ตอนที่ 3 อัศวินดำท่องเน็ต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

ตอนที่ 3 อัศวินดำท่องเน็ต

 

ฉันถูกขังภายในสำนักงานใหญ่ของจัสติสครูเซเดอร์และไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้

 

ก็แน่สิฉันเป็นอาชญากรนี่นะ ถูกปฏิบัติด้วยแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ทว่ามันก็ค่อนข้างน่าสงสัยแปลกๆ

 

อย่างแรกเลยคือสภาพแวดล้อมของมันดีกว่าห้องพักโทรมๆ ที่ฉันเคยอาศัยอยู่ตัวคนเดียวหลายเท่า

 

มีทั้งตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ คอมพิวเตอร์ ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

 

 

ช่วงวันแรกๆ ฉันก็ปล่อยตัวให้สบายไปกับการอยู่ภายในห้องขังนี้อยู่หรอก แต่ฉันก็ได้เข้าใจว่าขุมนรกมันกำลังเริ่มต้นขึ้น

 

 

เหล่าพวกผู้พิพากษาได้เดินทางมาถึงแล้ว

 

 

 

『หื้ม ฉันว่าห้องมันดูจืดชืดไปหน่อยนะ งั้นวางกระบองเพชรไว้ตรงก็คงไม่เลว』

 

 

เรดนำกระบองเพชรมาวางไว้ภายในห้องขังของฉันโดยไม่ถามความเห็นกันสักนิด

 

 

『ฉันเอาหนังสือเรียนกับสมุดจดของฉันมาให้ คิดว่านายคงต้องใช้เพื่อเรียนตามให้ทันเน้อ』

 

 

เยลโล่เอาของไร้สาระมาให้ฉันโดยไม่ได้ขอเหมือนกัน

 

 

 

『เอาหนังสือ วางไว้ตรงนี้นะ อ่านด้วยล่ะ』

 

 

บลูนำหนังสือมาวางบนชั้นหนังสือที่ว่างเปล่าของฉันก่อนจะมองมาทางนี้ราวกับบอกว่าฉันต้องอ่านพวกมันให้ได้

 

แล้วเหตุการณ์เหล่านี้ก็เกิดวนเวียนไปเรื่อยๆ ขณะที่ฉันยังถูกคุมขังอยู่ จากห้องที่ค่อนข้างดูเรียบง่ายในตอนแรก มันกลับกลายเป็นห้องที่ดูมีแฟชั่นทันสมัยจนเผลอคิดไปว่ามันใช่ห้องที่พวกวายร้ายจะอยู่กันจริงเหรอ!

 

นี่มันห้องขังนะเห้ย ไม่ใช่ที่ไว้ให้พวกหล่อนมาเดินเล่นฆ่าเวลา!!

 

อย่ามาล้อกันเล่นนะ! แม้ว่าฉันจะแสดงท่าทางไม่พอใจออกมาพวกเธอก็ยังยิ้มแย้มอยู่ดี

 

 

 

 

 

「……เอาละได้เวลาพักหายใจสักที……!」

 

 

เนื่องจากพวกเธอไม่ได้อยู่กับฉันทั้งวันจึงพอมีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง

 

แต่ฉันรู้ดีว่าตัวเองถูกจับตามองจากที่ไหนสักแห่งอยู่ จึงไม่สามารถทำอะไรแย่ๆ ได้ ก็เลยเลือกจะไล่ดูคลิปในนิมมูนิมมูที่เรดสอนฉันใช้เมื่อวันก่อน

 

ขอบอกไว้ก่อนว่าไม่ใช่การฆ่าเวลาเพราะเบื่อ แต่เป็นการสำรวจโลกใบนี้ว่าคิดยังไงกับฉันต่างหาก

 

 

「ชิบผาย….ตูทำอะไรลงไป…」

 

หัวใจของฉันแทบจะแตกสลายไม่เหลือชิ้นดีหลังดูคลิป

 

มันเป็นคลิปที่คนธรรมดาถ่ายเอาไว้ ในตอนที่พวกจัสติสครูเซเดอร์กำลังตกหลุมพรางของพวกวายร้ายและกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง

 

 

 

『เรด! อย่าปล่อยให้พวกกีกี้มันทำอะไรตามใจชอบได้สิฟะ!!』

 

 

『คึ อัศวินดำคุง…』

 

『จัสติสครูเซเดอร์ คนที่จะเอาชนะพวกเธอได้น่ะ มีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นจำเอาไว้!!』

 

ทำไมฉันถึงพ่นคำพวกนี้ออกไปกัน

 

พอลองนึกย้อนกลับไป รู้สึกเหมือนอยากจะตายให้ได้จริงๆ แถมพอเลื่อนมาอ่านเม้นดูความสิ้นหวังมันก็โถมเข้ามาหนักกว่าเดิม

 

: ซีโร่วันซีโร่วันซีโร่วัน คุณพระไอ้หมอนี่มันเบจีต้าของแท้

: เนื่องจากศัตรูแข็งแกร่งเกินไป ชายผู้นี้จึงต้องปกป้องและปั้นพวกเธอจนกว่าพวกเธอจะแกร่งมาโค่นเขาได้

: ตัวร้ายบ้านไหนเค้าทำแบบนี้กันฟะ ไอ้แบบนี้มัน พระเอกมาแล้ว!! ชัดๆ 55555

: พี่ใส่ชุดรุ่นเก่า น้อนๆ ก็ยังงัดไม่ลงอ่ะครับ โหดจัด

 

「พระเอกมาแล้วบ้านเอ็งสิ!」

 

ฉันแทบจะเกือบตบโต๊ะให้คว่ำ แต่ก็พยายามตั้งสติขวัญเอ้ยขวัญมา

 

จัสติสครูเซเดอร์ตอนนั้นก็ลำบากกันพอตัว

 

เมื่อพวกสามคนได้ร่วมพลังกันจริงๆ ก็ค่อนข้างแข็งแกร่งเลยทีเดียว แม้คู่ต่อสู้ของพวกเธอที่เจอจะไม่แกร่งเท่าฉัน แต่มันก็ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดี

 

 

「……เฮ้อ」

 

 

มันก็ไม่ใช่เรื่องที่พูดต่อหน้าพวกเธอได้ แต่การต่อสู้กับพวกเธอสำหรับฉันมันก็ค่อนข้างสนุกจริงๆ

 

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันเลือกพวกเธอเป็นคู่ต่อสู้ที่ต้องโค่นลง ในอดีตพอฉันเห็นว่าพวกเธอยังไม่สามารถใช้พลังที่ตัวเองมีได้อย่างเหมาะสม มันก็เลยแอบหัวเสียไม่น้อย ไหนจะไปแพ้ศัตรูที่พวกเธอน่าจะเอาชนะได้ง่ายๆ อีก

 

 

「ให้ตายสิ! คิดแล้วก็น่าหงุดหงิดมาบอกว่าฉันเหมือนพวกไรเดอร์เนี่ยนะ!!」

 

 

เฮ้อหัวจะปวด ไอ้พวกที่เอาแต่ดูอยู่หน้าคอมเนี่ยไม่ไหวๆ

 

ฉันน่ะมันเลวตัวพ่อนะเฟ้ย

 

ไม่ได้ถูกอารมณ์ชั่ววูบพาให้เคลิ้มไปกับสถานการณ์ด้วย

 

การกระทำของฉันทุกอย่างมันคือสิ่งที่ใจสั่งมาอย่างมีสไตล์

 

「พอได้เห็นการเคลื่อนไหวของตัวเองจากมุมอื่นก็ไม่เลวแฮะ」

 

 

เนื่องจากภาพการต่อสู้ที่ฉันเคยเห็นมีเพียงจากมุมสายตาของตัวเอง พอได้มาเห็นในมุมอื่นบ้างแบบนี้ก็ถือว่าน่าสนใจ

 

ในคลิปนี้ศัตรูเป็นวายร้ายระดับผู้บริหารซึ่งมีพลังจิตที่แข็งแกร่ง

 

แต่ถ้ามีแค่นั้นก็หมูตู้ฉันล่ะ

 

: ซวยจัดคู่ต่อสู้ดันเป็นสายพลังจิต แตกตั้งแต่ยังไม่ทันได้ใช้พลังเลยวุ้ย

 

: จากที่เห็นเขาดูค่อนข้างรับมือกับพวกวายร้ายได้ดีเลยแฮะ บางทีก่อนหน้านี้เขาอาจจะเคยเป็นพลังในเงามืดมาก่อนแน่ๆ

 

: อิเชี่ย อย่างน้อยให้มันพูดแนะนำตัวให้จบสิเห้ย ขำจนท้องแข็งละเนี่ย

 

: โหดจัด เปล่าประโยชน์! เปล่าประโยชน์!

 

: ปกติพวกสายพลังจิตมันจะมีบาเรียกางไว้ตลอด การที่หมัดทะลวงบาเรียทะลุได้เนี่ยบอกได้ถึงความแกร่งของเขาเลยนะ

 

 

สิ่งที่ฉันทำในตอนนั้นก็คือการอัดมันให้เละจนมันไม่มีโอกาสใช้พลัง

 

ก็จริงว่าอีกฝ่ายต้องพกฝูงกีกี้มาด้วยอยู่แล้ว แต่มือฉันก็มีตั้งสองข้างเอาอีกข้างอัดผู้บริหารอีกข้างตบกีกี้ ไม่ปล่อยให้พวกมันพักหายใจที่เหลือก็ง่าย

 

จะว่าไปคงนับว่าโชคดีนิดหน่อยมั้ง เพราะไม่นานนักพวกเรดก็เข้ามาช่วยฉันและโค่นวายร้ายระดับผู้บริหารไป

 

 

 

「คุณพระ…..ไอเชี่ยนั่นมันอะไรน่ะ」

 

เหนือคลิปนั้นมันจะแท็กติดเอาไว้อยู่ด้วย

 

ใช่แล้ว มันคือผลไม้ต้องห้ามที่ระยำพอๆ กับวิดีโอและเม้นข้างใต้นั่นแหละ

อัศวินดำคุง

จัสติสครูเซเดอร์

ของเล่นของพวกเรา

ไอ้หมอนี่เป็นวายร้ายจริงดิ

เบจิต้าแห่งโลกของวายร้าย

 

แค่เนื้อหาภายในคลิปก็แย่พอละนะ แต่ไอ้ที่อยู่รอบๆ เนี่ยรู้สึกมันบรรลัยกว่าอีก

 

ไม่รู้ทำไมจิตใจของฉันไม่ถึงได้รู้สึกพังทลายลงเรื่อยๆ กันนะ แต่เอาเป็นว่าต้องรีบทำความเข้าใจกับคำศัพท์ที่ติดอยู่ในแท็กพวกนี้เสียก่อน

 

 

「อะไรเนี่ย…คลิปเกี่ยวกับฉันไม่ใช่เหรอ แล้วไอแท็กพวกนี้มันเกี่ยวกับฉันตรงไหนกันฟะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ 」

 

คือฉันพอจะเข้าใจไอสิ่งที่เรียกว่าแท็กนะ

 

มันเป็นเหมือนป้ายเน้นบอกใช่ไหมล่ะว่าคลิปจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

 

แต่แท็กเยอะไปแบบนี้มันก็ค่อนข้างแย่นา….

 

แล้วไอ้ของเล่นของทุกคนนี่มันอะไรฟะ….จะโฆษณาขายของเด็กด้วยหรือไงกัน ถึงจะทำความเข้าใจความหมายแต่แอบน่าหงุดหงิดแปลกๆ วุ้ย

 

 

 

「หืม? เหมือนจะมีแท็กใหม่โผล่มาด้วย ไหนดูซิ」

 

พอเห็นว่ามีแท็กใหม่โผล่มาฉันก็เลยลองอ่านมันดู

 

 

จัสติสครูเซเดอร์คนที่ 4?

 

 

 

「มันจะเป็นไปได้ยังไง!!」

 

 

ฉันอดไม่ได้ที่จะบ่นกับคอมตรงหน้าตัวเอง

 

ไอ้สารเลวตัวไหนมันบอกกันฟะว่าฉันจะเป็นคนที่ 4

 

จำไม่เห็นได้ว่าเคยไปตอบรับหรือแสดงความตั้งใจเลยสักครั้ง!!

 

 

 

「เฮ้อ โลกเรานี่เน้อ อะไรของมัน…!」

 

 

ฉันเอนตัวพิงเก้าอี้ราวกับอยากจะพักจิตใจ

 

ก่อนจะหลับตาลงแล้วนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำมาจนถึงทุกวันนี้ จนพบว่าเออไอ้ฉันก็ทำอะไรแปลกๆ ไปเยอะเลยนี่หว่า

 

 

「อุ ตื่นแล้วเหรอ? 」

 

「เชี้ยยยยยยยยยย!!」

 

 

พอได้ยินเสียงดังมาจากข้างๆ ฉันก็ตกใจจนล้มลงจากเก้าอี้

 

พอเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็พบว่าบลูกำลังจ้องหน้าของผมด้วยความสงสัย

 

 

「ธะ ธะ ธะ เธอนี่นะ! อย่าโผล่มาโดยไม่พูดไม่จาสักคำสิฟะ!!」

 

「พูดนะ บอกว่าขอรบกวนหน่อย แล้วก็เดินเข้ามาไง」

 

「เคาะประตูนะเห้ย เคาะประตู!! สามัญสำนึกหล่อนมันหล่นไปหลุมไหนแล้ว?!」

 

 

เห็นทีต้องไปบ่นกับพวกที่เหลือด้วย

 

แต่ไม่รู้จะได้ผลไหม เพราะฉันเป็นแค่นักโทษ จะไปขออะไรเกินตัวก็คงไม่ไหวมั้ง

 

 

 

「เดี๋ยวนะ แล้วเธอไม่ไปเรียนเหรอ……」

 

「เลิกแล้ว ดูสิ」

 

 

เมื่อฉันหันไปดูนาฬิกาตามที่เธอเอานิ้วชี้ไป ก็พบว่าเป็นเวลา 5 โมงเย็นแล้ว

 

ท่าทางฉันจะท่องโลกอินเทอร์เน็ตนานไปหน่อย

 

 

「ให้ตายสิ เวลาพักหมดแล้วเหรอเนี่ย」

 

「อื้อ ได้เวลาอยู่กับพวกเราแล้ว」

 

「จะหน้าหนาเกินไปไหมเธอน่ะ……」

 

「เหรอ? ขอบคุณที่ชม」

 

 

ประชดจ่ะแม่คุณ ไม่เข้าใจหรือไง

 

เห้อให้รับมือกับเยลโล่ยังง่ายกว่ายัยนี่เยอะ

 

ทั้งที่ปกติเป็นพวกสาวเงียบไม่พูดจ้าแท้ๆ มาต่อล้อต่อเถียงกับฉันทำไมกันนะแปลกชะมัด

 

 

 

「นี่บลู」

 

「หือ? 」

 

 

พอรู้สึกตัวอีกทีฉันก็มานั่งอ่านหนังสือกับบลูที่โซฟาซะแล้ว

 

 

 

「พวกคนอื่นนี่คิดยังไงกับฉันเหรอ? 」

 

บลูปิดหนังสือและทำเหมือนคิดอย่างหนักกับคำถามของฉัน

 

เอ่อ คือมันต้องคิดหนักเบอร์นั้นเลยเหรอ? ฉันเริ่มสงสัย และแล้วบลูก็หันมามองฉัน

 

 

「ใจดี ไร้เดียงสา…แล้วก็แปลก」

 

「เอ่อ แบบคนแปลกๆ งี้เหรอ…」

 

「อื้อ」

 

 

มันใช่เหรอ

 

คือฉันก็กระทำสิ่งต่างที่พวกวายร้ายควรกระทำแล้วนะ

 

ถึงจะมีบางครั้งที่ไปกระทบกระทั่งกับวายร้ายคนอื่นบ้างก็เถอะ

 

ท่าทางพวกผู้คนจะสับสนกับการกระทำและเจตนาที่แท้จริงของฉันไปไกลเลยสินะ เฮ้อคิดแล้วก็ปวดหัว

 

—————-

 Note 1 : ยอดมนุษย์เวล 1 ปะทะ โลกออนไลน์

 Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code