เมื่อพูดเช่นนี้ เย่เฉินบอกเขาอีกครั้งว่า:”ตอนทำการทดลองยา คุณต้องรวมพวกเขาเพื่อทำเวชระเบียนรอบด้าน จากนั้นใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน และทุกอย่างต้องดำเนินการตามแนวทางของบริษัทยาทั่วไประดับสากล และหลังจากที่ทุกคนทดลองยาเสร็จสิ้น ค่อยจ่ายเงิน 100,000 หยวนให้แต่ละคนสำหรับการทำงานหนัก”

เว่ยเลี่ยงรู้ดีว่า การทดลองยาเฉพาะในระยะนี้ได้รับความสนใจจากผู้ป่วยและครอบครัว ผู้ป่วยจำนวนมากสมัครทดลองยาทันทีที่รู้ว่ามียาตัวใหม่ กลัวว่าจะไม่ทัน และการลองยาอย่างมากจะใช้ยาฟรี น้อยมากที่จะให้เงิน แม้ว่าจะให้เงินก็แค่ให้ค่ารถตามธรรมเนียม แบบเย่เฉิน ที่บอกว่าจะให้คนละ100,000นั้น ไม่เคยมีมาก่อนจริงๆ

แต่ว่าเขาก็เข้าใจ ว่าเหตุผลที่เย่เฉินเลือกผู้ป่วยที่มีสถานการณ์ครอบครัวที่ยากลำบากที่สุด และเจ็บป่วยร้ายแรงที่สุดมาทำการลองยา ไม่ได้อยากใช้พวกเขามาทำการทดลองทางคลินิกจริงๆ เพราะสิ่งนี้ได้รับการทดลองมาตั้งนานแล้ว และประสิทธิภาพก็ยอดเยี่ยม และไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นพิษ ผลข้างเคียงที่เป็นพิษใด ๆ

เย่เฉินทำเช่นนี้เพียงเพราะเขาต้องการทำสิ่งดีๆ และให้โอกาสเกิดใหม่แก่ผู้ป่วยวิกฤตที่มีปัญหาในครอบครัว

ดังนั้น เขาจึงพูดโดยไม่ลังเล:”ปรมาจารย์เย่ วันนี้ผมจะเริ่มผลิตบรรจุภัณฑ์ทันที และพยายามจะบินไปยังสหรัฐอเมริกาในวันพรุ่งนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อพบผู้รับผิดชอบด้านยานำเข้าที่นั่น”

เย่เฉินพยักหน้าและพูดว่า:”เครื่องบินธุรกิจของฉันเพิ่งกลับมาพอดี หลังจากคุณพร้อมแล้ว ก็นั่งไปยังสหรัฐอเมริกาเลย”

เว่ยเลี่ยงพูดทันทีว่า:”งั้นผมจะกลับไปเตรียมตัวตอนนี้ และสามารถออกเดินทางได้ตอนบ่าย ถ้าเป็นเช่นนี้ ผมจะไปถึงวอชิงตันในตอนบ่ายตามเวลาท้องถิ่นของวันพรุ่งนี้ ผมจะนัดกับผู้รับผิดชอบทางนั้นล่วงหน้า และจะพบเขาเมื่อไปถึงวอชิงตัน”

เย่เฉินถามเขาว่า:”แน่ใจว่าสามารถพบกับคนสำคัญที่รับผิดชอบได้ใช่ไหม?”

เว่ยเลี่ยงรีบพูดว่า:”มีบริษัทประชาสัมพันธ์หลายแห่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเป็นพิเศษในการช่วยเหลือบริษัทใหญ่ๆ ในการประชาสัมพันธ์เจ้าหน้าที่ของรัฐของอเมริกา พวกเขามีหน้าที่หลักในการทำธุระจัดการได้ ให้บริษัทและบุคลากรที่เกี่ยวข้องสามารถคถยต่อหน้ากันได้ ผลลัพธ์ในการเจรจาจะไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ขอแค่จ่ายพวกเขาด้วยค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสม ก็สามารถเชิญคนที่เกี่ยวข้องออกไปรับประทานอาหารได้”

เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวว่า:”ได้ ทำแบบนี้แหละ ส่งยาไปให้คนสำคัญก่อน ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับพวกเขา”

เว่ยเลี่ยงพูดด้วยความกังวลว่า:”ปรมาจารย์เย่ ส่งยาให้พวกเขานั้นไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ผมเกรงว่าสิ่งนี้จะไม่ดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้ และทางด้านสหรัฐอเมริกาก็ดูหมิ่นยาแผนโบราณมาโดยตลอด และอาจจะเป็นไปได้ว่าผมเพิ่งกินข้าวกับเขาเสร็จ แล้วเขาก็ออกจากร้านอาหารและโยนยาที่ผมให้ลงถังขยะ……”

เย่เฉินพูดอย่างจริงจัง:”แต่ว่าถ้าคุณทำตามกระบวนการทั่วไป มันจะลำบากมาก คุณต้องทำการทดสอบทางคลินิกจำนวนมากก่อน แล้วจึงส่งเอกสารทั้งหมดให้พวกเขาตรวจสอบ และการตรวจสอบอาจจะต้องต่อแถว อาจจะผ่านไปหนึ่งหรือสองปี เราไม่มีเวลาทำแบบนี้ ดังนั้นเราจึงต้องพิชิตด้วยกลเม็ดอันแยบยลเท่านั้น”

พูดจบ เย่เฉินก็พูดอีกครั้ง:”คุณไปสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ ห้ามเอาให้อีกฝ่ายยี่สิบกล่องหมดเลย ให้สองสามกล่องก่อน และดูท่าทางของอีกฝ่าย ถ้าอีกฝ่ายเลือกเพิกเฉยต่อยาของเราเลย คุณก็แค่คิดหาวิธีหาบุคคลที่มีชื่อเสียงในอเมริกา ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง จากนั้นก็หาวิธีนำยาของเราไปให้เขา และให้เขาลองใช้ดู”

“สรุปคือ ถ้าคุณไปครั้งนี้ หากไม่สามารถดึงดูดความสนใจอย่างเป็นทางการของพวกเขาได้ ก็ให้หาวิธีดึงดูดความสนใจส่วนตัวของชาวบ้านพวกเขา”