เมื่อเย่เฉินฟังถึงตรงนี้ อดไม่ได้ที่จะกล่าวชื่นชมว่า “ผมคิดเสมอว่าสำนักว่านหลงนั้นมีความแข็งแกร่งมากกว่ากลยุทธ์ แต่ไม่คิดว่าในความหยาบของพวกคุณนั้นยังแฝงความละเอียดเอาไว้”
ว่านพั่วจวินรีบกล่าวว่า “คุณเย่ ชมเกินไปแล้ว เครือข่ายข่าวกรองนี้ของพวกเราดำเนินการมาเป็นเวลาสามปีแล้ว และจำนวนข่าวกรองที่ได้รับยังคงมีจำนวนมาก แต่ข่าวส่วนใหญ่อาจไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเรา หลังจากคัดออกแล้วมีข่าวเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่มีความหมายจริง ๆ”
หลังจากนั้น ว่านพั่วจวินกล่าวอีกว่า “คุณเย่ นอกจากพวกเขาจะเป็นฝ่ายเสนอขายข่าวแล้ว พวกเราอาจจะเป็นฝ่ายเสนอซื้อเป็นครั้งคราว เช่นพวกเราจะให้ข้อมูลแก่พวกเขา ยกตัวอย่างเรื่องยาเกิดใหม่เก้าเสวียน ถ้าพวกเราสนใจเรื่องนี้มาก พวกเราจะส่งข้อมูลไปยังผู้ให้ข้อมูลทั้งหมดโดยตรง โดยบอกว่าพวกเรากำลังค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาเกิดใหม่เก้าเสวียน เมื่อเป็นเช่นนั้น การรวบรวมข่าวกรองจะสูงขึ้น ดังนั้นต่อไปหากคุณต้องการติดตามข่าวใด คุณสามารถแจ้งหลักสำคัญ ผมสามารถให้ผู้รับผิดชอบติดตามอย่างลับ ๆ และยังสามารถให้เขาเปิดเผยข้อมูลโดยตรงเพื่อขอเบาะแส”
เย่เฉินกล่าวด้วยความชื่นใจ “โอเค! เครือข่ายข่าวกรองนี้เกินความคาดหมายของผมจริง ๆ มันดีมาก! บางทีมันอาจจะมีประโยชน์ในอนาคต!”
หลังจากนั้น เย่เฉินกล่าวอีกว่า “พั่วจวิน คุณให้ผู้ที่รับผิดชอบช่วยผมติดตามเบาะแสอื่น ๆ ของยาเกิดใหม่เก้าเสวียนและยาอายุวัฒนะอย่างต่อเนื่องด้วย”
ว่านพั่วจวินรีบถามว่า “คุณเย่ คุณจะให้ติดตามอย่างลับ ๆ หรือพวกเราเป็นฝ่ายถาม?”
เย่เฉินกล่าวว่า “ติดตามอย่างลับ ๆ”
“ครับ คุณเย่!” ว่านพั่วจวินกล่าวด้วยความนอบน้อม “ผมจะแจ้งให้ผู้รับผิดชอบเครือข่ายข่าวกรองทราบภายหลัง และจะรายงานให้คุณทราบทันทีที่มีข่าวใด ๆ!”
เย่เฉินตอบรับและถามเขาอีกว่า “แล้วเรื่องทหารคุ้มกันดำเนินการไปถึงไหนแล้ว?”
ว่านพั่วจวินกล่าวว่า “ทหารของสำนักว่านหลงเตรียมพร้อมแล้ว ตั้งแต่วันมะรืนเป็นต้นไป พวกเขาจะขึ้นเรือเพื่อจัดเตรียมอาวุธคุ้มกันเรือบรรทุกสินค้าของบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัด”
“ดีมาก” เย่เฉินกล่าวด้วยความพึงพอใจ “ผมจะรอข่าวดีของพวกคุณจากอ่าวเอเดนอยู่ที่เมืองจินหลิง!”
……
หลังจากวางสายของว่านพั่วจวินแล้ว เย่เฉินโทรหาเฉินจื๋อข่ายและหงห้าทันที เพื่อไปพบกันที่ฟาร์มสุนัขของหงห้า
หลังจากทั้งสามพบกัน เย่เฉินกล่าวเข้าประเด็นทันทีว่า “ว่านพั่วจวินบอกผมว่ามีหลายทีมในสหรัฐอเมริกาที่กำลังทำการวิจัยและพัฒนาย้อนกลับยาเกิดใหม่เก้าเสวียน และกระทั่งส่งทีมมาที่เมืองจินหลิง ผมเดาว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่พวกเขาจะทำการวิจัยและพัฒนาย้อนกลับเพียงทางเดียว และไม่แน่พวกเขาอาจจะคิดไม่ดีกับบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน”
เฉินจื๋อข่ายรีบถามว่า “คุณชาย แล้วพวกเราควรจะทำอย่างไรดี?”
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หากพวกเขาทำการวิจัยและพัฒนาย้อนกลับอยู่ในอาณาเขตของตนเอง ผมจะไม่ใส่ใจ และปล่อยให้พวกเขาทำวิจัยต่อไป แต่ถ้าพวกเขาทำเหมือนแมลงวันบินล้อมรอบพวกเขา และมาสร้างความรำคาญให้ผม งั้นผมต้องเตรียมไม้ตีแมลงวันไว้ล่วงหน้า”
หลังจากนั้น เย่เฉินมองไปที่หงห้าและกล่าวว่า “หงห้า คุณมีลูกน้องมากมายและทำงานอยู่ในทุกสายอาชีพ คุณให้พวกเขาเริ่มสังเกตตามสนามบินและสถานีรถไฟความเร็วสูงอย่างใกล้ชิด ที่สนามบินนั้นให้ความสนใจตรงด่านศุลกากร เพื่อดูว่ามีพวกใดบ้างที่เดินทางเข้ามาทางช่องต่างประเทศ ส่วนสถานีรถไฟความเร็วสูงนั้นก็ให้ความสนใจกับประตูทางออก เพื่อดูว่าใครซื้อตั๋วด้วยหนังสือเดินทาง และถ้าพบคนที่มาจากต่างประเทศ ก็พยายามถ่ายรูปพวกเขาให้ชัดเจน”
หงหวู่พยักหน้าทันทีและกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา ผมจะเป็นคนจัดการเอง อาจารย์เย่วางใจได้!”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยและกล่าวกับเฉินจื๋อข่ายอีกว่า “เหล่าเฉิน เมื่อถึงเวลานั้นรูปที่ลูกน้องของหงห้าถ่ายทั้มางหมดจะถูกส่งต่อไปให้คุณ คุณให้คนของสำนักว่านหลงที่เหลือแอบซุ่มอยู่ใกล้บริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ทุกคนที่ปรากฏตัวใกล้บริษัทผลิตยาเก้าเสวียนนั้นอาจเป็นผู้ต้องสงสัย และเทียบใบหน้าของคนพวกนั้นจากรูปถ่ายที่ลูกน้องของหงห้าถ่ายเอาไว้ เมื่อเทียบแล้วตรงกัน จะต้องจับตาดูเขา และหาโอกาสเหมาะสมจับบุคคลนั้นมาที่นี่!”