ขณะที่ผมกำลังทำอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ที่บ้าน ไม่มีทั้งจุดหมายและอุดมการณ์ ตัวผมในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากคนคนหนึ่งที่ไร้ที่ไป

 

 

หาได้มีความสุขไม่ในชีวิต ถ้าหากว่าสูญเสียทุกคนที่รักไปแล้ว ครอบครัวเองก็ไม่มีเหลือ ไม่กี่สิ่งที่พอจะช่วยเยียวยาความเวิ้งว้างนั้นก็คือสื่อบันเทิง จำพวกนิยาย ไลท์โนเวล และมังงะ เสพติดจำพวกแนวต่างโลกเป็นชีวิตจิตใจ เลยคิดว่าการที่มีเวทมนตร์ใช้นี่มันดีจังเลยนะ อะไรแบบนี้

 

 

แต่แล้ว อยู่ๆผมก็รู้สึกวูบอย่างบอกไม่ถูกราวกับว่าผมนั้นกำลังร่วงหล่นลงไปในหลุมอะไรสักอย่าง แล้วภาพมันก็ดับไป

 

 

 

 

“ เชี่ย!!? ”

 

 

ไม่ว่าจะเป็นถนนทางเดิน ตึกราบ้านช่อง อาคารต่างๆ ที่ผมเห็นอยู่ในตอนนี้มันผิดสายตาไปทั้งหมด ราวกับว่าผมหลงมาอยู่ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกๆ เพียงแต่ว่ามันทันสมัยกว่ามากทั้งสีสันที่ค่อนข้างฉูดฉาดและเป็นเอกลักษณ์

 

 

เครื่องแบบและผู้คนนั้นราวกับว่าหลุดมาจากในไลท์โนเวลต่างโลกที่ได้อ่านบ่อยๆ ไม่สิ… เป็นผมเองมากกว่าที่มายังต่างโลกแห่งนี้ ไม่รู้แน่ชัดว่ามาโผล่ที่นี่ได้ยังไง แต่จะสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นเพราะมิติเกิดบิดเบือนกระทันหัน เลยได้ตกมาอยู่ที่อีกโลก อีกมิตินึง บางที… อาจจะเป็นอีกจักรวาลเลยด้วยซ้ำ เหลือจะเชื่อจริงๆ

 

 

แต่ว่า.. แม้ว่าจะมีคนมองมาทางผมบ้าง แต่ก็ไม่ยักกะมีสักคนที่เข้ามาช่วย? นี่มันอะไรกันเนี่ย คนพวกนี้.. ไร้น้ำใจชะมัด .. ไม่สิ มองจากมุมมองพวกเขาแล้ว คงจะเห็นผมเป็นคนน่าสงสัยสินะ ทั้งเสื้อผ้าและหน้าตาที่ชวนตี ก็ไม่แปลกที่จะทำให้ออกห่างกัน ผมใช้ช่วงเวลานี้ในการสังเกตรอบๆ จนได้พบเข้ากับพวกผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่ใส่ชุดนักเรียนอยู่ เป็นชุดนักเรียนที่เห็นได้ทั่วไปตามพล็อตต่างโลก ซึ่งมันเป็นชุดที่ดูดีโคตรๆ

 

 

ผมชักจะเริ่มสงสัยแล้วสิว่าแถวนี้มันมีพวกสถาบันราชวงศ์อะไรเทือกนั้นอยู่รึเปล่า เหล่านักเรียนถึงได้พลุพล่านแบบนี้ แถมยังเป็นนักเรียนที่ดูดีเพรียบพร้อมสมกับคำว่าชนชั้นสูงสุดๆ

 

 

นั่นทำเอาผมคิดว่า “แม้อารยธรรมของต่างโลกจะดำเนินไปมากขนาดนี้แต่ระบบศักดินายังคงอยู่สินะ” ขึ้นมาเลย แต่แล้วก็ได้มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูจะเป็นคุณหนูจากตระกูลชนชั้นสูงมาอยู่ต่อหน้าของผม พร้อมกับเมดรับใช้ของเธออีกคนหนึ่ง ต้องบอกเลยว่าสมกับที่เป็นสเป็คของต่างโลกจริงๆ คุณหนูตรงหน้าของผมนั้นทำเอาผมประหม่าจนไม่สามารถเผชิญหน้าตรงๆได้ ทำได้แต่ถอยหลังไปอย่างกล้าๆกลัวๆ

 

 

แม้จะเป็นเพียงชั่วครู่เดียว ผมก็สามารถจดจำลักษณะภายนอกของเธอได้ เธอมีผมเรียบยาวอย่างสง่างาม อีกทั้งสีผมของเธอยังเป็นสีเงินที่ช่วยเพิ่มมูลค่าของมันยิ่งขึ้นไปอีก ดวงตาสีฟ้ากลมโตที่มองเข้าไปข้างในต้องทำให้ตกอยู่ในภวังค์ ผมสลัดภาพของเธอทิ้งไป เพราะยังไงซะเธอก็เป็นแค่คนแปลกหน้าสำหรับผมอยู่ดี

 

 

“ สวัสดีค่ะ ดิฉันมีชื่อว่า พานาร์ ลา บาวาเรีย ค่ะ แล้วคุณล่ะคะ?”

 

 

รอยยิ้มที่เธอยิ้มให้มาอย่างเป็นมิตรนั้นมันไม่ได้ดีต่อใจเลยสักนิด เพราะรอยยิ้มนั้นมันอาจจะสามารถฆ่าผู้ชายไปได้หลายๆคนเลย ว่าแต่.. ทำเธอถึงต้องมาคุยกับผมล่ะ? มันจะมีประโยชน์อะไรที่ต้องมาคุยกับผมที่เป็นคนแปลกหน้าน่ะ.. ผมไม่เข้าใจความคิดของเธอเลยจริงๆ

 

 

“ บ- ”

 

 

ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร ก็มีผู้หญิงอีกคนที่ตัวสูงกว่าผมสีดำค่อนข้างยุ่ง ไว้ยาวโดยไม่มีการจัดการอะไรเลย เธอเข้ามาทางนี้ มุ่งตรงมาทางผม เธอมองหน้ากับคุณหนูที่ชื่อพานาร์อยู่สักพัก ก่อนที่พานาร์จะถอยหลังให้ แล้วเธอก็ได้เข้ามาใกล้ผมขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดที่กระชากคอเสื้อผมเลย

 

 

นั่นทำเอาผมขวัญผวาเลยแหละ

 

 

“ ค- คุณบี๋คะ! อย่าพึ่งใช้ความรุนแรงสิคะ! ”พานาร์

 

 

“ หุบปากไปเหอะพานาร์ ฉันมีปัญหากับเจ้านี่ ให้เดาแกคงมาจากต่างโลกสินะ”บี๋

 

 

“ อ- อ่า… ”

 

 

สายตาของคนที่ชื่อว่าบี๋นั้นดูอาฆาตอย่างรุนแรง ดวงตาสีแดงทับทิมเรืองแสงเรืองรองในขณะนี้ บ่งบอกถึงจิตสังหารที่เธอกำลังปล่อยออกมา.. เดี๋ยวสิ! นี่ผมทำอะไรผิดกันเนี่ย!!

 

 

.. สักครู่นะ บี๋นี่มัน… มันชื่อผมไม่ใช่รึไง!!?

 

 

“ เอ๊ะ!? ต่างโลกหรอคะคุณเมเดียร์!!? ”พานาร์

 

 

“ ใช่ต่างโลก และที่สำคัญเลยก็คือ… อะแฮ่ม ยินดีที่ได้เจอกันนะบี๋ ฉันได้ข่าวมาจากนักบุญเมื่อไม่นานมานี้ว่าจะมาตัวฉันอีกคนโผล่มาที่หน้าสถาบันเวทมนตร์ ไม่คิดเลยนะ ว่าจะเจอในวันเดียวกันที่ได้รู้ข่าวเลยน่ะ ”เมเดียร์

 

 

“ ใช่ไหม? แกน่ะ ชื่อบี๋ใช่ไหม?? ”เมเดียร์

 

 

“ เออๆๆ อ่าา.. แล้วจะมาถามอะไรเยอะแยะเนี่ย”

 

 

ในเมื่อเธอก็รู้ๆกันอยู่แล้วว่าผมนั้นมาจากต่างโลก ผมจึงไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธ อีกทั้งเธอยังเป็นตัวผมเองในโลกนี้… เอ๊ะ- เห๊ะะ!!!? นี่- นี่มันมิติคู่ขนานหรอ!!? 

 

 

ผมชักจะสงสัยแล้วสิ ว่าเรื่องนี้มันยังไงกันแน่ จะว่าไปแล้วยิ่งเราอยู่หน้าสถาบันนานเข้าก็ยิ่งมีคนมามุงเยอะขึ้นเรื่อยๆ พวกนักเรียนคงจะเห็นว่ามีเรื่องทะเลาะวิวาทกันล่ะมั้งถึงได้มามุงดูกันขนาดนี้.. ให้ตายสิ เหมือนไทยมุงไม่มีผิดเลย

 

 

เพียงแต่ว่าในตอนนี้ไม่มีจังหวะให้ผมหันไปสนใจอย่างอื่นได้เลย ก็เพราะว่าตัวผมอีกคนที่อยู่ตรงหน้านั้นจ้องกันอย่างกับจะเอาชีวิตอย่างไงอย่างงั้น 

 

 

“ ในเมื่อแกก็เป็นตัวฉันอีกคนหนึ่งแล้ว ฉันคิดว่าจะเอาแกกลับบ้านน่ะนะ เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้น บางทีแกก็อาจจะโดนจับเอาไปขายเป็นทาสก็ได้ ”เมเดียร์

 

 

เธอพูดไปพร้อมกับเหลือบมองรอบๆ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าที่โลกนี้นั้นยังมีระบอบล้าหลังอย่างการค้าทาสอยู่ แต่ก็นะ บางทีคนมันก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องขายตัวเอง ขายลูก เพื่อเงิน เรื่องนั้นผมไม่สามารถแก้ไขอะไรได้หรอก

 

 

แต่ว่า.. ดูๆไปแล้วเธอดูจริงใจมากกว่าที่ผมคิด ผิดกับหน้าตา คำพูด และการกระทำลิบลับเลย

 

 

“ ฉันกำลังช่วยแกอยู่นะบี๋ ”เมเดียร์

 

 

“ อา แล้วฉัน.. ควรเรียกเธอว่าอะไรดีล่ะ ..”

 

 

“ก่อนอื่นเลย ฉันชื่อ เมเดียร์ ไกอา เจเนซิส ชื่อเล่นระหว่างเพื่อนคือบี๋ และใช่ฉันเป็นตัวของแกในโลกนี้ บางทีแกอาจจะมีข้อสงสัยอะไรต่างๆ แต่ตอนนี้มาที่บ้านของฉันก่อนเถอะ เรามีเรื่องต้องคุยกัน ”เมเดียร์

 

 

เธอจับผมลุกขึ้น ผมไม่รู้ว่าเธอเอาแรงเยอะขนาดนี้มาจากไหน แต่ที่ผมรู้ได้อย่างแน่ชัดเลยก็คือเธอนั้นแข็งแกร่งมาก ผิดกับผมที่เป็นคนจำพวกอ่อนแอ หลังจากที่ได้ลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับปัดฝุ่นแล้ว พานาร์ก็ได้เข้ามากระซิบข้างหูของผม

 

 

“ บางที การที่คุณไปกับคุณเมเดียร์อาจจะดีกว่าก็ได้นะคะ เพราะเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าในสถาบัน ในหมู่นักเรียนชั้นปีที่ 2 คุณเมเดียร์แข็งแกร่งที่สุด เพราะงั้นไม่น่าจะมีใครทำอะไรคุณหลังจากไปอยู่กับเธอหรอกค่ะ… ”พานาร์

 

 

ผมที่ได้รับรู้เรื่องราว ได้หันกลับไปขอบคุณคุณหนูคนนั้นอย่างจริงใจ เพราะตอนนี้ผมต้องมุ่งมั่นที่จะเอาตัวรอดในโลกนี้ก่อน.. แต่ว่าเมเดียร์นี่สูงจริงๆแฮะ เธอสูงประมาณ 176 ได้มั้งเป็นผู้หญิงที่สูงในระดับนึงเลย ทั้งยังสวยอีกต่างหาก ผมมั่นใจเลยว่าจะต้องมีผู้ชายหลายคนแน่ๆที่เข้ามาบอกรักกับเธอ

 

 

“ กำลังคิดอะไรแปลกๆอยู่ใช่ไหม? เลิกคิดบ้าๆแล้วก็ตามมาสักที ”เมเดียร์

 

 

“ อ่ะ- ได้ๆ ”

 

 

ผมหลุดจากภวังค์ ก่อนจะรีบเดินตามเมเดียร์ไป เธอเดินไปเร็วมากผิดกับคนปกติ ราวกับว่าเธอกำลังใช้เวทมนตร์หรือสกิลอะไรเทือกนั้นอยู่เลย ชักจะอยากรู้แล้วสิ

 

 

พวกเราเดินไปตามถนนสายหลัก ก่อนที่เมเดียร์จะเดินตรงไปยังรถม้าหรูคันหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าเรากำลังไปถูกที่รึเปล่าเลยกล้าๆกลัวๆหน่อย แต่ถ้าเธอเป็นคนนำแบบนี้แสดงว่ารถม้าคันนั้นจะต้องเป็นคนของเธอเป็นแน่

 

และก็ใช่ เมื่อชายชราที่สวมชุดพ่อบ้านคนนั้นได้เห็นเมเดียร์ เขาจึงทำการทักทายและเรียกคำขึ้นต้นเธอว่า..

 

 

“ คุณหนู จะกลับเลยไหมครับ ”ซาเวส

 

 

ก่อนจะก้าวขึ้นรถม้า เธอสำรวจชุด เสื้อผ้าของผม รวมทั้งบุคลิกหลายๆอย่างจึงได้ตัดสินใจที่จะไปซื้อของกันก่อน

 

 

“ ไม่ เราจะพาไอ้หมอนี่ไปที่ถนนเลยอจน์กันก่อน ”เมเดียร์

 

 

“ ทราบแล้วครับ ”ซาเวส

 

 

ระหว่างที่อยู่บนรถม้านั้นเราก็ได้พูดคุยกันเรื่อยเปื่อยไป ความรู้สึกของผมหลังจากที่ได้ขึ้นรถม้าครั้งแรกนั้นมันสุดยอดไปเลย มันนุ่มและนั่งสบายมาก นี่คงจะเป็นรถม้าของชนชั้นสูงสินะ

 

 

เนื่องจากผมสงสัยที่ที่เราจะไปกัน เลยได้เผลอมองไปที่เธอ เหมือนว่าเมเดียร์จะรู้ได้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่เลยเปลี่ยนจากท่าที่กำลังท้าวคางอยู่มาเป็นนั่งคุยกันแบบปกติ

 

 

“ นายคงจะสงสัยว่าถนนเลยอจน์นั้นเป็นที่แบบไหน ฉันบอกได้เลยว่ามันเป็นตลาดที่รุ่งโรจน์ที่สุดของเมืองหลวงนี้เลย มันมีทั้งร้านค้ามากมาย เสื้อผ้า อาวุธ อาหาร และสื่อบันเทิง ”เมเดียร์

 

 

ในบรรยากาศแบบนี้ผมไม่อยากจะพูดอะไรนัก เพราะมันดูจะเป็นการรบกวนเธอซะเปล่า อีกทั้งผมยังอยากใช้เวลาที่มีเหลืออยู่นี้ในการมองเธอให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็เพราะว่าเธอนั้นเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ที่สุดเท่าที่ผมเคยพบเจอมาเลย แม้มันจะเป็นตัวของผมเองในอีกโลกหนึ่งก็เถอะ

 

 

เมเดียร์ที่รู้สึกได้ถึงสายตาของผม เธอนั่งท้าวคางแล้วมองผมด้วยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย พร้อมกับพูดอะไรที่มันเกี่ยวกับเรื่องโรแมนติกขึ้นมา มันทำเอาผมเขินตัวเองไปพักนึงเลยล่ะ

 

 

“มองอะไรหึ? นั่งกับผู้หญิงที่สวยขนาดนี้เป็นครั้งแรกรึไง? นี่แกตกหลุดรักตัวเองซะแล้วหรอห๊า~~? ”เมเดียร์

 

 

“ … หุบปากไปเหอะ ”

 

 

ผมหน้าแดงอย่างช่วยไม่ได้ แล้วก็ผมเองก็จำเป็นต้องหันไปทางอื่น เพราะตำแหน่งที่ผมอยู่ตอนนี้มันเสียเปรียบสุดๆ ไม่ว่าจะทำยังไงผมก็ทำให้ตัวเองหยุดเขินตัวเองไม่ได้เลย

 

 

“ นี่แกเขินตัวแกเองหรอ~~~ ”เมเดียร์

 

 

อีกทั้งยังโดนยัยนี่แซวแบบนี้ไปเรื่อยๆอีก อายชะมัด เมื่อบรรยากาศมันเป็นไปแบบนั้น มันชวนให้โรแมนติกไปทั้งอย่างนั้นเธอหันหน้าออกทางหน้าต่าง แล้วพูดภาษาต่างโลกที่ผมไม่เข้าใจออกมาทั้งๆที่เธอยิ้มมุมปากแบบนั้น

 

 

“ ลอย์เรร์นัวรี (น่ารักชะมัด) ”เมเดียร์

 

 

“ ได้พูดอะไรไหมเมื่อกี้? ”

 

 

“ หึ ก็ไม่หนิ ”เมเดียร์

 

 

แล้วอยู่ๆเธอก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ ผมสามารถบอกได้เลยว่ารอยยิ้มที่เธอแสดงออกมาให้ผมเห็นนั้น เป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดในชีวิตของผมเลย ช่วงเวลานี้มันราวกับปาฏิหาริย์ ผมไม่เชื่อในพระเจ้า และไม่เชื่อในศาสนา แต่ตอนนี้ผมเชื่อแล้วว่า ตัวของผมในอีกโลกหนึ่งนั้น น่ารัก ที่สุดเท่าที่ผมเคยพบเจอผู้หญิงมาเลย..

 

 

 

ตัดจบตอน

 

 

เรื่องนี้เป็นยังไงกันบ้างครับบ ไรต์คิดว่ามันออกมาดีพอตัวเลยนะนี่ ก็นะ อยู่ๆไรต์ก็นึกถึงเรื่องที่ตัวเองไปต่างโลกละเจอตัวเองในอีกโลกที่ไม่ใช่ตัวเองขึ้นมามันจะเป็นยังไง ยังไงก็เถอะไรต์ขอบอกเลยนะ ว่าเมเดียร์นี่โคตรเก่ง แบบฉบับพระเอกเทพเลยล่ะ ไม่สิ นี่มันนางเอกเทพนี่หว่าา 

 

เอาเถอะ ถ้าทุกคนชอบเรื่องนี้ก็กดติดตาม คอมเม้นต์กันได้นะครับ ไรต์เหงาาาา

 

เอเฮะ