ซ่งหวั่นถิงได้ยินจากเย่เฉินว่า การประชาสัมพันธ์และการลงทะเบียนสำหรับการประมูลยาอายุวัฒนะจะเริ่มเปิดตัวในวันพรุ่งนี้แล้ว เธอจึงรีบพูดกับเย่เฉินว่า “อาจารย์เย่ ฉันได้เลือกนักประมูลไว้สามท่านสำหรับการประมูล คุณจะลองดูและคัดกรองดูก่อนไหม?”
เย่เฉินพยักหน้า และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “โอเค นักประมูลมีความสำคัญต่อการประมูลมากนัก และจะต้องคัตเลือกอย่างระมัดระวัง”
ซ่งหวั่นถิงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา ค้นหาวิดีโอออกมาหลายรายการจากในอัลบั้ม เล่นให้เย่เฉินดูทีละรายการ และแนะนำไปด้วยว่า “อาจารย์เย่ ผู้ประมูลทั้งสามท่านนี้ล้วนเป็นนักประมูลระดับอาวุโสในจี๋ชิ่งถังทั้งนั้น ถึงแม้ว่าคุณสมบัติและประสบการณ์ของพวกเขาเทียบไม่ได้กับนักประมูลรายใหญ่ที่มีชื่อเสียงอย่าง Christie’s หรือ Sotheby’s แต่ก็ถือได้ว่าเป็นคนที่ดีที่สุดในเมืองจินหลิงแล้ว”
เย่เฉินดูวิดีโอทั้งสามรายการที่ซ่งหวั่นถิงนำเสนออย่างอดทน นักประมูลผู้เข้าประกวดทั้งสามรายนี้ เป็นผู้หญิงสองท่านและผู้ชายหนึ่งท่าน ต่างมีอายุโดยประมาณสี่สิบปี และภาพลักษณ์ อารมณ์ วิธีการพูดและแม้แต่เสียงก็ถือได้ว่าเป็นคนที่มีระดับปานกลางและสูงกว่าเล็กน้อย ไม่ว่าคนไหนก็จะสามารถทำงานนี้ได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เย่เฉินกลับรู้สึกเสมอว่า สามคนนี้ดูเหมือนว่าจะขาดอะไรบางอย่าง
หลังจากมองไปที่ซ่งหวั่นถิงที่อยู่ตรงหน้าเขา เย่เฉินถึงตระหนักได้ว่า ทั้งสามคนนี้ขาดอะไรไป
สิ่งที่พวกเขาขาดคือ ความเป็นผู้หญิงที่สง่างามและมีอารมณ์แบบผู้ดีบนตัวอย่างซ่งหวั่นถิง
ในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทของซ่งหวั่นถิง เย่เฉินชื่นชมอารมณ์แบบนี้ของซ่งหวั่นถิงมาโดยตลอด
ถึงแม้ว่าซ่งหวั่นถิงจะไม่ใช่คุณหนูใหญ่ของตระกูลใหญ่ แต่ในแง่ของอารมณ์ส่วนตัวของเธอ ไม่ได้ด้อยกไปว่าผู้หญิงชั้นนำคนใดทั้งนั้น
ถ้าเธอสามารถเป็นผู้ดำเนินการประมูลในการประมูลครั้งนี้ได้ มันก็จะเป็นผู้ดำเนินการที่เหมาะสมที่สุดอย่างแน่นอน แบบไม่มีใครเทียบได้เลย
ดังนั้น เย่เฉินจึงพูดกับซ่งหวั่นถิงว่า “หวั่นถิง ในความคิดของผม นักประมูลคนนี้ ไม่มีใครที่เหมาะสมมากไปกว่าคุณแล้ว!”
“ฉันเหรอ?” ซ่งหวั่นถิงพูดอย่างประหม่าเล็กน้อยว่า “อาจารย์เย่ ฉันไม่เคยเป็นนักประมูลมาก่อนเลย……..”
เย่เฉินหัวเราะและกล่าวว่า “ไม่เคยทำก็ไม่เป็นไร อย่างไรก็ตามยังมีเวลาอีกประมาณยี่สิบวันก่อนถึงงานการประมูล คุณสามารถฝึกฝนคำพูดและทักษะของนักประมูลได้อย่างเต็มที่”
ในขณะที่พูด เย่เฉินก็พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “หวั่นถิง ไม่มีคนอื่นที่เหมาะสมกว่าคุณในเมืองจินหลิงอีกแล้ว อีกอย่างคุณก็เป็นหัวหน้าของตระกูลซ่ง หากคุณเป็นนักประมูลของการประมูลในครั้งนี้ ก็จะสามารถทำให้ผู้มีเกียรติระดับสูงที่มาเข้าร่วมเพิ่มความประทับใจต่อตระกูลซ่งอีกด้วย และก็จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตระกูลซ่งในอนาคตอย่างแน่นอน โดยไม่มีข้อเสียหายใดๆ เลย”
ซ่งหวั่นถิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พยักหน้าเบาๆ และพูดออกมาว่า “ในเมื่ออาจารย์เย่ก็พูดเช่นนี้แล้ว งั้นฉันก็จะลองดู!”
หลังจากพูดจบ ซ่งหวั่นถิงก็นึกบางสิ่งขึ้นมาได้ และถามอย่างรวดเร็วว่า “อาจารย์เย่ ถึงเวลานั้นคุณจะมาที่สถานที่หรือไม่? การประมูลที่ใหญ่โตเช่นนี้ ฉันกลัวว่าถึงเวลานั้นตัวเองจะไม่สามารถควบคุมมันได้……..”
เย่เฉินหัวเราะและพูดว่า “ถึงเวลานั้นผมจะดูการถ่ายทอดสดตามเวลาจริงในห้องกล้องวงจรปิด ในวันที่จัดการประมูลคุณใส่หูฟัง หากมีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นผมก็จะสื่อสารกับคุณโดยตรงผ่านหูฟัง”
ซ่งหวั่นถิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก และรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็โล่งใจแล้ว!”
……..
ในเวลานี้
วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
ในศูนย์วิจัยที่จัดให้โดยกองทัพ หลายทีมงานยังคงพยายามอย่างเต็มที่ทดลองโดยใช้วิธีการซวนซวนต่างๆ อยู่ เพื่อที่จะเอาชนะสูตรของยาเกิดใหม่เก้าเสวียน
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะทดลองยังไง ยาเม็ดผลที่ผลิตออกมาได้ ก็ไม่มีผลการรักษาใดๆ ต่อเซลล์มะเร็งเลย
ถึงแม้ว่าจะผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่วันสั้นๆ แต่สมิธและร็อดเจอร์สทั้งสองคน ก็กำลังจะหมดความอดทนแล้ว
การวิจัยแบบย้อนกลับของทางนี้ไม่ประสบความสำเร็จใดๆ และร็อดเจอร์สก็ได้รับคำสั่งพิเศษ จากผู้นำระดับสูงสุดที่ทูตพิเศษทำเนียบขาวนำมา
ในคำสั่งได้กำหนดให้ร็อดเจอร์สนำยาเกิดใหม่เก้าเสวียนออกมาสิบกล่อง และมอบให้แก่ทูตพิเศษที่ส่งมาจากทำเนียบขาวเพื่อนำไปเก็บรักษาไว้พร้อมกับกล่องระเบิดนิวเคลียร์ ในนามของ วัสดุเชิงกลยุทธ์ระดับสูงสุด
สิ่งนี้ทำให้ร็อดเจอร์สตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากใจอย่างยิ่งทันที