เหตุผลที่เย่เฉินตบหน้าโอมาน ราโมวิชนั้น ความจริงแล้วเป็นการแสดงให้สมาชิกของราชวงศ์ยุโรปเหนือได้เห็น เพื่อต่อไปตอนที่อยู่ต่อหน้าตนเองแล้วพวกเขาจะได้ไม่เสแสร้งอีก

และตอนนี้เขาก็ไม่กลัวที่จะเปิดเผยสถานะของตนเอง อย่างไรเสียวันนี้ที่นี่มีคนไม่ถึงยี่สิบคน ขอเพียงแค่เขาเต็มใจ เขาสามารถกดคนเหล่านี้ทั้งหมดลงบนพื้นและบดขยี้พวกเขา จากนั้นก็ช่วยชีวิตราชินียุโรปเหนือ แล้วค่อยช่วยเฮเลน่าขึ้นครองบัลลังก์

หลังจากนั้น ให้เฮเลน่าตั้งข้อหาบางอย่างให้กับพวกเขา และจับกุมพวกเขาทุกคน

หรือเขาสามารถสะกดจิตบุคคลสำคัญเหล่านี้โดยตรง ทำให้พวกเขาสติฟั่นเฟือน และไม่มีใครสามารถตรวจพบปัญหาได้

เพียงแต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าริชาร์ดจะจินตนาการเช่นนี้ ซึ่งเขาจินตนาการว่าสำนักว่านหลงสนับสนุนตนเอง

เพียงแต่การคาดเดาของริชาร์ดนั้นตรงกันข้ามกับความเป็นจริง

เขาคิดว่าสำนักว่านหลงผนวกตระกูลเย่ แต่ความจริงคือเย่เฉินผนวกสำนักว่านหลงต่างหาก

หลังจากคิดเช่นนี้ ริชาร์ดรีบลุกขึ้นและช่วยพยุงโอมาน ราโมวิชลุกขึ้น

โอมาน ราโมวิชถูกทำร้ายและเสียหน้า กำลังจะใช้คำพูดกู้หน้าคืน และตะโกนด้วยความโมโหว่า “คนแซ่เย่ คุณกล้าทำร้ายผม คุณเชื่อหรือไม่ว่าผมสามารถโทรหายอดฝีมือของเคจีบีมาฆ่าคุณทันที…..อู้ ๆ…..”

ก่อนที่โอมาน ราโมวิชจะกล่าวจบ ก็ถูกริชาร์ดใช้มือปิดปาก จึงมีเพียงเสียงครางออกมาเล็กน้อยเท่านั้น

โอมาน ราโมวิชโกรธมากจนพยายามจะดึงมือของริชาร์ดออกไป ริชาร์ดรีบกระซิบข้างหูว่า “โอมาน ราโมวิช! เพื่อนเอ๋ย! คุณอย่าไปยั่วยุเย่เฉินเด็ดขาด! ตอนนี้พวกเขามอบทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้สำนักว่านหลงแล้ว ซึ่งหมายความว่าคนของตระกูลเย่ครึ่งหนึ่งนั้นทำงานให้กับสำนักว่านหลง!เมื่อผลประโยชน์มากมายอยู่ตรงหน้าสำนักว่านหลงก็ต้องสนับสนุนตระกูลเย่แน่นอน! คุณเรียกสายลับเคจีบีพวกนั้นมาทั้งหมด ก็ไม่คณามือสำนักว่านหลงหรอก!”

เมื่อโอมาน ราโมวิชฟังถึงตรงนี้ สีหน้านิ่งทันที ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ตอนนี้เขาไม่ได้มีความรู้สึกโกรธแล้ว และสิ่งที่เหลืออยู่คือความตื่นตระหนก!

เขาอุทานอยู่ในใจว่า “แม่งฉิบหาย! ทำไมผมถึงนึกไม่ถึงประเด็นนี้! นี่หมายความว่าตระกูลเย่ใช้เงินหลายแสนล้านยูโร เพื่อเป็นค่าคุ้มครองให้สำนักว่านหลงหรือ? ค่าคุ้มครองที่ตระกูลเย่จ่ายนั้น มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของผมถึงสิบเท่า เพื่อเห็นแก่เงินจำนวนมากขนาดนี้ สำนักว่านหลงจะต้องออกหน้าแทนเย่เฉินแน่นอน ผมตาบอดจริง ๆ ที่ตอนนี้ไปยั่วยุเขา..…”

เมื่อคิดเช่นนั้น โอมาน ราโมวิชแทบอดใจไม่ไหวที่จะตบหน้าตนเอง

เคจีบีที่เขารู้จัก ถ้าอยู่ต่อหน้าทหารหลายหมื่นของสำนักว่านหลงแล้ว เกรงว่าจะเป็นได้เพียงแค่มดเท่านั้น

ดังนั้น เขาจึงรีบกล่าวด้วยความตื่นตระหนกว่า “คุณเย่ ขอโทษด้วยครับ ผมเป็นคนปากเสีย! คุณอย่าถือสาผมเลย!”

เย่เฉินได้ยินสิ่งที่ริชาร์ดและโอมาน ราโมวิชกระซิบเมื่อสักครู่ ทำให้เขารู้ว่าพวกเขาเข้าใจผิด แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแต่ถามเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทำไมคุณถึงพูดไม่จบล่ะ? คุณจะเรียกยอดฝีมือของเคจีบีมาทำไม? มาฆ่าผมหรือ?”

“ไม่ใช่ครับ! ไม่ใช่ครับ!” โอมาน ราโมวิชส่ายศีรษะ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ผมไม่รู้จักยอดฝีมือเคจีบี ผมแค่คุยโม้เท่านั้น คุณเย่ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย…… ”

เย่เฉินกล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบว่า “คุณคิดว่าผมเป็นคนที่หลอกง่ายเหรอ?”

โอมาน ราโมวิชกล่าวด้วยความตื่นตระหนก “คุณเย่…..ผม…..ผมไม่ได้หมายความเช่นนั้นจริง ๆ……คุณอย่าคิดมาก……”

เย่เฉินโบกมือ “ผมไม่อยากฟังเรื่องไร้สาระของคุณ ตบปากตนเองจนหน้าทั้งสองข้างบวมเมื่อไหร่ ก็หยุดตบเมื่อนั้น จากนั้นย้ายเก้าอี้ไสหัวออกไปนั่งไกล ๆ!”

โอมาน ราโมวิชไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรอยู่ชั่วขณะ ขณะนี้ริชาร์ดรีบไกล่เกลี่ย และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเย่ โปรดอย่าใส่ใจเรื่องเล็กน้อยนี้ พวกเราจบเรื่องนี้เถอะ จะได้เข้าสู่ขั้นตอนของงานเลี้ยงต่อไป……”