แต่ในเวลานี้ จู่ๆเย่เฉินก็หันหน้าไปมองราชินีที่นอนหมดสติอยู่บนเตียง พูดว่า “นายหญิงใหญ่ครับ ผมมีวิธีจะทำให้คุณกลับมามีสติตื่นตัวขึ้นมาได้อีกครั้งก็จริง และผมเองก็มีวิธีที่จะทำให้คุณมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นอีกอาจจะถึงขั้นเป็นสิบปี แต่ว่า คุณจำเป็นจะต้องตอบตกลงเงื่อนไขบางอย่างกับผม ไม่ทราบว่าคุณตกลงหรือเปล่าครับ?”

ในขณะที่พูดคำนี้ เย่เฉินสามารถรู้สึกได้ว่า ความคิดที่อยากจะพยายามควบคุมนิ้วมือของนายหญิงใหญ่ยิ่งแกร่งกล้ามากขึ้น

ฉะนั้น เย่เฉินจึงพูดต่อไปว่า “เอาอย่างนี้ ผมให้คุณฟื้นฟูการควบคุมนิ้วมือของคุณก่อนแล้วกัน จากนั้นผมจะบอกเงื่อนไขของผมให้คุณฟัง หากว่ารับได้ คุณก็ยกนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว รับไม่ได้ คุณก็ยกนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว”

พูดแล้วเย่เฉินก็ส่งมอบปราณทิพย์เล็กน้อยเข้าสู่ร่างกายของราชินี ให้สามารถควบคุมนิ้วมือของตัวเองได้ชั่วคราว

จากนั้น เย่เฉินก็พูดว่า “ตอนนี้คุณสามารถลองควบคุมนิ้วชี้และนิ้วกลางข้างขวาของคุณดูได้แล้ว”

เพิ่งพูดจบ ก็เห็นว่านิ้วมือสองนิ้วของราชินีเคลื่อนไหวขึ้นลงหลายที

เฮเลน่ามองดูจนอึ้งตกใจ อุทานว่า “คุณย่าสามารถได้ยินที่พวกเราคุยกันจริงๆงั้นหรอ?”

เย่เฉินพยักหน้า พูดว่า “เพราะงั้นฉันถึงบอกไงว่าเธอคงจะต้องเหงามากแน่ๆ”

พูดแล้วเย่เฉินก็มองราชินี ถามว่า “เงื่อนไขอย่างแรกของผม คือ หลังจากที่คุณตื่นขึ้นมาแล้ว จะต้องประกาศสละราชบัลลังก์ทันที แล้วมอบตำแหน่งราชินีให้กับเฮเลน่า ขณะเดียวกันก็ต้องช่วยเหลือเฮเลน่าให้นั่งอยู่ตำแหน่งราชินีได้อย่างมั่นคง ถ้าหากว่าคุณตกลง ผมสามารถรับประกันได้ว่าอย่างน้อยคุณก็จะยังได้มีชีวิตต่ออีกห้าปี คุณยอมรับมั้ยครับ?”

นิ้วชี้ข้างขวาของราชินียกสูงขึ้นในทันที

ตามข้อตกลงของเย่เฉินก่อนหน้านี้ ราชินียกนิ้วขึ้นนิ้วเดียว ก็คือตอบตกลงยอมรับเงื่อนไขนี้

เย่เฉินพยักหน้าอย่างพอใจ พูดว่า​ “ดีครับ เงื่อนไขที่สองของผมก็คือ คุณจะต้องทำการขับไล่ริชาร์ดลูกชายของคุณ และโอลิเวียหลานสาวของคุณออกไปจากราชวงศ์ทั้งบ้าน ขณะเดียวกัน ไม่ว่าผมจะทำการลงโทษอะไรกับพวกเขา คุณจะต้องตอบรับอย่างไม่มีเงื่อนไขและให้ความร่วมมือด้วย คุณสามารถยอมรับได้มั้ยครับ?”

คำพูดของเย่เฉินเพิ่งจบลง ราชินีก็ยกนิ้วชี้ข้างขวาขึ้นอีกครั้ง!

ก่อนหน้านี้ โอลิเวียเคยพูดจาไม่ดีต่อเฮเลน่าในห้องนี้ ถึงขั้นยอมรับว่าสภาพที่เละเทะในวันนี้ของราชินีมีความเกี่ยวข้องกับเธอ แต่ว่าโอลิเวียไม่รู้ว่าที่จริงแล้วราชินีได้ยินอย่างชัดเจน

ดังนั้น ตอนนี้ราชินีจึงรู้สึกผิดหวังต่อเธอมาก และถึงขั้นเกลียดเข้ากระดูก

เมื่อได้ยินคำขอนี้ของเย่เฉิน จึงไม่มีการลังเลใดๆทั้งสิ้น

เฮเลน่าเห็นอย่างนี้จึงรีบพูดว่า “คุณเย่คะ!คุณย่าตอบตกลงเงื่อนไขของคุณแล้ว ตอนนี้คุณช่วยเธอได้หรือยังคะ?”

เย่เฉินพยักหน้าอย่างไม่รีบร้อน แล้วหยิบเอายาอายุวัฒนะออกมาจากกระเป๋าหนึ่งเม็ด จากนั้นก็แบ่งเป็นสองส่วน

หลังจากนั้น เย่เฉินยื่นครึ่งหนึ่งให้กับเฮเลน่า พูดว่า “กินยาครึ่งเม็ดนี้เข้าไปซะ แล้วโรคทุกอย่างของเธอจะหายไป”

เฮเลน่ามองดูยาอายุวัฒนะครึ่งเม็ดนั้นด้วยสีหน้าตะลึง!

โรคของเธอ แพทย์แผนตะวันตกระดับต้นมากมายก็ไม่สามารถรักษาได้

แม้จะเป็นการแพทย์ยุคใหม่ที่แกร่งที่สุดของโลกนี้ ก็ไม่สามารถรักษาโรคที่รักษายากตัวนี้ของเธอได้

แต่ว่า เย่เฉินกลับพูดว่า ยาครึ่งเม็ดนี้สามารถกำจัดรักษาโรคเธอได้ สัญชาตญาณของเธอนั้นก็คือไม่เชื่อ

แต่ว่า เธอมั่นใจต่อความสามารถของเย่เฉิน

ดังนั้น เธอรีบรับยาอายุวัฒนะมา แล้วพูดอย่างรู้สึกขอบคุณ “คุณเย่คะ ขอบคุณบุญคุณที่ช่วยชีวิตค่ะ!”

พูดจบ ก็กินยาเข้าในปาก

ยาอายุวัฒนะเข้าปากแล้วละลายทันที จากนั้น เฮเลน่าก็รู้สึกว่าทั้งร่างกายมีความสุขสึกอบอุ่นบางอย่างที่อธิบายไม่ถูกโอบล้อมไว้ ประสบการณ์นั้นช่างน่าอัศจรรย์อย่างมาก

และในเวลานี้ เย่เฉินก็แบ่งยาอายุวัฒนะที่เหลืออยู่แบ่งเป็นสองส่วน หนึ่งในสองส่วนนั้นใส่เข้าไปในปากของราชินี

ประสิทธิภาพได้ออกฤทธิ์ต่อร่างกายของราชินีที่ใกล้จะเฉาตายแล้วทันที เหมือนกับต้นไม้ที่แห้งเหี่ยวมีใบไม้อ่อนผลิขึ้นมา ได้เกิดใหม่อีกครั้ง!

ไม่นาน ราชินีก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มฟื้นฟูการควบคุมร่างกายตัวเอง เธอลองลืมตาขึ้น นี่คือการกระทำที่เธอลองทำมาหลายครั้งตั้งแต่ที่สลบไปนานหลายวันนี้แต่ก็ล้มเหลว

แต่ครั้งนี้ ความคิดเพิ่งผุดขึ้น ดวงตาก็สามารถเปิดออกมาอย่างง่ายดาย!

ตามมาด้วย แสงไฟที่แสบตาได้สาดส่องเข้าใส่ดวงตา สิ่งนี้ทำให้ราชินีที่อยู่ในความมืดมานาน น้ำตาไหลนองหน้าขึ้นมาทันที….