เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ เย่เฉินเอ่ยขึ้นอีกว่า: “เหล่าเฉิน ตอนนี้หลายคนต้องการที่จะตัดสัมพันธ์กับโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นนายก็ประกาศต่อโลกภายนอก ว่าคนที่มาร่วมงานประมูลทั้งหมด ต้องพักในโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงถึงจะเข้าร่วมงานได้!”

“ตอนนั้นราคาห้องของโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงพวกนาย ก็เพิ่มขึ้นร้อยเท่าจากเดิมได้เลย! ห้องที่ก่อนหน้านี้คืนละ 1,000 หยวนก็เปลี่ยนเป็นคืนละ หนึ่งแสน ห้องที่เมื่อก่อนคืนละหมื่นหยวน ก็เปลี่ยนเป็นคืนละล้านหยวนไปเลย! ต่างพากันหลบโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงกันนักไม่ใช่เหรอ? ถึงตอนนั้นก็ให้พวกเขาได้เห็นว่าเศรษฐีแนวหน้าเหล่านั้นเขาแย่งชิงจองห้องในโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงกันยังไง!”

เฉินจื๋อข่ายได้ยินถึงตรงนี้ ก็เอ่ยด้วยความตื่นเต้นอย่างยิ่ง: “นั่นมันสุดยอดไปเลย! สามวันนั้นก็จะได้รายรับกิจการหนึ่งปีแล้ว…”

เย่เฉินยิ้ม เอ่ยว่า: “หวังว่าจากงานประมูลครั้งนี้ จะทำให้พละกำลังที่อ่อนแอของจินหลิงได้รับการยกระดับที่สูงอย่างก้าวกระโดดมาก!”

“ที่ซิลิคอนแวลลียของอเมริกาไม่มีเงื่อนไขที่พิเศษอะไร ก็เพราะว่าบริษัทเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเยอะแล้ว ดังนั้นถึงได้มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกไม่ใช่เหรอ?”

“เดิมทีลาสเวกัสก็เป็นพื้นที่แห้งแล้งอยู่แล้ว แต่เมื่อกิจการคาสิโนผุดขึ้นมาแล้ว ก็กลายมาเป็นเมืองแห่งคาสิโนอันมีชื่อเสียงกระฉ่อนทั่วโลกภายในเวลาอันรวดเร็วเหมือนกัน”

“นี่ก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่า หากเมืองเมืองหนึ่งต้องการที่จะพัฒนา ก็ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่พิเศษรวมถึงแหล่งทรัพยากรธรรมชาติก็ได้ ขอเพียงเลือกพื้นที่ถูกต้อง กำจัดสิ่งที่อ่อนกำลังของพื้นที่นี้ออกไปให้ได้ ก็จะต้องพัฒนาขึ้นมาได้แน่นอน”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เย่เฉินเอ่ยจึ้นด้วยความหยิ่งผยอง: “ฉันไม่กล้าบอกหรอกนะว่าจะสร้างจินหลิงให้กลายเป็นเมืองใหญ่ที่รุ่งเรืองระดับแนวหน้าได้ แต่ฉันสามารถสร้างจินหลิงให้กลายเป็นเมืองอายุยืนที่เศรษฐีระดับแนวหน้าของโลกแห่กันมาได้แน่นอน! พอถึงเวลานั้น เชื่อว่าการพัฒนาของเศรษฐกิจเมืองจินหลิงก็คงก้าวกระโดดไปไกลได้แน่นอน!”

……

เพื่อที่จะผลักดันแผนการงานประมูลโดยเร็วที่สุด เย่เฉินโทรศัพท์หาซ่งหวั่นถิง พร้อมบอกเล่าถึงแนวความคิดงานประมูลครั้งนี้ให้เธอฟัง

ซ่งหวั่นถิงได้ยินดังนั้นก็ตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะเธอชัดเจนดีมากว่าเรื่องนี้ก็จะเป็นการผลักดันที่ดีต่อจี๋ชิ่งถังของตระกูลซ่งด้วยเช่นกัน

ตอนนี้กิจการที่เกี่ยวกับการสะสมผลงานการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดโบราณเยอะมาก ๆ ทว่าที่สามารถสร้างจนทำให้เกิดผลกระทบต่อภายนอกได้นั้นมีไม่มากนัก การที่ Christie’s และ Sotheby’s สามารถมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกได้นั้น หลัก ๆ เป็นเพราะในต้นน้ำและปลายน้ำพวกเขามีเส้นสายรวมถึงผลกระทบที่เข้มแข็งยิ่งอยู่ด้วย

สำหรับต้นน้ำ ก็คือแหล่งที่มาของการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดโบราณ ปัจจุบันนี้ผลงานที่ดีเลิศมากมายล้วนอยู่ในมือของนักเก็บสะสมเอกชน หากพวกเขาต้องการที่จะหยิบผลงานสะสมบางส่วนมาประมูลเปลี่ยนเป็นเงินสดละก็ ก่อนอื่นเลยที่พวกเขาจะคิดถึงก็คือบริษัทประมูลที่ยิ่งใหญ่สองแห่งนี้ ดังนั้นแหล่งที่มาของสินค้าของสองบริษัทประมูลยักษ์ใหญ่นี้จึงดีเลิศกว่าบริษัทประมูลทั่วไปนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว

สำหรับปลายน้ำ ก็คือเศรษฐีที่ยอมจ่ายเงินจำนวนมหาศาลในการประมูลผลงานสะสมเหล่านั้นจากบริษัทประมูล โดยปกติแล้วพวกเขาจะเลือกบริษัทประมูลที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีการการันตีเรื่องความปลอดภัยรวมทั้งยังต้องมีของดีอยู่ด้วย

ดังนั้นบริษัทประมูลยักษ์ใหญ่อย่าง Christie’s และ Sotheby’s สามารถตอบสนองความต้องการทั้งต้นน้ำปลายน้ำได้ จึงได้กลายเป็นธุรกิจครบวงจรที่เข้มแข็ง ยิ่งทุกคนเชื่อถือพวกเขาเท่าไร ก็จะยิ่งนำของดีไปประมูลให้พวกเขามากเท่านั้น ร้านค้าเหล่านั้นก็ยิ่งยอมที่จะเลือกพวกเขา

เมื่อนานวันเข้า หลายแบรนด์ต้องการที่จะแข่งขันกับพวกเขา ก็เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้

ผลงานสะสมที่ผ่านมือของตระกูลซ่งในทุกปีก็เยอะมากเช่นกัน ทว่าเนื่องจากตัวพวกเขาเองไม่มีแรงกระทบที่ยิ่งใหญ่นัก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นราคาซื้อ หรือราคาขาย ต่างก็ไม่ได้เป็นที่น่าพึงพอใจนัก อีกทั้งหลายครั้งได้รับเงิน ก็ไม่ได้รับของที่ดีเท่าไรนัก

งานประมูลครั้งนี้ เย่เฉินยอมที่จะจัดร่วมกับจี๋ชิ่งถัง นี่จะส่งผลกระทบต่อแบรนด์จี๋ชิ่งถังให้ยกระดับขึ้นเป็นอย่างมาก

ไม่แน่ว่าหลังจากผ่านงานประมูลไปครั้งสองครั้งแล้ว ผลกระทบของจี๋ชิ่งถังอาจเทียบเท่าได้กับ Christie’s และ Sotheby’s ก็เป็นได้

ดังนั้น ซ่งหวั่นถิงไม่เพียงแต่ตอบรับไปอย่างไม่ลังเล แถมยังรับปากกับเย่เฉินอีกด้วย ว่าจะต้องนำของสะสมที่ดีที่สุดของจี๋ชิ่งถังมาช่วยเย่เฉินดันให้บรรยากาศงานประมูลคึกคักขึ้นด้วย!