอีกว่า “ฉางอิง เฉินซี! วันนี้เฉิงเอ๋อกลับคืนสู่ตระกูลเย่ พร้อมกับรับช่วงต่อผู้นำตระกูลเย่แล้ว ในที่สุดฉันก็สามารถให้คำชี้แจงที่น่าพอใจแก่พวกเธอสองสามีภรรยาได้เสียที อีกทั้งพวกเธอเป็นวิญญาณอยู่บนสวรรค์ จะต้องมองเห็นความสำเร็จอันยอดเยี่ยมของเย่เฉินในวันนี้ได้แน่! วันนี้ก็เป็นเขาที่ทำให้ทั้งตระกูลเย่พ้นวิกฤติไปได้! ภายภาคหน้า เขาจะต้องนำพาตระกูลเย่เราให้รุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไปอย่างแน่นอน! เชื่อว่าเวลานี้พวกเธอสองสามีภรรยาที่อยู่อีกฟากหนึ่ง ก็ต้องปลื้มใจอย่างมากแน่นอน!”
เวลานี้เย่เฉินยืนขึ้น เดินมาหยุดตรงหน้าวิญญาณของบิดามารดา ก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้น แล้วมองไปบน “เย่ฉางอิง” “อานเฉิงซี” ตัวอักษรตัวโตหกตัวที่อยู่บนป้ายหลุมศพ จากนั้นดวงตาก็เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา
เขารำพันขึ้นเสียงเบา “คุณพ่อ คุณแม่ ในที่สุดลูกก็สามารถกลับมาเยี่ยมท่านทั้งสองได้อย่างสง่าผ่าเผยแล้ว……”
พอคนตระกูลเย่ได้ยินเช่นนี้ ในใจก็อดรู้สึกแปลกใจขึ้นมาเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจคำพูดนี้ของเย่เฉินนักว่าหมายความว่าอย่างไร หรือว่าก่อนหน้านี้เย่เฉินเคยมาที่นี่แล้ว?
เย่เฉินในยามนี้ ไม่ได้สนใจความประหลาดใจของคนตระกูลเย่ เขามองไปบนรูปถ่ายในวัยเยาว์ของบิดามารดาที่อยู่บนป้ายหลุมศพ ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “คุณพ่อ คุณแม่ นับแต่นี้ไป ผมจะสานต่อปณิธานที่พ่อทำไม่สำเร็จ นำพาตระกูลเย่ไปสู่จุดสูงสุดของโลก! ขณะเดียวกัน ผมเองก็จะตามหาตัวฆาตกรที่ฆ่าพวกท่านด้วย ไม่ว่าพวกมันเป็นใคร ไม่ว่าพวกมันมีความสามารถและภูมิหลังแบบไหน ผมก็จะฆ่าพวกมันด้วยมือตัวเอง แก้แค้นให้กับพวกท่าน!”