ระหว่างที่ผมกำลังเปลี่ยนชุดอยู่ เมเดียร์เธอยืนกอดอกรออยู่ตรงหน้าห้องเปลี่ยนเสื้อภายในร้าน แล้วค่อยๆเล่าความเป็นมาของโลกนี้ทีละเรื่อง รวมถึงเซ็ตติ้งของโลกนี้ด้วย

 

 

“ ที่โลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าสกิลอยู่ ซึ่งทุกคนบนโลกนี้ตอนเกิดมาจะได้รับสกิลติดตัวมาตั้งแต่เกิด 1 อันน่ะ มันมีมาตั้งแต่โบราณเลยคิดว่านี่น่าจะเป็นระบบของโลกเราอยู่แล้วที่คนทุกคนจะต้องมีสกิลน่ะ ”เมเดียร์

 

 

“ ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ”

 

 

ตามคาดสำหรับต่างโลก ไม่ว่าจะเป็นต่างโลกที่ไหนๆก็มักจะมีฟังก์ชั่นสำคัญอย่างพวกสกิลอยู่เสมอ ซึ่งเป็นทักษะที่บางอย่างจะติดตัวมาแต่กำเนิด และการจะได้รับสกิลบางอย่างมาจะต้องแลกกับความยากลำบากอย่างมาก นั่นจึงทำให้สกิลเป็นอะไรที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆเลย

 

 

“คิดไว้แล้วว่าแกน่าจะรู้อยู่แล้ว แต่ที่สำคัญกว่านั้น สกิลในโลกนี้พวกชนชั้นสูงส่วนใหญ่ไม่ได้มีไว้เพื่อต่อสู้ แต่กลับเอาไปใช้ในการโอ้อวดตัวเอง ทำให้ตัวเองสามารถดูถูกสามัญชนได้ก็เท่านั้น ฉันเลยไม่ค่อยชอบพวกชนชั้นสูงสักเท่าไหร่ ”เมเดียร์

 

 

“ สมัยนี้ยังมีพวกล้าหลังแบบนั้นอยู่อีกหรอเนี่ย ลำบากน่าดูแฮะ ว่าแต่เธอเองก็เป็นชนชั้นสูงเหมือนกันไม่ใช่รึไง?”

 

 

ผมที่สวมใส่เสื้อผ้า และตกแต่งทรงผมตามที่เมเดียร์แนะนำเสร็จแล้วจึงได้เดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อขอ บอกเลยว่านี่มันออกจะไม่ชินไปสักหน่อย เพราะผมเองก็ไม่ใช่คนที่ชอบใส่ชุดผู้ดีอะไรพวกนี้อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้มันจำเป็นที่จะต้องใส่จริงๆ

 

 

“ ดูดีเลยนี่ สำหรับการแต่งตัวแบบนี้ครั้งแรกของนายน่ะ ”เมเดียร์

 

 

“ จากนี้เราจะไปที่ไหนกันหรอ? ”

 

 

” ถามอะไรแปลกๆ? ก็บ้านฉันไง “เมเดียร์

 

 

พูดจบเธอก็ตรงไปจ่ายค่าชุดที่ผมกำลังใส่อยู่นี่ทันที 

 

 

” ทั้งหมด 30 ทองค่ะ “พนักงาน

 

 

“30 ทองสินะ อืมๆ  “เมเดียร์

 

 

ผมพูดได้เลยว่าค่าของเงินในโลกใบนี้นั้นสูงอย่างน่าเหลือเชื่อ 1 ทองแดงมีค่าเทียบเท่ากับ 100 บาท 1 เงิน เท่ากับ 1000 บาท และ 1 ทองมีค่าเท่ากับ 10000 บาท

 

 

นอกเหนือจากนั้นยังมีแพตตินัมที่ 1 เหรียญจะเท่ากับ 1 ล้านบาท  แม้ค่าเงินของโลกนี้จะสูงสักเท่าไหร่ แต่เงินมันก็ไม่ได้เฟ้อจนระบบพังหมดซะทีเดียว คงต้องเรียกได้ว่าสมดุล แต่ที่ไม่สมดุลคงจะเป็นราคาของชุดนี้นี่แหละ

 

 

ขณะที่อยู่บนรถม้า ผมก็ได้ถามกับเมเดียร์ไปอีกครั้ง

 

 

” ทำไมมันแพงได้ขนาดนี้ล่ะ? แค่ชุดแค่นี้? “

 

 

” บางทีนายอาจจะไม่เห็นค่าของมันนะบี๋ เพราะชุดที่นายใส่อยู่มันสร้างมาจากใยของชาโดว์มาเธอร์ บอสมอนสเตอร์แมงมุมในดันเจี้ยนข้างนอกนั่น เนื่องจากมันเป็นวัตถุดิบชั้นสูงจึงมีราคาแพง ไม่ใช่แค่นั้นนะ ร้านดุจดารา ที่นายพึ่งเข้าไปเมื่อกี้น่ะยังเป็นร้านประจำของราชวงศ์อีกด้วย ราคามันเลยสูงนั่นแหละ “เมเดียร์

 

 

” วัตถุดิบของบอสมอนสเตอร์งั้นหรอเนี่ย.. ยอดไปเลยแฮะ “

 

 

เป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสถึงสิ่งที่สร้างมาจากมอนสเตอร์ ถึงว่าล่ะมันทำไมนุ่มสบายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ตัวชุดมันจะดูอึดอัดและแน่นมาก แต่มันก็ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย บางทีความสามารถของเส้นใยนี้ก็คือการปรับขนาดให้เข้ากับผู้สวมใส่ แถมยังระบายอากาศดีสุดๆไปเลยด้วย

 

 

ผมค่อนข้างถูกใจชุดนี้เลยทีเดียว ตอนนี้ผมเริ่มจะรู้สึกขอบคุณตัวผมอีกคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าผมตอนนี้แล้วสิ

 

 

ขณะที่ผมกำลังเพลิดเพลินกับการมองดูชุดสุดแสนจะล้ำค่านี้อยู่นั้นเอง อยู่ๆเมเดียร์ก็ได้ยิ้มออกมาซะอย่างนั้น

 

 

” หึ อย่าลืมเตรียมคำพูดที่จะเอาไว้พูดกับพ่อแม่ฉันด้วยล่ะ “เมเดียร์

 

 

” ห้ะ.. !? “

 

 

ผมถึงกับช็อคไปขณะนึงเลย ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาทำอะไรอย่างการทักทายครอบครัวของผู้หญิงน่ะ ส่วนไอ้ฝ่ายหญิงน่ะดันเป็นตัวของผมเองด้วย ผมก็เลยไม่รู้จะเริ่มยังไงดีเลย

 

 

เพราะการที่อยู่ๆเธอก็พูดออกมาไม่บอกไม่กล่าวกันก่อนนั้น ทำเอาผมขนลุกเลยที่คิดว่าจะได้เจอกับพ่อแม่ของยัยนี่

 

 

” พ่อแม่ของฉันน่ะ~ ค่อนข้างจะเข้มงวดเลยนะขอ บอก~ เพราะงั้นจะพูดอะไรก็ระวังๆหน่อยก็แล้วกันน้า “เมเดียร์

 

 

“แล้วครอบครัวของนายล่ะบี๋ เป็นยังไงบ้าง? “เมเดียร์

 

 

แม้ว่าเธอจะถามผมด้วยสีหน้าระรื่น ผมก็ยังให้คำตอบอะไรไม่ได้ อีกทั้งบรรยากาศรอบๆตัวผมในตอนนี้มันมืดมนลงมามากกว่าปกติ ผมไม่รู้เลยว่าจะตอบเธอออกไปยังไงดี เพราะครอบครัวของผมในตอนนี้ไม่อยู่กันแล้ว เลยไม่มีห่วงกับโลกทางนั้นแล้วไงล่ะ

 

 

เหมือนว่าเมเดียร์จะจับท่าทางแปลกๆของผมได้ เธอทำหน้าเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าเธอสามารถอ่านใจผม และรู้เรื่องในอดีตของผมได้เลย

 

 

” โทษทีนะ ฉันจะไม่ถามแล้วล่ะ “เมเดียร์

 

 

บรรยากาศในตอนนี้เริ่มดิ่งลงเรื่อยๆเลยแฮะ ผมคงต้องพูดอะไรบางอย่างแล้วสิ

 

 

” เออใช่! สกิลของเธอเป็นแบบไหนหรอ? “

 

 

” สกิลของฉัน? “เมเดียร์

 

 

” ใช่ สกิลที่เธอว่า ว่าคนหนึ่งจะมีสกิลติดตัวตั้งแต่เกิด 1 อันนั่นน่ะ “

 

 

” อ๋อ ฟังนะบี๋ สกิลนี้ของฉันนี่แหละที่ทำให้ฉันสามารถอยู่ในชั้นเรียนคลาส S ได้น่ะ “เมเดียร์

 

 

” แล้วมันคือสกิลอะไรเล่า! “

 

 

” ฮ่าฮ่า ก็… ไร้ขีดจำกัด แรงก์ S น่ะ “เมเดียร์

 

 

” แล้วแรงก์นี่คือ? “

 

 

” ฉันจะเล่าให้ฟังเอง ไอ้แรงก์นั่นน่ะคือการจำแนกความแข็งแกร่งของแต่ละสกิลไง พอเราเกิดมา 1 ปี จะมีหน้าต่างสถานะปรากฏขึ้นมาต่อหน้า แต่มันจะบอกแค่สกิลที่แกมีก็เท่านั้น และหน้าต่างสถานะนั่นแหละที่ทำให้แกรู้ได้ว่าสกิลของแกมันอยู่แรงก์อะไร และมีความสามารถยังไงน่ะ”เมเดียร์

 

 

เห.. เหมือนกับเกม MMORPG อะไรพวกนี้เลยแฮะ เพียงแต่เราไม่สามารถแก้อะไรอะไรในหน้าต่างนั่นได้สินะ ที่ทำได้ก็จะมีแค่อ่าน หรือมองดูเท่านั้น

 

 

เรียกได้ว่า.. ก็แฟร์ดีหนิ

 

 

” แล้วความสามารถล่ะ? “

 

 

” นายคงจะรู้จักพวกพลังเวท กับพลังกายภาพอะไรพวกนั้นอยู่ใช่ไหม? “เมเดียร์

 

 

” ใช่ “

 

 

ผมพยักหน้า

 

 

” สกิลไร้ขีดจำกัดของฉันน่ะ จะเร่งขีดจำกัดของพลังตามที่ฉันต้องการเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นในด้านไหนก็ตาม แต่ก็มีข้อเสียตรงที่มันกินพลังของฉันไปมาก ฉันจึงต้องฝึกร่างกายอยู่ตลอดไง “เมเดียร์

 

 

” โห.. ยอดไปเลยแฮะ อยากมีพลังแบบนั้นบ้างจัง “

 

 

“เดี๋ยวนายก็คงมีเองนั่นแหละ เป็นถึงตัวฉันในอีกโลกนึงนี่นะ “เมเดียร์

 

 

แม้ว่าหน้าตาของเธอจะดูดุๆไปบ้าง แต่นิสัยของเธอมันเหมือนกับคนที่คอยให้กำลังใจคนอื่นอยู่ตลอดเวลา และดูจะเป็นห่วงคนในครอบครัวตัวเองมากเลยล่ะ

 

 

” เราเริ่มเห็นคฤหาสน์กันแล้วล่ะ “เมเดียร์

 

 

” ยินดีต้อนรับสู่ดินแดนของตระกูลเจเนซิสนะ “เมเดียร์

 

 

เธอยิ้มให้ผมเล็กน้อยพร้อมกับท้าวคาง ผมยิ้มตอบเธอก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างของรถม้า และได้เห็นถึงทุ่งหญ้าโล่งขนาดใหญ่ ทั้งสัตว์มากมาย  ทางถนนที่รถม้าผ่านเข้ามามันดูเป็นระเบียบสุดๆ ก่อนจะถึงคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่ตรงนั้น

 

 

เราต้องผ่านน้ำพุขนาดใหญ่ตรงนี้ไปก่อน ผมบอกได้เลยว่ามันสวยงามและอลังการสุดๆ สมกับที่เป็นดินแดนของขุนนาง

 

 

ไม่เพียงแต่คฤหาสน์ของขุนนางเจเนซิสที่ตั้งอยู่ รอบๆยังมีตึกอาคารตั้งอยู่ทางด้านข้างของคฤหาสน์ รู้สึกว่ามันจะเป็นที่พักของคนใช้และยังเป็นตึกสำหรับทำกิจกรรมต่างๆอีกด้วย

 

 

” โคตรสวยเลย.. “

 

 

” ใช่ไหมล่ะ ไม่ต้องชมฉันหรอกนะฉันรู้ตัวเองดี “เมเดียร์

 

 

 กู- อะแฮ่ม ผมถึงกับคิ้วขมวดกับคำพูดของยัยคนนี้ ผมก็ไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษ แค่บอกกับเธอว่า

 

 

” ฉันหมายถึงบ้านเธอต่างหากล่ะ “

 

 

” เค๊ “เมเดียร์

 

 

ไม่รู้ทำไม ผมถึงได้ยินเสียง “หึ ” ออกมาจากลำคอของยัยนี่ด้วย แต่ก็ช่างมันเถอะมันก็ไม่ใช่เรื่องของผมอยู่ดี

 

 

ขณะที่พวกเรากำลังคุยเล่นอะไรไปเรื่อยเปื่อยเพื่อแก้เบื่อระหว่างทาง รถม้าก็ได้หยุด การที่รถม้าได้หยุดนั้นหมายความว่า้ราได้มาถึงที่หมายกันแล้ว ไม่นานเกินรอประตูรถม้าก็ได้เปิดออก ทันทีที่ผมมองออกไปก็ต้องตกตะลึงในความงดงามของคฤหาสน์ตรงหน้า มันใหญ่ตระการตาจริงๆ สมแล้วที่เรียกที่นี่ว่าต่างโลก

 

 

เมเดียร์เป็ฯคนแรกที่ออกจากรถม้าก่อน เธอหันกลับมามองผม

 

 

“ ไม่รีบลงล่ะ พ่อฉันไม่ชอบคนชักช้าหรอกนะ ”เมเดียร์

 

 

“ อ่า… ”

 

 

ผมชักจะรู้สึกประหม่าขึ้นเรื่อยๆแล้วสิตอนนี้ 

 

 

ทันทีที่ผมออกมาจากรถม้า สิ่งแรกที่ผมทำก็คือการสำรวจรอบๆ ผมใช้สายตามองรอบคฤหาสน์ ด้านหน้าของบ้านตระกูลเจเนซิสนั้นเป็นสวนดอกไม้ ขนาบข้างถนนที่ใช้ในการเดินทางเข้ามาเลย ตัวถนนเองมันใหญ่กว่าที่ผมคิดไว้มากเลยแฮะ สมกับที่เป็นดินแดนของขุนนาง

 

 

ทันทีที่ประตูได้เปิดออก ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเมเดียร์ เด็กผู้หญิงคนนั้นใส่ชุดนักเรียนเหมือนกับเมเดียร์ไม่มีผิด เพียงแต่มีเพียงแค่เน็คไทของเธอเท่านั้นที่ต่างจากเมเดียร์ ให้เดา.. นั่นคงจะเป็นน้องสาวของเมเดียร์ แต่เป็นน้องสาวที่ต่างจากพี่ของเธออยู่มากเลยล่ะ 

 

 

“ พี่ไปไหนมาเนี่ย! กว่าจะกลับได้นะเกือบค่ำเชียว! ” โรเซ่

 

 

“ อะไรของแกวะโรเซ่ ฉันจะกลับค่ำๆหน่อยไม่ได้รึไง! ”เมเดียร์

 

 

ยัยนี่… โหดกับน้องตัวเองจริงแฮะ

 

 

“ไม่ได้ค่ะ! ”โรเซ่

 

 

พอน้องสาวของเมเดียร์พูดจบ ผู้ชายที่สวมชุดนักเรียนก็ออกมาจากบ้านเช่นกันเขาดูจะเป็นน้องชายของเมเดียร์อีกคน มีลักษณะคล้ายกับตัวน้องสาว บางทีทั้งคู่อาจจะเป็นฝาแฝดกัน? แต่ตัวน้องชายจะให้อารมณ์ผ่อนคลายมากกว่าสดใสแบบตัวน้องสาว

 

 

“ ขอโทษครับพี่.. ผมห้ามเธอไม่ให้ออกจากบ้านแล้วนะ ”ราซ 

 

 

“ ฉันส่งจดหมายมาให้แล้วไม่ใช่รึไงว่าจะมีแขกมาที่บ้านน่ะ แล้วนี่คือ? ไม่ให้เกียรติ์แขกกันแล้วหรอ? ”เมเดียร์

 

 

“ อย่าเหมารวมผมกับโรเซ่สิพี่ ผมพยายามแล้วนะแต่ไม่ไหวจริงๆ ”ราซ

 

 

“ เห้อ ช่างมันเถอะ ”เมเดียร์

 

 

เวลาที่เธออยู่กับน้องๆของเธอนั้นดูผ่อนค้ลายมากกว่าปกติ ผมที่มองดูภาพนั้นอยู่ห่างๆก็เกิดความรู้สึกเจ็บแปร๊บขึ้นมาข้างในอก หวนนึกถึงความทรงจำเก่าๆที่ยากจะลืมเลือน จริงสิ ผมลืมเล่าไปเลยว่าน้องสาวเธอมีลักษณะแบบไหน

 

 

ตัวของน้องสาวนั้นมีส่วนสูงไล่เลี่ยกับพี่สาวของเธอ แต่ตัวเล็กกว่านิสัยร่าเริงเป็นกันเอง มีผมสีทองเงางามตามฉบับต่างโลก และดวงตาม่วงต่างจากพี่ของเธอที่มาตาสีแดงทับทิม

 

 

ส่วนน้องชายของเธอนั้นตัวสูงพอๆกับตัวพี่สาวเอง มีผมสั้นสีทองเงางามเหมือนกับแฝดของเขา และดวงตาสีม่วงเหมือนกัน แต่นิสัยนี่.. คนละเรื่องกับแฝดของเขาเลย

 

 

ผมมองดูพวกเขาอยู่ห่างๆ โดยไม่ทำอะไรที่เป็นการรบกวนพวกเขาเลย ก่อนที่น้องสาวจะหันมาสังเกตเห็นผมที่ยืนอยู่หน้าคฤหาสน์นานแล้ว ส่วนรถม้าที่พวกผมนั่งมานั้น คุณพ่อบ้านเขาเอาไปเก็บนานแล้วน่ะ

 

 

“ เอ่อ… พี่ คนนั้นใครอ่ะ แฟนพี่อ่อ? ”โรเซ่

 

เมเดียร์ทำหน้าตายก่อนจะบอกกับน้องสาวของเธอให้เข้าใจได้สักทีว่าผมนั้นไม่ใช่คนรักของเธอ แต่ผมนั้นเป็นแขกที่อยู่ในจดหมายของเธอต่างหาก สิ่งที่เมเดียร์ได้บอกกับโรเซ่นั้นทำเอาเธออึ้งไปเลย โรเซ่กลับตัวไปสงบเสงี่ยมแบบคุณหนูชั้นสูงอย่างรวดเร็วจนทำเอาผมทึ่งในการปรับตัวของเธอเลย

 

 

โรเซ่เรียกให้ราซมายืนข้างๆ ก่อนที่พวกเขาจะแนะนำตัวเอง

 

 

“ ดิฉันโรเซ่ ไกอา เจเนซิสค่ะ! ”โรเซ่

 

 

“ ราซ เลอร์ เจเนซิสคร้าบ ”ราซ

 

 

ท่าทางของพวกเขาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คณะที่คนพี่อย่างโรเซ่ทำตัวสมกับที่เป็นชนชั้นสูง แต่กับคนน้องนั้นทำตัวไม่สนโลก อย่างที่ผมเคยเป็นมาก่อน ความแตกต่างของลูกชายและลูกสาวบ้านนี้นั้นทำเอาผมทึ่งไปอีกรอบเลยแฮะ

 

 

“ ยินดีต้อนรับสู่บ้านตระกูลเจเนซิสนะคะ ”โรเซ่

 

 

โรเซ่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ต่างจากพี่ของเธอที่มักจะทำตัวน่ากลัวอยู่เสมอ

 

 

“ เข้าบ้านได้แล้วน่า ”เมเดียร์

 

 

ไม่พูดพร่ำทำเพลง เมเดียร์ชิงเดินเข้าบ้านไปก่อนใครเพื่อนเลย ไม่รู้ว่าเธอไปกินอะไรผิดสำแดงมาถึงรีบขนาดนั้น แต่นั่นก็ทำให้ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น้ข้าไปในบ้านตามเธอเช่นกัน รวมถึงตัวผมด้วย

 

 

 

 

โห… เฮะ น่ากลัวโคตร

 

 

ทันทีที่ได้ก้าวเข้ามายังโถงทางเดินที่เชื่อมไปยังทุกจุดของคฤหาสน์ ก็ได้พบกับพ่อและแม่ของเมเดียร์ที่รออยู่แล้ว ทางคุณแม่นั้นดูอบอุ่นท่านมีผมสีทองเหมือนฝาแฝดคู่นั้นและมีดวงตาสีแดงทับทิมเหมือนกับเมเดียร์ แต่งตัวสมกับที่เป็นคุณนายของบ้านหลังนี้ ส่วนคุณพ่อนั้นเป็นชายวัยกลางคนที่หล่อเหลาและน่าเกรงขามมาก เขามีผมสีดำขลับเหมือนกับเมเดียร์และดวงตาสีม่วงเหมือนคู่แฝด

 

 

อีกทั้งออร่าที่คุณพ่อปล่อยออกมานั้น มากเกินกว่าที่ผมจะรับไหวซะอีก… ขาผมใตอนนี้มันไม่ขยับอีกต่อไปแล้ว ทั้งจากความกลัวและความตื่นเต้น เขาจ้องมองมาที่ผมตาไม่กระพริบ

 

 

“ … บุคลิกดี ”นัวร์

 

 

ทันทีที่เขาเอ่ยคำแรกออกมา เมเดียร์ก็ต้องขมวดคิ้วทันที

 

 

“ หมายความว่าไงคะพ่อ? ”เมเดียร์

 

 

“ พ่ออ่านจดหมายแล้ว ตอนแรกพ่อคิดว่าแขกที่ลูกว่าจะเป็นคนรัก หรือไม่ก็เพื่อนของลูกซะอีก? แล้วนี่ใครรึ ขุนนางต่างถิ่น? ”นัวร์

 

 

“ แสดงว่าพ่ออ่านจดหมายไม่ครบสินะ.. ”เมเดียร์

 

 

“ จ้ะ พ่อของลูกอ่านจดหมายที่ลูกส่งมาได้แค่ครึ่งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ฉีกทิ้งเละเทะเลยล่ะจ้ะ ”วิเวียน

 

 

“ …. พ่อคะ ทำไมไม่อ่านจดหมายให้จบก่อนล่ะคะ? ”เมเดียร์

 

 

เมเดียร์จ้องเขม็งใส่พ่อของเธอ พ่อของเธอเองหลบสายตาของลูกสาวตัวเองอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

 

บางที.. ครอบครัวนี้อาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิดก็ได้นะ

 

 

“ ก็… ตอนนั้นพ่อใจร้อนไปหน่อยโทษทีนะเมเดียร์ ”นัวร์

 

 

ถึงแม้เมเดียร์จะหงุดหงิดกับพ่อของเธอยังไง เธอก็ต้องหยุดอยู่แค่นี้ก่อน ก่อนที่จะหันมาแนะนำตัวของผมให้พวกเขารู้จัก 

 

 

“เดี๋ยวหนูจะแนะนำให้รู้จักนะพ่อ แม่ นี่คือบี๋ … และเขาคือหนูเอง ”เมเดียร์

 

 

“ อาร่า ”วิเวียน

 

 

พ่อของเธอเลิ่กคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ทางน้องสาวของเธอที่ได้รู้เรื่องก็ได้เข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ โรเซ่สำรวจตัวของผมทั้งกางเกง เสื้อ บริบท อีกทั้งเธอยังดมกลิ่นอีกด้วย..

 

 

“พี่ฮะ.. หยุดทำอะไรแปลกๆทีเถอะ มันไม่ดีไม่งามนะ.. ”ราซ

 

 

ยังดีหน่อยที่น้องของโรเซ่พอจะรู้ว่าพี่สาวฝาแฝดของตัวเองนั้นมีนิสัยเป็นอย่างไร ราซพยายามห้ามโรเซ่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล

 

 

“ ไม่อ่ะะ.. ไม่เหมือนพี่เมเดียร์เลยสักนิด ”โรเซ่

 

 

“ มันจะเหมือนได้ไงเล่ายัยน้องโง่ นั่นมันตัวฉันจากต่างโลกต่างหาก ”เมเดียร์

 

 

“ จริงหรอเนี่ย! ”โรเซ่

 

 

เธอถึงกับสะดุ้งถอยออกไปเลย… อะไรมันจะตกใจปานนั้น

 

 

“ งั้นก่อนที่เราจะคุยกัน เราไปทานอาหารกันก่อนไหมจ้ะ? ”วิเวียน

 

 

ทันทีที่คุณแม่ได้พูดขึ้น …ทุกคนในที่นั้นก็เห็นด้วยกันทั้งหมด

 

 

ตอนนี้ผมเลยได้มาอยู่ที่โต๊ะอาหารของบ้านนี้ ซึ่ง… มันโคตรจะใหญ่เลย! แถมอาหารที่เมดเอามาเสิร์ฟเองก็มากขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกผมก็กังวลอยู่หรอกนะว่าอาหารพวกนี้จะไม่หมดและต้องทิ้งอย่างน่าเสียดาย

 

 

แต่ผมคงจะไม่คิดแบบนั้นหลังจากเห็นภาพนี้แล้วล่ะ

 

 

ทั้งคุณแม่ ทั้งเมเดียร์ และโรเซ่เอง พวกเธอกินอาหารเยอะสุดๆ แม้ว่าจะไม่ได้เห็นอย่างแน่ชัดว่าคุณแม่กินยังไงถึงได้มีภูเขาจานวางอยู่ข้างๆได้เยอะแบบนั้น แต่ผมเองก็เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าโรเซ่นั้นกินอาหารด้วยความอยากแบบสุดๆ แม้ว่าจะไม่ได้ตะกละ แต่การกินของเธอมันค่อนข้างมูมมามผิดกับลักษณะภายนอกลิบลับ

 

 

ส่วนของเมเดียร์นั้น เธอกินเร็วพอๆกับแม่ของเธอ บางทีเธออาจจะเร็วมากกว่ายิ่งพวกที่มีพลังสายความเร็วซะอีก ซึ่งผมก็เข้าใจได้ว่าเธอนั้นต้องกินเพื่อเอาพลังงานมาทดแทนในส่วนที่เสียไป 

 

 

สำหรับทางผู้ชายนั้น.. แค่ดูพวกเธอกินไปตั้งขนาดนั้นก็เหมือนกับจะอิ่มเองแล้วล่ะ

 

 

“ ว้าว ..”

 

 

“ ขอโทษนะครับ ที่ต้องมาให้เห็นสิ่งที่ไม่น่าดูแบบนี้ ”ราซ

 

 

“ ไม่เป็นไร ขอบคุณที่เป็นห่วงนะน้องชาย ”

 

 

ราซชะงักไปครู่หนึ่งหลังจากที่ผมพูดคำว่าน้องชาย เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นักเพราะผมค่อนข้างจะเป็นคนนอก แต่เขาเองก็ไม่เคยได้ยินคำนี้จากพี่สาวมากเท่าที่ควร ราซเลยดีใจที่ได้ยินคนตรงหน้า ที่เป็นตัวของพี่เขาเองแต่เป็นอีกคนหนึ่งเรียกตัวเองว่าน้องชาย

 

 

แม้ว่าจะไม่ใช่พี่แท้ๆ แต่เขาก็ยังรับรู้ได้ถึงความรู้สึกในคำพูดนั้นได้เป็นอย่างดี

 

 

“ ครับ.. พี่ ”ราซ

 

 

ผมเองก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน ที่ถูกเรียกว่าพี่ เป็นเวลานานมากแล้วที่ผมไม่ได้ยินคำนี้มา มันทำเอาผมใจเต้นไปในระดับนึงเลยล่ะ

 

 

“ อาร่า ราซคุงยอมรับเขาเป็นพี่ชายแล้วหรอจ้ะ? ”วิเวียน

 

 

“ อ- เอ่อ… ก็นิดหน่อยน่ะครับท่านแม่ ”ราซ

 

 

“ ทีนี้.. เรามาแนะนำตัวกันอีกครั้ง ดีไหม? ”นัวร์

 

 

เมื่อข้าวปลาอาหารทั้งหลายได้หมดไปจากโต๊ะนี้แล้ว เหล่าเมดทั้งหลายก็ได้เข้ามาเก็บจานและอุปกรณ์ต่างๆ ผมรู้สึกอายนิดหน่อย เพราะเมดแต่ละคนของบ้านนี้นั้นหน้าตาดีโคตร.. ไม่สิ มาตรฐานหน้าตาในต่างโลกนี้คงจะดีเสมอล่ะนะ

 

 

หลังจากนั้นพวกเราก็ได้มาแนะนำตัวกันอีกครั้ง สำหรับคนที่รู้จักกันแล้วเราจะข้ามไปเลย เพราะงั้นตอนนี้น่าจะเหลือแค่พ่อ กับแม่ที่ต้องแนะนำตัวเองกับเล่าประวัติของครอบครัวให้ผมฟัง

 

 

“ แม่ชื่อวิเวียน ไกอา เจเนซิส นะจ้ะ ”วิเวียน

 

 

“ ฉันนัวร์ เลอร์ เจเนซิส เป็นหัวหน้าตระกูลเจเนซิสแห่งนี้ ”นัวร์

 

 

“ แหม่ คุณล่ะก็ทำมาดเข้มไปได้นะคะ~ ”วิเวียน

 

 

“อะไรเล่าที่รัก อยู่ต่อหน้าแขกเราก็ต้องทำขรึมไว้สักหน่อยสิ่ ”นัวร์

 

 

แม้ว่าคุณพ่อจะทำมาดเข้ม ทำตึงมากสักเพียงใด ก็ยังต้องพ่ายให้กับอำนาจเมีย 

 

 

นี่สินะ ผู้ชายบ้านเจเนซิส

 

 

“ อย่างที่เมเดียร์ได้บอกไป ผมชื่อบี๋ จะเรียกผมว่าอัลเลียน(ชื่อที่พึ่งคิดได้เมื่อกี้)ก็ได้ อย่างที่รู้กันว่าผมคือตัวของเมเดียร์ที่มาจากต่างโลก ผมไม่ได้หวังให้พวกคุณเชื่อ หรือไว้ใจผม เพียงแค่ได้รับรู้ว่าตัวผมนั้นยังมีชีวิตอยู่ก็พอ ”

 

 

อยู่ๆผมก็พูดอะไรไม่รู้ออกไป ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าจะพูดคำพูดดราม่าๆแบบนั้นออกไปทำไม ตอนนี้ผมอยากจะตบปากตัวเองจริงๆที่พูดอะไรออกไปไม่คิด

 

 

“นี่พี่ชาย เล่าเรื่องโลกของพี่ให้พวกเราฟังหน่อยสิ ”โรเซ่

 

 

“ เห้ย อย่าพูดอะไรไม่-! …”เมเดียร์

 

 

“ไม่เป็นไรหรอก ”

 

 

เมเดียร์รู้อยู่แต่แรกแล้วว่าที่ผมไม่อยากจะเล่าเรื่องนี้เพราะว่าอะไร ผมไม่ได้ห้ามโรเซ่ ผมหยุดเมเดียร์ที่กำลังจะตะคอกใส่น้องสาวตัวเอง ผมคิดว่าตอนนี้ผมควรจะเล่ามันออกมาได้แล้ว

 

 

ก็เพราะว่าครอบครัวของผมในโลกนี้อยู่กันพร้อมหน้าแล้วนี่นา

 

 

ผมยิ้มขึ้น ก่อนที่จะตั้งใจเล่าเรื่องราวของผมก่อนที่จะมาอยู่ที่นี่..

 

 

“ เริ่มแรกเลยผมก็เป็นเด็กธรรมดาๆนี่แหละ ที่โลกของผมมีวิทยาการมากมายที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์ แต่ไร้ซึ่งเวทมนตร์ ไม่สิ.. บางทีอาจจะมีอยู่ก็ได้ จริงๆผมเป็นเด็กที่เรียนเก่งอยู่ในระดับนึง และมีชีวิตในวัยเรียนที่สนุกสนาน ผมเคยมีครอบครัวที่ดีเช่นพวกคุณ ”

 

 

“ เพียงแต่ว่า มันกลับถึงจุดอ้างว้างในวันที่พวกเขาจากไปทั้งหมด ”

 

 

ผมค่อยๆเล่าให้พวกเขาฟังทีละเรื่อง

 

 

จนมาจบอยู่ที่ ผมนั้นได้มาอยู่ที่นี่แล้ว

 

 

“ … ”เมเดียร์

 

 

ตอนแรกเธอไม่คิดว่ามันจะเลวร้ายถึงขั้นนั้น ในตอนแรกที่เธอถามผมมาเธอคงจะคิดว่าผมนั้นทะเลาะกับครอบครัวของตัวเองจนถึงจุดแตกหัก แต่เรื่องจริงนั้นมันคนละเรื่องเลย จังหวะนั้นที่บรรยากาศมันไม่ราบรื่นเธอคิดอยู่พักนึงว่าจะปลอบผมที่เป็นตัวของเธออีกคนหนึ่งดีรึเปล่า

 

 

แต่หน้าที่นั้นกลับไม่ใช่ของเธอ

 

 

“ มาให้หนูปลอบมา ”โรเซ่

 

 

โรเซ่เข้ามาโอบกอดผมจากทางด้านหลัง ภาพนั้นทำให้เมเดียร์นิ่งไปพักนึง แล้วนึกย้อนมาถึงตัวเอง และดูเหมือนว่าการที่โรเซ่ได้มาปลอบผมนั้นจะทำให้เธอกับผมสนิทกันมากขึ้นกว่าเดิม 

 

 

เมเดียร์มองภาพเสียงหัวเราะของน้องสาวเธอตรงหน้าอย่างนิ่งเฉย ก่อนจะจิบชาดำตรงหน้าเธอนิ่งๆ

 

 

แม่ของเธอที่มองดูเมเดียร์ในตอนนี้อยู่คงจะรู้สึกได้แน่ๆว่าในใจของลูกสาวเธอ คงจะปั่นป่วนอยู่ไม่น้อย และเพื่อเป็นการตัดบทการสนทนานั้น คุณวิเวียนเลยได้ตบมือหนึ่งครั้ง

 

 

แปะ

 

 

เสียงตบมือของคุณวิเวียนรุนแรงถึงขนาดที่ทำให้ทั้งห้องนี้ได้ยินเสียงตบมือนั้นได้อย่างชัดเจน โรเซ่รู้สึกได้ว่าตัวเองควรจะพอได้แล้ว จึงกลับมานั่งที่นั่งของตัวเองพร้อมส่งยิ้มมาให้ผมเล็กๆ

 

 

“ในเมื่อเธอเล่าเรื่องของเธอแล้ว.. ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้เล่าเรื่องของเราบ้างล่ะ ”นัวร์ 

 

 

ตระกูลเจเนซิสนั้นเป็นตระกูลเก่าแก่ ที่มีศักดิ์เป็นถึงดยุค ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันตระกูลเจเนซิสนั้นไม่เคยแบ่งแยกเพศในการขึ้นครองตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเลย และตระกูลของเรายังมีความโดดเด่นทางด้านการทหารมากยิ่งกว่าดินแดนไหนๆ 

 

 

ตั้งแต่รุ่นแรก มาถึงรุ่นที่ 18 ซึ่งเป็นรุ่นของพ่อเมเดียร์ หัวหน้าตระกูลมีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันตามแต่ละสายการต่อสู้ที่พวกเขาเรียน อีกทั้งทักษะการต่อสู้และสกิลของพวกเขายังเป็นของเฉพาะตัวที่มีแค่คนในตระกูลเท่านั้นที่ใช้ได้อีกด้วย

 

 

ตระกูลนี้ปกครองด้วยความเข้าใจในชาวบ้านในดินแดน จึงเป็นดินแดนที่รุ่งเรืองสำหรับทุกเผ่าพันธ์

 

 

นี่คือความเป็นมาเบื้องต้นของตระกูล

 

 

“ถึงแม้ว่าจะเอาแต่อยู่ในตระกูล มันก็ไม่ได้ช่วยให้แข็งแกร่งขึ้นมากขนาดนั้น เพราะฉะนั้นพวกเราจึงส่งตัวลูกของเราเข้าสถาบันราชวงศ์ไง ”นัวร์

 

 

“ สถาบันราชวงศ์เป็นสถาบันการศึกษาสำหรับเด็กที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปน่ะจ้ะ แน่นอนว่าเปิดรับทั้งสามัญชนและขุนนางเลย แม้ว่าสามัญชนจะถูกดูถูกเหยียดหยามเป็นส่วนมาก แต่พวกเขาหลายคนที่จบจากที่นั่นก็กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่กันหมดเลยนะจ้ะ ”วิเวียน

 

 

ตอนนี้ผมมีความเข้าใจในเซ็ตติ้งของโลกนี้เพิ่มขึ้นแล้วล่ะ คือ… มันก็เหมือนๆกับพวกมังงะ นิยายต่างโลกทั่วไปนั่นแหละ เพียงแต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ.. การที่มีผมอยู่ 2 คนในโลกแห่งนี้ไงล่ะ

 

 

“ เมื่อวันนี้สถาบันพึ่งมีการเปิดรับนักเรียนไป พวกเราเลยไปสอบเข้ากันน่ะ ”เมเดียร์

 

 

“ ซึ่งสถาบันจะเปิดพิธีปฐมนิเทศก็ตั้งเดือนหน้านู่น ”เมเดียร์

 

 

“ เพราะงั้นเราก็ยังพอมีเวลาจะฝึกนายให้แกร่ง แล้วยัดนายตามฉันเข้าไปเลย ”เมเดียร์

 

 

“ ถ้าเธอเข้ามาอยู่ในการดูแลของเรา เราจะส่งเธอเข้าเรียนที่นั่นเองจ้ะ”วิเวียน

 

 

ยัดเหรอ… ฟังดูแปลกๆแฮะ

 

 

“ ระบบอุปถัมป์สินะ.. ”

 

 

แต่ว่าเนื่องจากผมผ่านการเรียนมามากจนพอแล้วล่ะ ผมไม่อยากยุ่งอะไรกับมันอีกแล้ว ที่ผมอยากทำหลังจากที่มาในโลกนี้คือการออกท่องโลกมากกว่า ผมเลยกำลังจะปฏิเสธข้อเสนอไป ทว่ายัยเมเดียร์นั่น ดันยื่นคำขาดมา

 

 

“ ไม่ว่ายังไงก็ตาม… นายจะต้องเข้าสถาบันพร้อมกันกับฉัน ”เมเดียร์

 

 

…ให้ตายสิ เลี่ยงยากแล้วสิทีนี้

 

 

“ แล้ว… ถ้าเธอกำลังจะขึ้นปีที่สอง แล้วไหงพานาร์ถึงบอกว่าเธอแกร่งที่สุดแล้วล่ะ? ”

 

 

“ แกเนี่ยถามอะไรแปลกๆนะบี๋ ”เมเดียร์

 

 

“ ก็เพราะว่าพี่น่ะได้ท็อปของชั้นปีตลอดเลยไงล่ะครับ ทั้งภาคทฤษฎี และการปฏิบัติและการสู้จริงเลย ”ราซ

 

 

เป็นงั้นเองหรอเนี่ย… ยัยนี่มัน โคตรก่งเลยนี่หว่า ขนาดผมเองก็ยังแทบรั้งท้ายตลอดเลยนะเนี่ย

 

 

“ โห ”

 

 

“ เพราะงั้น ถ้าได้ฉันสอนล่ะก็ ไม่ว่านายจะอ่อนมากแค่ไหน ฉันก็จะทำให้นายโคตรแกร่งเอง! ”เมเดียร์

 

 

มันจะเชื่อถือได้ไหมวะเนี่ย.. ตัวผมเองไม่รู้จะเชื่อคำพูดของยัยนี่ได้สักเท่าไหร่ แต่ก็คิดว่ามันเป็นอะไรที่น่าสนใจดีที่จะให้เมเดียร์เป็นคนสอนเรื่องเกี่ยวกับโลกใบนี้ให้ผม

 

 

 หลังจากเมเดียร์พูดจบ พ่อของเธอก็เป็นคนพูดต่อจากเธอทันที โดยจะเป็นการยื่นข้อเสนอการอุปการะ ที่จะรับผมเป็นบุตรบุญธรรม โดยที่ผมนั้นมีสิทธิ์เทียบเท่ากับเมเดียร์ทุกประการ

 

 

ในเรื่องนี้ไม่มีใครที่ไม่ยอมรับ ผมเลยได้ตอบตกลงกับเขาไป ในส่วนห้องของผม.. พวกเขาให้ผมใช้ห้องเดียวกันกับเมเดียร์ เพียงเพราะว่าเราเป็นคนๆเดียวกันและอยากจะให้เราสนิทกันให้มากขึ้น เลยจับเรามาอยู่ด้วยกันน่ะ พวกเขาว่าแบบนั้น

 

 

ผมไม่ได้คิดอะไรมากสำหรับเรื่องนั้น แต่ดูเหมือนว่าเมเดียร์จะกังวลมากพอสมควร ถึงขั้นที่เธอต้องรีบกลับไปที่ห้องเพื่อเก็บห้องที่รกอยู่ของเธอในทันที

 

 

“ ห้องของพี่เมเดียร์ค่อนข้าง… รกพอสมควรเลยน่ะครับ ”ราซ

 

 

“ อืม.. ”

 

 

ผมมองตามเธอที่รีบวิ่งออกจากโถงทานอาหารไป..

 

 

 

 

..

 

 

.

 

 

ยามดึก

 

 

ผมยืนอยู่ริมระเบียงที่หันหน้าออกไปหาดวงจันทร์ โดยเมเดียร์นั้นกำลังนอนหันหลังให้ผมอยู่บนเตียง แม้เธอจะไม่ได้มองเห็นผม แต่เธอก็รู้ได้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่เธอเลยพูดกับผม

 

 

“กำลังคิดถึงเรื่องอะไรอยู่หรอ ถึงยังไม่นอนน่ะ ”เมเดียร์

 

 

“ก็… ฉันแค่คิดว่า วันนี้ฉันเจอเรื่องอะไรมาเยอะ.. เยอะมากจริงๆ ”

 

 

“เอาน่า เดี๋ยวนายก็หายเหนื่อย ”เมเดียร์

 

 

..เธอพูดราวกับว่าผมกำลังรู้สึกยังไงอยู่ อยู่เลยผมหันหน้ามาหาเมเดียร์ แม้ว่าจากตรงนี้ผมจะเห็นแผ่นหลังที่ใส่ชุดนอนของเธออยู่ได้ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับเธอเกินเลยมากกว่าคำว่าเพื่อน และตัวเอง ผมยิ้มก่อนจะเดินตรงมาที่เตียง

 

 

ทิ้งตัวลงนอนทางด้านขวาของเตียงที่ยังว่างอยู่ ความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัสถึงเตียงคือความผ่อนคลาย และเมื่อผ่อนคลายแล้วมันจึงเริ่มง่วง.. จากนั้น.. ผมก็ค่อยๆหลับไป

 

 

“ บี๋? ”เมเดียร์

 

 

[ เมเดียร์ ]

 

 

ฉันหันหน้ามาหาเขา ดูเหมือนว่าเขาจะหลับไปแล้วล่ะ เยี่ยมไปเลย

 

 

“ขอโทษนะ แต่… ขอฉันได้ใกล้ชิดนายมากกว่านี้หน่อยนะ.. ”

 

 

ในเมื่อเขาหลับไปแล้ว ฉันจึงสามารถกอดหรือจะทำอะไรกับเขาก็ได้ ฉันหอมหน้าผากของเขาอย่างอ่อนโยน

 

 

ตั้งแต่แรกพบแล้ว ฉันรู้สึกแปลกๆกับเขา ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นกับผู้ชายคนไหนมาก่อน ตั้งแต่ช่วงบ่ายมันก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆเลย..

 

 

“ บี๋.. ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาแยกนายไปจากฉัน.. เด็ดขาดเลย ”

 

 

 

 

 

ตัดจบตอน