คนธรรพ์ (gandharva) อมนุษย์จำพวกหนึ่งตามความเชื่อของฮินดู อาศัยอยู่ตามขอบแดนระหว่างโลกมนุษย์และเทวภูมิ(ต้นเขาพระสุเมรุ) มีความสามารถในเชิงด้านการดนตรี หากแต่การเหล่านี้ต้องทำเพื่อมอบบูชาให้ผู้อื่นเท่านั้น หากทำเพื่อความพอใจของตนเอง จิตจะตกไปผุดเป็นอสูรกายในนรกภูมิ
ออร์ค (orc) อมนุษย์จำพวกหนึ่งที่มีบทบาทในช่วงอารยธรรมยุคกลางตามตำนานความเชื่อของโทลเกี้ยน(Tolkien จักรวาลของเรื่องราวที่รู้จักกันในชื่อ Lord of the ring โดยผู้แต่งอ้างว่าเป็นเรื่องจริงในสมัยบรรพกาลที่มนุษย์ยุคปัจจุบันหลงลืมกันไปแล้ว) มีนิสัยดุร้าย ดุดัน ชื่นชอบการเข่นฆ่า มีสติปัญญาในการคิดวิเคราะห์น้อย แต่กลับชาญฉลาดในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์เฉพาะหน้า
ทำใหม่
ภาพยนตร์ บทเพลง เกม นวนิยาย สิ่งเหล่านี้ล้วนถูกนำกลับมาปรับเปลี่ยนเมื่อเวลาได้ล่วงเลยมา
ถึงแม้จะอยู่ในช่วงเวลาเตรียมตัวเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย จู-อินกองสูดหายใจเข้าลึกๆเพราะสิ่งที่อยู่ในมือเขา ในถุงสีดำที่เขาถืออยู่นั้นมีเกมที่เพิ่งจะเปิดวางขายใหม่ในวันนี้
เกมที่ถูกนำมาสร้างใหม่ บทกวีแห่งผู้กล้า(R) (Knight Saga: Re)
บทกวีแห่งผู้กล้าเป็นเกมโปรดของอินกองเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่ตัวเกมได้รับความนิยมอย่างสูงมาก จึงมีข่าวลือกันว่า หากบริษัททาโร่ซอฟท์ที่ผลิตเกมนี้ออกมาไม่อยู่ในวิกฤตอันตราย เกมนี้คงไม่มีทางถูกนำมาทำใหม่เป็นแน่ แต่ตัวเกมก็ได้ถูกนำกลับมาทำใหม่ท่ามกลางความประหลาดใจของแฟนๆ
หากแต่มันไม่ใช่แค่การนำกลับมาสร้างใหม่ธรรมดา มีการเพิ่มปริมาณตัวละครที่สามารถเลือกเล่นได้จาก สอง เป็น สิบสอง และรูปแบบการเล่นได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นลักษณะโลกเสมือนจริง (VR)
อินกอง จ้องมองดูอุปกรณ์ VR ที่ได้มาเป็นของขวัญในมือ พร้อมสูดหายใจลึกๆเพื่อระงับอาการตื่นเต้นของตัวเอง โดยตัวอุปกรณ์นั้นได้รับการตั้งค่ามาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เขาได้เล่นบทกวีแห่งผู้กล้าจนจบมาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบรอบ ฉะนั้นจึงไม่มีอะไรในเกมที่อยู่นอกเหนือขอบเขตความรู้ของเขา ไม่ว่าจะเป็นตัวละคร สิ่งของวิเศษ หรือภารกิจลับทั้งหลาย ทว่านี่คือตัวเกมฉบับปรับปรุง บทกวีแห่งผู้กล้า(R)
เพียงแค่อ่านคู่มือการใช้ อินกองก็ตัวสั่นด้วยความดีใจแล้ว เขาเข้าไปตรวจดูในเว็บไซต์ทุกวัน ติดตามข่าวตลอดเวลา แต่ก็ไม่มีข้อมูลอะไรออกมาให้ทราบมากนัก ทว่าสิ่งเล็กๆน้อยๆแบบนี้แหละ ที่ทำให้แฟนๆชื่นชอบและติดตาม
เรื่องราวของบทกวีแห่งผู้กล้าได้แบ่งออกเป็นสองฝั่ง มนุษย์ และ มาร พระเอกของฝั่งโลกมนุษย์คือล็อคค์ เด็กหนุ่มที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในวิหาร ในส่วนของฝั่งอมนุษย์นั้นคือแซเฟียร์ แร็กนารอสบุตรชายแห่งจอมมาร
ถึงตัวละครจะฐานะต่างกัน แต่ก็ดำเนินเกมไปในลักษณะทิศทางเดียวกัน เดินทางรอบโลก เก็บเลเวล ค้นหาอาวุธวิเศษ สะสมกองกำลัง เพื่อบรรลุเป้าหมายของตน
เป้าหมายของแซเฟียร์คือเข้ารวบรวมโลกมนุษย์และโลกมารให้เป็นปึกแผ่นภายใต้การปกครองของตนในฐานะจอมมาร ในขณะที่ทางฝ่ายล็อคค์จะหาวิธีปราบจอมมารและช่วยโลกมนุษย์เอาไว้ให้ได้
ทว่า ในบทกวีแห่งผู้กล้า(R) ตัวละครที่เลือกเล่นได้ได้เพิ่มขึ้นมาค่อนข้างเยอะทีเดียว
ในทางฝั่งมาร สามารถที่จะเลือกเล่นเป็นทายาทจอมมารคนอื่นที่เป็นคู่แข่งในการครองบรรลังค์ของแซเฟียร์ได้ ส่วนในทางฝั่งมนุษย์ก็สามารถเลือกเล่นเจ้าครองแคว้น หรือเพื่อนๆคนอื่นๆของล็อคค์ได้
หลังจากอ่านรายละเอียดโดยรวมเสร็จเรียบร้อย อินกองก็จ้องมองไปยังอุปกรณ์ VR อย่างหวนหา ตัวเกมบทกวีแห่งผู้กล้า(R) ได้ถูกติดตั้งเสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย
“วันนี้เล่นให้พอหอมปากหอมคอแค่แปดชั่วโมงก็น่าจะพอแล้วละนะ”
อินกองล้มตัวลงท่ามกลางแสงอันเจิดจ้า พร้อมปล่อยให้จิตสำนึกเข้าไปโลดแล่นอยู่ในโลกแห่ง VR
&
เมื่อลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือเพดาน ในกระโจมที่มีเพียงแสงสลัวๆจากแดดที่เล็ดลอดเข้ามาผ่านทางรูตามขอบเท่านั้น
เด็กชายค่อยลุกขึ้นจากที่นอนที่เป็นเพียงฟูกบางๆมาวางพับซ้อนกัน แน่นอนว่าเด็กคนนี้คืออินกอง
เขายิ้มด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างมาก
‘ใช่เลย มันต้องแบบนี้ พระเอกของเกมเก็บเลเวลมันต้องเริ่มจากการตื่นมาบนที่นอนกระจอกๆนี่แหละ’
หลังจากพยักหน้าด้วยความพึงพอใจหลายครั้ง อินกองก็เริ่มกวาดสายตามองไปรอบตัว และอ้าปากค้างด้วยความอัศจรรย์ใจ
‘โห กราฟฟิคโคตรเหมือนจริงเลย’
สิ่งของแต่ละอย่างในกระโจมล้วนเหมือนจริงทั้งสิ้น โดยเฉพาะหมอนและผ้าห่มในมือของเขา ทุกรายละเอียดยันตะเข็บเย็บ
ถึงแม้โลกเสมือนจริงจะเป็นที่ยอมรับมาในช่วงเวลาหนึ่งแล้ว ก็ยังไม่เหมือนจริงเสียทีเดียวเนื่องจากถูกจำกัดด้วยเทคโนโลยีในการสร้าง
‘อย่าบอกนะว่า ทาโร่ซอฟต์แอบติดต่อลับๆกับเอเลี่ยนต่างดาว ?’
อินกองบ่นพึมพำ ทึ่งกับสิ่งที่เห็นรอบตัว
เขาลองจับของชิ้นนู้นชี้นนี่ไปทั่ว เหมือนพวกมือใหม่หัดเล่นเกม VR เป็นครั้งแรก
และในขณะที่เขาทำตัวเหมือนคนติ๊งต๊องอยู่นั้น…
“จะเข้าไปละนะ!”
มีเสียงดังขึ้นมาจากข้างนอก อินกองเงยหน้ามองขึ้นมาแล้วก็ประหลาดใจที่เห็นชายขนาดใหญ่เข้ามาในกระโจม
“อุ แม่ เจ้า”
อินกองถึงกับอึ่งกิมกี่ไปเลย
ชายคนนั้นมีร่างกายที่กำยำ แขนที่หนาเยี่ยงกอริลล่า ผิวสีเขียวที่ดูยังไงก็ไม่ใช่มนุษย์ ริมฝีปากที่งุ้มเงยเผยให้เห็นเขี้ยวอันแข็งแกร่ง
เขาเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ออร์ค ที่โผล่มาให้เห็นตามเกมอยู่บ่อยๆ
แต่อินกองไม่ได้ทึ่งที่เห็นออร์ค
เหมือนกับสิ่งของทั้งหลายในกระโจม ออร์คตนนี้เหมือนจริงจนยากจะแยก
‘ยังกับไม่ใช่…ไม่สิ แบบนี้สินะที่เค้าเรียกกับว่าเก็บทุกรายละเอียด?’
เขาคงจะเชื่อแน่ว่านี่คือของจริง ถ้าไม่ใช่ว่าเขาเหลือบไปเห็นแผนที่ขนาดย่อและปุ่มเมนูที่ขอบทัศนวิสัยของเขา
“มองอะไร?”
ออร์คถามอย่างห้วน และอินกองก็ตอบไป
“เปล่า แค่กราฟฟิคเจ๋งโคตร”
“กราฟฟิค?”
ออร์คเอียงหัวแล้วถาม ทำให้อินกองทึ่งหนักขึ้นไปอีกขั้น
‘โหยย นี่ถึงขนาดคุยเล่นแบบนี้ได้เลย?’
เทคโนโลยีการพัฒนา VR และ สมองกล(AI) อยู่ในทิศทางตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง มันพอจะเป็นไปได้ที่จะสร้างโลกจำลองให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมาก แต่เป็นการยากมากที่จะสร้าง AI ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันให้ใกล้เคียงความจริง เพราะอย่างนั้นเขาจึงไม่เคยพูดคุยจริงกับ NPC ต่างๆที่พบเห็นในเกม จะมีก็เพียงคำพูดที่ถูกตั้งค่าไว้เมื่อได้ยิน ได้รับ หรือทำตามเงื่อนไขที่ได้ตั้งไว้เท่านั้น
ถึงกระนั้น ออร์คที่อยู่ตรงหน้าอินกองมีปฏิกิริยาต่อคำว่า กราฟฟิค ที่เขาอุทานออกไป บางที่เขาอาจจะถูกตั้งให้มีอาการแบบนั้นเมื่อได้รับคำที่ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูล แต่มันก็ยอดเยี่ยมเป็นที่สุดอยู่ดี
‘ทาโร่ซอฟต์ไปแอบจับเอเลี่ยนต่างดาวมาทรมาณไว้หรือไงเนี่ย? ของแบบนี้ไม่มีออกมาในโฆษณาได้ไง?’
หรือคิดทำการตลาดด้วยการทำให้ประหลาดใจ?
‘ช่างมัน ไม่สำคัญเท่าไรหรอก’
อินกองตัดสินใจที่จะเพลิดเพลินไปกับมัน เกมออกมาเยี่ยมอย่างที่คาดไว้ ฉะนั้นก็ไม่มีอะไรต้องคิดมากแล้วโลดแล่นไปกับมันซะ
พอตัดสินใจได้แบบนั้น อินกองก็หันไปมองออร์ค
‘ตื่นเต้นวะ’
ออร์คตรงหน้าเขาดูเหมือนจริงสุดๆ มันไม่ง่ายเลยที่เขาจะพยายามเริ่มคุยอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายอินกองก็ก็กระแอมเล็กน้อยแล้วเริ่มคุย
“อะแฮ่ม ผมชื่อจู-อินกอง คุณชื่ออะไรครับ?”
เพราะชื่อของเขา ทำให้เวลาแนะนำตัวเป็นต้องอายทุกทีไป
ออร์คถอนหายใจพร้อมกับพึมพำเล็กน้อย เขาฟังไม่ค่อยถนัดแต่เดาว่าน่าจะเป็นคำสบถเบาๆ
‘***นี่ เพราะแค่กูชื่อ จู-อินกอง อะนะ’
เวลาหงุดหงิด อินเนอร์ของคนเรามันคงไม่คิดอะไรที่เพราะๆแบบ “ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงเพราะฉันชื่อว่า จู-อินกอง งั้นหรือ” หรอก
การมี AI ที่ฉลาดมันก็ดี แต่อินกองเริ่มไม่ค่อยจะชอบมันสักเท่าไร มันคงจะดีมากหากที่โผล่มาตรงหน้าเป็นสาวสวย ไม่ใช่ออร์ค! อยากได้ซัคคุบัส อยากได้ซัคคุบัส อยากได้ซัคคุบัส
เน้นย้ำสามรอบตั้งแต่ต้นฉบับ แสดงให้เห็นถึงความอยากได้ของพระเอกเรา
ทว่า ออร์คไม่ได้ถอนหายใจเพราะชื่อของอินกอง ออร์คเกาหัวตัวเองเบาๆแล้วพึมพำ
“คารัค เมื่อวานก็บอกไปแล้วทีนึง แล้วไม่ใช่ว่าแกคือ องค์ชายฉัตร?”
ฉัตร อิกษณา ลูกชายลำดับที่เก้าของจอมมาร เป็นหนึ่งในสิบสองตัวละครที่สามารถเลือกเล่นได้
‘เออจะว่าไปแล้ว นี่เรายังไม่ได้เลือกตัวละครเลยนะ หรือว่าเริ่มครั้งแรกจะโดนบังคับให้เล่นฝั่งมาร?’
อินกองนึกถึงเรื่องราวของบทกวีแห่งผู้กล้า(R) ที่ก็มาจากเกมตัวเก่า ฉัตรเป็นองค์ชายที่อ่อนแอและไร้ซึ่งอิทธิพล หรือก็คือเหมือน เงียมแปะฮอ(หยัน ไป๋หู่)ของสามก๊กดีนั่นเอง
“ข้าออกไปรอข้างนอกนะ”
เจ้าออร์คคารัค พูดห้วนๆแล้วก็หันเดิน ทิ้งแผ่นหลังให้อินกองจ้องมอง
‘กูไม่อยากเริ่มด้วยการเล่นฉัตร!’
อินกองไม่ได้รังเกียจอะไรฉัตรหรอกนะ เพียงแค่รูปแบบในการเล่นของเขาต่างไปจากตัวละครนี้ราวกับหน้ามือหลังมือ
‘แล้วนี่กูจะเปลี่ยนตัวละครได้รึเปล่าวะ?’
บทกวีแห่งผู้กล้า(R) เป็นการนำเกมเก่ากลับมาทำใหม่ก็จริงแต่ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งอย่างจะเหมือนเดิม ไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะเริ่มเกมด้วยการเลือกตัวละครที่มีระดับความยากในการเล่นสูง
‘หรือทาโร่ซอฟต์มันจะบังคับตัวละครที่ใช้ในการเล่นครั้งแรก? หรือว่าเป็นบั๊ก? หรือว่ากูเลือกอะไรผิดสักอย่าง?’
ถ้าจะบังคับตัวละครจริงก็น่าจะเป็นแซเฟียร์ แร็กนารอส ไม่งั้นก็ล็อคค์ ที่เป็นตัวละครหลักในเกมเก่าสิ
‘เซฟแล้วออกเกมไปลองหาข้อมูลดูดีกว่า’
ถึงเกมจะเพิ่งเปิดจำหน่ายวันนี้ แต่ก็ควรที่จะมีข้อมูลเกี่ยวกับตัวละครออกมาแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้านี่เป็นข้อผิดพลาดของตัวเกม ทาโร่ซอฟต์ก็ควรจะมีประกาศฉุกเฉินด้วย
อินกองเงื้อมมือไปกดปุ่มเมนูที่อยู่สุดขอบระยะสายตาของเขา ทันใดนั้นก็มีแสงสีขาวสว่างวาบขึ้นมา
[ชื่อ: ฉัตร อิกษณา] [อายุ: 14] [เผ่าพันธ์ุ: คนธรรพ์] [อาชีพ: พระเอก]
[เอกลักษณ์: เจ้าชาย/ อาชาแห่งอาณัติ] [เลเวล: 1]
พละกำลัง: 5
สติปัญญา: 5
ความคล่องตัว: 5
ความสามารถ: 5
ความทนทาน: 5
ความแข็งแกร่ง: 5
พลังจิต: 5
พลังเวท: 5
สเน่ห์: 5
‘สมกับเป็นเงียมแปะฮอแห่งบทกวีแห่งผู้กล้า ค่าสถานะกระจอกไร้ที่ติ’
อยากใช้คำว่ากากชิบ แต่จะแลดูเกินไป
ชาวบ้านธรรมดาทั่วไปจะมีค่าสถานะเฉลี่ยประมาณ 10 ยิ่งเมื่อเทียบอายุด้วยแล้ว นี่ถือว่าอ่อนแอสุดสุด
เป็นถึงองค์ชาย แต่กลับอ่อนแอกว่า นาย ก นาย ข
‘จะว่าไปอาชีพคือพระเอก? นี่มันบั๊กจริงๆว่างั้น?’
อินกองถอนหายใจอย่างยอมแพ้ แต่เมื่อมองไปที่ปุ่มถัดจากหน้าต่างสถานะ
“ฮะ?”
ไม่มีปุ่มเซฟหรือโหลดอะไรทั้งสิ้น อินกองกลืนน้ำลายตัวเองแล้วตั้งใจมองอีกครั้งแต่ก็เปล่าประโยชน์
‘บ้าไปแล้ว ไม่มีแม้แต่ปุ่มออกเกม’
อินกองพยายามรีบใช้คำสั่งจากเครื่อง VR โดยตรง แต่ก็ไร้ผลเช่นกัน
ไม่สามารถบังคับปิดโปรแกรม หรือแม้แต่หน้าต่าง UI แสดงให้เห็นทั้งสิ้น
‘อินกอง ใจเย็นๆลูก แกต้องใจเย็นๆไว้ก่อน’
อินกองหายใจเข้าให้เต็มปอดพร้อมนับแกะในหัวตั้งสติ
‘เป็นไปได้สองอย่าง’
อย่างแรกเลย เขาติดอยู่ในเกม VR
เป็นข้อผิดพลาดที่ร้ายแรงมากจากตัวซอฟต์แวร์ของทาโร่ซอฟต์
จากมุมมองทั่วไป นี่น่าจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง ซึ่งมันก็ไม่ได้เลวร้ายสำหรับอินกอง เพราะยังมีโอกาสที่จะมีคนมาช่วยเขาออกไป
ทว่าอินกองกลัวมันจะเป็นอีกอย่าง
นี่ไม่ใช่เกม แต่เป็นโลกจริง เหมือนนิยายทั้งหลาย เขาถูกส่งเข้ามาในโลกของเกม หรือโลกอื่นที่มีลักษณะคล้ายเกม
ฟังดูตลกเหนือคำบรรยายและเขาไม่คิดจะเชื่อ ถึงแม้จะเล่นเกมมาแล้วหลากหลาย
ทว่ากลับมีบางสิ่งที่ทำให้เขาเถียงไม่ออก
‘นี่มันสมจริงเกินไป’
ให้คำอธิบายกับสิ่งที่อินกองเห็นรอบตัวได้อย่างเดียวว่าคือของจริง
เจ้าออร์คตัวนั้น คารัค ก็แสดงให้เห็นถึงความคิดที่เป็นของตัวเอง
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว
ถึงเทคโนโลยีเกม VR พัฒนาไปมากมายขนาดไหน ความสมจริงระดับนี้มันยังเป็นไปไม่ได้ จะสมจริงขนาดกลืนน้ำลายหรือเหงื่อออกในเกมได้เลยเชียวหรือ?
อินกองยังคิดว่ามันน่าจะเป็นเกม แต่กราฟฟิคและ AI ที่เขาเห็นบ่งบอกเลยว่านี่ไม่ใช่เกม
เขารีบหาข้อพิสูจน์เพิ่มโดยการสำรวจตัวเอง
แล้วก็พบเหตุผลสำคัญเพิ่ม
‘นี่มันไม่ใช่ลักษณะของคนเกาหลี’
เขาคุยกับออร์คไปโดยไม่ทันคิด แต่พอตั้งสติดีแล้ว ที่เขาพูดไปสักครู่มันไม่ใช่ภาษาเกาหลีเลยสักนิด มันเป็นภาษาประหลาดที่เขาไม่ควรจะเข้าใจได้เลย
อินกองกุมขมับตัวเองสักพักก่อนถอนหายใจตัดสินใจถอดเสื้อผ้าออกเพื่อดูท่อนล่างตัวเอง
‘โนวเซนเซอร์ซะขนาดนี้’
บทกวีแห่งผู้กล้า(R) เป็นเกมสำหรับผู้ใหญ่ก็จริง แต่ข้อกฎหมายก็ยังห้ามไม่ให้มีการแสดงอวัยวะเพศ แต่อินกองกลับเห็นไอ้จ้อนตัวเองชัดเจน.
‘โห ให้ตายดิ’
อินกองแต่งตัวอย่างอาลัยตายอยากแล้วล้มตัวนอนบนเตียง
‘ถ้ากูจะเข้ามาติดในเกมทั้งที มันต้องเป็นเกมอื่นสิ มันต้องอิโรติก กูขออิโรติก กูอยากได้อิโรติก!!’
อินกองยังคงนับแกะต่อไป พลางพยายามคิดบวกเข้าไว้
‘เอาเถอะ อยากน้อยก็ไม่ได้เป็นพวกออร์คหรือว่าโอเกอร์ ถึงฉัตรมันจะถูกเรียกว่าเงียมแปะฮอ แต่อย่างน้อยๆก็ยังเป็นถึงองค์ชายละวะ’
ยังพอมีข้อดีอยู่บ้าง
ตามภาพตัวละครที่มีอยู่ตามเว็บ ฉัตรถือว่าเป็นตัวละครที่หล่อมากทีเดียว ถึงแม้อินกองจะมองไม่เห็นหน้าตัวเอง แต่แขนขาที่เรียวขาวราวกับสาวน้อยบ่งบอกว่าหน้าตาเขาก็ต้องเปลี่ยนไปเหมือนกัน
‘เลวร้ายที่สุดถ้าต้องติดอยู่ที่นี่ อย่างน้อยๆก็เป็นถึงเจ้าชายละวะ พอคิดงี้มันก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไร เหมือนถูกหวยรวยมากและกลับเป็นเด็ก 14 ปีอีกครั้ง’
พลังในการคิดบวกของอินกองถือว่าสูงพอตัว พอทำให้เขาพอจะสงบสติอารมณ์ลงมาได้
สักพักพอใจเย็นลงมาได้ก็กลับมาคิดต่อ
‘มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัตรในบทกวีแห่งผู้กล้าบ้างนะ?’
ฉัตรเป็นหนึ่งในคู่แข่งของแซเฟียร์ ตัวละครหลักที่กำจัดคู่แข่งทั้งหมดและก้าวขึ้นสู่บัลลังค์จอมมาร
สรุปก็คือ ฉัตรเป็นศัตรูกับแซเฟียร์ ซึ่งแน่นอนว่าในเกมมันจะมี…
‘วันล้างบาง! ฉากบังคับ!’
ในขณะที่ล็อคค์เป็นผู้กล้าตามตำรา แซเฟียร์ก็เป็นจอมมารตามตำราเหมือนกัน แซเฟียร์เป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิตที่ฆ่าญาติพี่น้องของตนเองทั้งหมดในวันล้างบาง
‘มันเป็นคนบ้าที่ฆ่าหมดไม่เกี่ยงมิตรหรือศัตรู’
เท่าที่จำไม่ผิด ฉัตรแอบหนีไปซ่อนตัว แต่แซเฟียร์ก็พลิกแผ่นดินล่าจนเจอ
‘แซเฟียร์มันอายุเท่าไรแล้วละนี่? มีเวลาเหลือเท่าไรก่อนจะถึงวันล้างบาง?’
ไม่มีเสียงสวรรค์ตอบคำถามแต่อย่างใด ตอนนี้เขามีข้อมูลให้ตัดสินใจน้อยมาก เขายังไม่รู้ด้วยกระทั่งว่าที่นี่ที่ไหน.
“ค่ายอะไรซักอย่าง ?”
มีเสียงสัญญาณดังขึ้นข้างนอกกระโจม อินกองตีหน้าตัวเองตั้งสติ
เขายังไม่รู้ว่านี่มันโลกในเกมหรือว่าโลกอื่นที่คล้ายเกม แต่เลือกที่จะไม่เก็บมาคิดในตอนนี้
สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือข้อมูล
อินกองเตรียมตัวเตรียมใจ แล้วก็เดินออกจากกระโจม