ชูกำลังสับสนและฉันหันไปสนใจทางเสียงของแขกผู้มาเยือน

“ผู้ชายคนนั้นไง ซาซากิอยู่ข้างหลังใช่ไหม?”

“เอาจริงดิ? ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงได้สนิทกับรุ่นพี่ฮอนโจละ?”

“ไปหาเขากันไหม”

มันเป็นเสียงของผู้ชายสามคนที่ค่อนข้างดูดีเลยทีเดียว

พวกเขาคุยกันถึงเรื่องชูอยู่ ทันใดนั้นอิโอริก็ปรากฏตัวทันทีและพาตัวชูไป หลังจากจบการประชุมสิ้นสุดภาคเรียน

แม้ว่าชูจะถูกพาไปโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ แต่ชูก็ไม่ได้ดูอึดอัดเพราะอีกฝ่ายคือ

อิโอริ

“…… นี่คงเป็นพายุอีกลูกหนึ่งสินะ”

ฉันรู้สึกประทับใจทีเดียวที่อิโอริแสดงตัวราวกับพายุและพาชูไป แต่เห็นได้ชัดว่าผู้คนรอบตัวเขาไม่ได้คิดแบบนั้น

“ไอหมอนั้นอวดดีจังเลย ทั้งๆที่ตัวเองไม่ค่อยฉลาดนักแท้ๆ”

“ฉันได้ยินมาว่าเขาสนิทกับรุ่นน้องที่โครตน่ารักเมื่อปีที่แล้วด้วยใช่ไหม?”

“มาสอนมารยาทให้เจ้านั้นหน่อยไหม”

ฉันกะจะเรียกพวกเขาสามคนเพื่อดึงดูดความสนใจ แต่รูปร่างหน้าตาและบรรยากาศของพวกเขาทำให้พวกเขาดูเป็นผู้ชายหน้าตาดีทั่วไปที่มีความภาคภูมิใจสูง พวกเขาคงรู้สึกอิจฉาที่คนที่ดูธรรมดาๆอย่างชูสามารถใกล้ชิดกับคนอย่างอิโอริได้ ซึ่งเธอเป็นคนที่สวยถึงขนาดนั้น

“…ฮะ”

ฉันถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อมองดูพวกเขา

ไม่ว่าใครจะมีความรู้สึกกับใครก็ไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นควรเข้าไปยุ่ง พวกเขาควรรู้เรื่องนี้ แต่ความหยิ่งผยองของพวกเขาอาจเข้ามาขวางทางและทำให้สถานการณ์บานปลายได้

ในฐานะเพื่อนสนิทที่สุดของชู ฉันไม่สามารถยืนดูเฉยๆ

“เอาเถอะ อย่าเพิ่งเครียดไป”

“….ยูกิชิโระ”

ฉันเข้าไปใกล้กลุ่มนั้นและวางมือบนไหล่ของเด็กชายที่หันหลังให้ฉัน เขาหันกลับมาด้วยความประหลาดใจ และฉันคิดว่าชื่อของเขาคือโซมิยะ เขามองมาที่ฉันด้วยความไม่สบายใจเล็กน้อยและมองไปทางอื่นอย่างเก้ๆ กังๆ

บางทีเขาอาจจะประหม่าเพราะฉันสนิทกับชู ฉันไม่ได้ตั้งใจจะฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้ แต่เนื่องจากฉันได้ลงมือทำแล้ว ฉันต้องแน่ใจว่าได้โยนภาระนี้ไปที่อื่นแล้วฉันจะได้รีบกลับบ้านไปนอน

“ไม่ว่าใครจะมีความรู้สึกกับใครนั่นไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นจะพูดถึงได้ นายควรรู้ว่าการก่อปัญหาหรือลงมือทำเพียงเพราะนายผิดหวังหรือหงุดหงิดจะไม่นำไปสู่สิ่งที่ดี โอเคไหม”

โซมิยะและคนอื่นๆ ต้องเข้าใจเรื่องนี้แน่

แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกอิจฉาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของชูกับสาวสวย แต่นั่นก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อพวกเขาเลย โรงเรียนมัธยมของเราเป็นโรงเรียนที่ดีและมีชื่อเสียง ดังนั้นการใช้ความรุนแรงหรืออะไรทำนองนั้นจะทำให้การประเมินภายในของเราแย่ลง

“แต่…”

“ทำไมเขาถึง….”

บรรยากาศที่อึกทึกเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาได้ลดลง แต่ดูเหมือนว่าความอิจฉาที่มีต่อชูจะยังไม่หายไป

พูดตามตรง ฉันกลัวว่าฉันจะถูกเรียกว่าพวกน่ารำคาญและถูกต่อยเมื่อพูดกับพวกเขา แต่เมื่อคิดดูแล้วไม่ผิดเลยที่โทวะเป็นศูนย์กลางของชั้นเรียนพร้อมกับอายานะ

รูปลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาดึงดูดทั้งชายและหญิง และความพยายามในการปกป้องชูเพื่อนสนิทของเขา เพราะงั้นโทวะจึงได้รับการตอบรับอย่างดีจากเพื่อนร่วมชั้นของเขา

ทั้งหมดนี้ได้รับการกล่าวถึงในช่วงหนึ่งในเกม แต่เมื่อฉันคิดถึงเรื่องนี้อย่างเป็นกลาง ฉันตระหนักอีกครั้งว่าโทวะเป็นตัวละครที่ไม่มีจุดบกพร่องใด ๆ

“อย่าทำร้ายใครเพราะความหึงหวง มันจะไม่ส่งผลดีต่อนายเลย และเหนือสิ่งอื่นใด อย่าลดคุณค่าในตัวเองด้วยเรื่องไร้สาระแบบนี้”

“ยูกิชิโระ……”

“……………”

ฉันต้องการบอกพวกเขาว่าการทำให้ผู้อื่นอับอายหรือทำร้ายผู้อื่นสามารถทำลายชื่อเสียงของคุณได้เช่นกัน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฉันบอกพวกเขาว่าอย่าทำอย่างนั้น

สงใสต้องพูดอีกครั้ง ฉันจะทำให้พวกเขาเลิกยุ่งกับชู …… และในขณะที่ฉันกำลังคิดอยู่นั้นฉันก็ได้ยินเสียงอีกเสียงหนึ่งข้างหลังฉัน

“การกล่าวร้ายผู้อื่นย่อมไม่เกิดผลดี ถึงฉันจะพึ่งอยู่ชั้นเรียนนี้ไม่นานนัก แต่ทุกคนรวมถึงตัวฉันเองคิดว่าคุณเป็นเพื่อนร่วมชั้นคนสำคัญคะ”

เป็นอายานะที่เดินเข้ามาหาเรา

อายานะยิ้มให้ฉันแล้วหันไปสนใจโซมิยะและคนอื่นๆ

“ชูคุงเขาเป็นคนชอบประจบสอพลอนะ แต่เขาไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนได้ดีนัก แต่สำหรับฉันกับโทวะเขาคือเพื่อนสมัยเด็กที่อยู่กับเรามานาน โดยปกติแล้วฉันต้องการปกป้องเขาและฉันไม่ต้องการให้คุณเลือกทางที่คุณต้องเสียใจ”

คำพูดของอายานะนั้นสุภาพมาก แต่เธอก็คิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับอีกฝ่ายด้วย ดังนั้น โซมิยะและคนอื่นๆ จึงตั้งใจฟัง

บางทีอาจเป็นเพราะไม่ใช่แค่ฉันแต่อายานะบอกเขาอย่างอ่อนโยนด้วย แต่โซมิยะและคนอื่นๆไม่ได้แสดงท่าทีเป็นศัตรูกับชูเลย ตรงกันข้ามพวกเขากำลังพูดถึงการเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเขาด้วยซ้ำ

“ดูเหมือนตอนนี้ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วสินะ”

“ใช่”

ถ้าเป็นฉันแค่คนเดียว ฉันไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะฟังฉันอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ และฉันต้องขอขอบคุณอายานะสำหรับเรื่องนี้

“ฉันไม่รู้อะไรมากนัก แต่ฉันดีใจที่รุ่นพี่ฮอนโจเป็นห่วงชูคุง ไม่ใช่แค่เราที่เป็นห่วง ชูคุงหมายความว่ามีคนอื่นที่เห็นความดีในตัวชูคุงด้วย”

อายานะปิดท้ายด้วยคำพูดเหล่านี้

รอยยิ้มอันอ่อนโยนของอายานะค่อนข้างมีอานุภาพทำลายล้างเป็นอย่างมาก โซมิยะและคนอื่นๆ ที่มองอายานะจากด้านหน้าก็หน้าแดงและมองลงมาทันที

อายานะเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวที่สามารถยิ้มในลักษณะที่จะขโมยหัวใจของผู้อื่นได้ในทันที แม้ว่าเธออาจจะไม่ตั้งใจที่จะทำเช่นนั้นก็ตาม

“ดูเหมือนว่าเราจะตกลงกันได้ด้วยดีนะ โซมิยะและคนอื่นๆไปคาราโอเกะกับเพื่อนหลังเลิกเรียนเป็นไง? ฉันแน่ใจว่านายจะรู้สึกดีขึ้นถ้านายร้องเพลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้!”

เพื่อนของอายานะพยักหน้าเห็นด้วย

บรรยากาศกำลังผ่อนคลายและฉันก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ฟู่…. เอาตรงๆนะ อายานะเธอพูดได้ดีมาก”

“ไม่ ไม่ ไม่เลย …… ฮ่าๆ”

อายานะดูเหมือนจะเหนื่อยเกินที่จะถอนหายใจด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่ามันดีจริงๆที่ทุกอย่างออกมาโอเค… แต่ฉันตระหนักได้ว่าบุคลิกของตัวเอกทำให้เขาสร้างศัตรูได้ง่ายจริงๆ

ถึงกระนั้นหลังจากเห็นอายานะในสภาพเช่นนี้ ฉันคิดว่าจำนวนคนที่พยายามทำให้ชูลำบากจะลดลงบ้างแล้ว

(ตอนจบที่มีความสุขสำหรับชูคือความสุขที่นอกเหนือไปจากตอนจบของเกม …… มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องคิดเกี่ยวกับนางเอกคนอื่นๆ แต่ที่สำหรับตอนนี้ ให้นึกถึง ชูและอายานะเท่านั้น)

ฉันยังไม่รู้เลยว่าฉันลงเอยเป็นโทวะได้อย่างไร และฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไม

แต่เพราะโลกนี้คือโลกของเกมลามกที่ฉันเคยเล่น ฉันจะเข้าถึงฉากจบที่มองไม่เห็นและไม่มีอยู่จริงให้ดูเอง!

หลังจากนั้นอายานะและฉันรอให้ชูกลับมา แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะกลับมา

“เขายังไม่กลับมาเลย”

“ใช่ ฉันคิดว่าเขาจะกลับมาเร็วๆนี้ แต่การเดาของฉันช่างไร้เดียงสาจริงเลย”

โดยทั่วไปแล้ว ชมรมหลังเลิกเรียนของโรงเรียนมัธยมของเราจะสิ้นสุดประมาณ 3:30น. แต่นาฬิกาตอนนี้กำลังจะ 5:00 น. แล้ว

“โทวะคุง”

” …… อายานะ?”

ห้องเรียนเงียบอยู่แล้ว มีแค่ฉันกับอายานะในห้องเท่านั้น

ฉันตกอยู่ภายใต้ภาพลวงตาอยู่ครู่หนึ่งว่าอายานะที่อยู่ตรงหน้าฉันไม่ใช่เธอจริงๆ เมื่อเธอเรียกฉันและฉันมองไปที่เธอ

“ตอนนี้อยู่กันแค่เราสองคน……ไม่ใช่เหรอ?”

“ชะ ใช่….”

เธอยืนอยู่ข้างหน้าฉัน แต่เธอนั่งบนตักของฉันราวกับว่าเธออยากสัมผัสกับร่างกายของฉันอย่างใกล้ชิด

เธอนั่งอ้าขาในลักษณะที่ไม่เหมาะกับรูปลักษณ์ที่เรียบร้อยและบริสุทธิ์ของเธอ

“อ อ อะ อะ อะ….”

“โทวะคุง”

เธออยู่ใกล้ฉันมากและกลิ่นที่โชยมาตามอากาศก็หอมมากเช่นเดียวกัน ไม่ต้องพูดถึงความนุ่มที่ส่งตรงถึงร่างกายของฉัน

ฉันรู้สึกทึ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนพูดอะไรไม่ออก ฉันทำได้เพียงรับความรู้สึกที่อายานะมอบให้ฉันเท่านั้น

“นานแล้วนะที่เราไม่ได้ทำแบบนี้ ฉันอยากจะได้กลิ่นของคุณโทวะคุงอีก”

“……………”

เกิดอะไรขึ้นเนี่ย….?

ฉันรู้สึกมึนหัวอย่างมากเมื่อทำสิ่งนี้กับอายานะ

อาจเป็นเพราะฉันรู้สึกถึงอารมณ์ทางเพศที่เข้มข้นซึ่งฉันไม่เคยเห็นจากอายานะ ในชีวิตปกติของเธอ และฉันก็รู้สึกถึงสิ่งนี้เช่นกัน

“…… อายานะ?”

“ฟุฟุ♪”

เธอหัวเราะอย่างกับมีมนต์สะกด เธอซบหน้าลงที่ซอกคอของฉัน แล้วใช้ลิ้นโลมเลียฉันต่อไป

และเธอก็ขยับสะโพกไปรอบๆ ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกแปลกยิ่งกว่าเดิม …… แต่นี่อาจเป็นการยืนยันได้แล้วว่า……..

เหตุผลที่ฉันรู้สึกไม่สบายใจในตอนเช้าและตอนบ่ายอาจเป็นเพราะโทวะและอายานะมีความสัมพันบางอย่างกันก่อนเกมจะเริ่ม

“……อายานะ”

“โทวะคุง”

เมื่อเราจ้องตากัน ทุกสิ่งก็ดูไม่สำคัญ

ยิ่งกว่านั้น เด็กสาวตรงหน้าฉันยังดูน่าดึงดูดอย่างไม่น่าเชื่อ และบางทีวิญญาณของฉันอาจถูกดึงออกจากร่างของฉันก็ได้

เสียงกระดิ่งที่ดังขึ้นทำให้ฉันกลับมามีสติในขณะที่ใบหน้าของอายานะค่อยๆ เข้ามาใกล้ฉัน

“อา……”

ฉันวางมือบนไหล่ของอายานะและดึงเธอออกห่างจากฉัน แล้วช่วยเธอลุกขึ้นยืน

อายานะดูผิดหวังเล็กน้อย แต่ฉันคิดว่าเสียงระฆังช่วยชีวิตฉันได้จริงๆ เพราะฉันเองก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าไม่ทำอย่างนั้น

(……มันแปลกมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมฉันถึงสับสนกับเรื่องทั้งหมดนี้แต่มันก็แค่ชั่วครู่เท่านั้น เฮ้โทวะนายทำบ้าอะไรไปเนี่ย?)

ฉันถามตัวเอง แต่แน่นอนว่าไม่มีคำตอบ

ในที่สุดเราก็รออยู่พักหนึ่งหลังจากนั้น แต่ชูก็ไม่กลับมา ฉันกับอายานะจึงตัดสินใจกลับบ้านก่อน

ขณะที่เราเดินออกไปที่ประตูหน้าและระหว่างทางกลับบ้าน ฉันเหลือบไปเห็นอายานะแต่เธอก็ดูเหมือนเดิม

“…….จั๊กๆ”

ฉันอดไม่ได้ที่จะเดาะลิ้น และหวังว่าอายานะจะไม่สังเกตเห็น

ตราบใดที่ฉันยังใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันในฐานะโทวะ ฉันไม่คิดเลยว่าการไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตจะน่าหงุดหงิดขนาดนี้

วิถีชีวิตของโทวะที่หลงเหลืออยู่ในร่างนี้และความทรงจำก็มีนิดเดียวเหมือนกัน และถ้าในโลกนี้มีพระเจ้านำทางฉันจริงๆ ฉันอยากจะถามเขาว่าเขากำลังมองหาอะไรในโลกนี้กันแน่

“……?”

ในขณะที่ฉันกำลังคิดเรื่องนี้ โทรศัพท์ในกระเป๋าของฉันก็สั่น

ฉันหยิบมันขึ้นมาดูพบว่ามีข้อความจากแม่บอกให้ฉันซื้ออาหารด้วยเพราะของในตู้เย็นเริ่มหมดแล้ว

“มีอะไรเหรอ?”

“โอ้ ข้อความจากแม่นะ”

ฉันแสดงข้อความของแม่ให้อายานะดู

เมื่อดูจากสถานการณ์แล้ว ดูเหมือนว่าฉันจะต้องแยกทางกับอายานะและมุ่งหน้าไปยังย่านการค้า และเนื่องจากฉันจะไม่ปฏิเสธคำขอของแม่ ฉันจึงจะไปที่นั่นในฐานะลูกที่แสนดีโดยเร็วที่สุด

“งั้นฉันจะไปซื้อของก่อนนะ”

“อา ได้สิ”

ฉันบอกลาและเริ่มเดินออกไป แต่อายานะก็อยู่ข้างๆฉัน

ฉันมองเธอและสงสัยว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า และเธอก็หัวเราะ

“ให้ฉันช่วยซื้อของนะ ฉันน่าจะรู้จักย่านการค้ามากกว่าโทวะคุง และฉันก็รู้ว่าในเวลานี้มีร้านค้าที่เนื้อและผักราคาถูกด้วย”

“อะ โอ้ ฉันเข้าใจแล้ว ……”

จากนั้นฉันก็เริ่มคิดว่ามันจะสะดวกกว่าถ้าอายานะไปกับฉันด้วย

ดีเหมือนกันที่อายานะอยู่ที่นี้ด้วย

ฉันกังวลเล็กน้อยว่าเราจะอยู่ด้วยกันได้ไหม เพราะภาพของอายานะก่อนหน้านี้ผ่านเข้ามาในความคิดของฉัน แต่สุดท้ายฉันก็พยักหน้า…หรือฉันถูกบังคับให้พยักหน้า

“ฉันจะช่วยเอง ให้ฉันช่วยนะ… ฉันอยากอยู่ด้วยกันต่ออีกหน่อย ไม่เป็นไรใช่ไหม…?”

“…ได้สิ”

ฉันจะปฏิเสธได้ไงเมื่อมีสาวสวยน่ารักคนหนึ่งพูดแบบนี้กับฉัน

ฉันไปที่ย่านการค้ากับอายานะและที่นั่น ฉันเห็นฉากหนึ่งที่ทำให้ฉันคิดว่าฉันดีใจที่มีเธออยู่ด้วย ที่นี้ฉันสามารถเห็นด้านที่เป็นแม่ศรีเรือนของเธอได้ ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณเรียก

“เนื้อนี้ยังสดอยู่เลย เราไปดูปลาตรงนั้นกันไหม? และดูเหมือนตอนนี้กะหล่ำปลีและผักกาดขาวกำลังลดราคาดังนั้นไปซื้อกันเถอะ”

อายานะคุ้นเคยกับย่านการค้าแห่งนี้เป็นอย่างดี

ฉันมองไปที่อายานะซึ่งกำลังใส่วัตถุดิบลงในตะกร้าช้อปปิ้งของเธอ ฉันคิดว่าเธอน่าทึ่งมาก

“…? มีอะไรเหรอ?”

“อืม… ฉันจะพูดยังไงดี ฉันคิดว่าเธอมีด้านที่ดูเป็นแม่ศรีเรือนจริงๆนะ”

“ฟุฟุ อย่างนั้นเหรอ♪”

หลังจากนั้นฉันก็เดินไปดูส่วนผสมโดยมีอายานะอยู่ข้างๆ

เป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานในการเรียนรู้และดูสิ่งต่างๆและวิธีเลือกของอย่างถูกต้อง แม้ว่าฉันจะไม่เคยคิดจะจำมันทั้งหมดก็ตาม

“การที่เราซื้อของด้วยกันแบบนี้ก็เหมือนคู่สามีภรรยาเลยนะ ฉันเป็นเจ้าสาวส่วนนายเป็นสามีของฉัน”

“สา…..”

หัวใจของฉันเต้นแรง

ฉันไม่คิดเลยว่าคำพูดของอายานะทำให้ฉันจินตนาการถึงเรื่องนั้น และฉันก็คิดว่ามันจะดีแค่ไหนถ้ามีอนาคตแบบนั้น

อายานะไม่ใช่แค่หน้าตาดีเท่านั้น แต่เธอยังเรียนหนังสือเก่งด้วย และเธอมีความกล้าหาญที่จะดูแลและปกป้องผู้อื่น เธอแสดงให้ฉันเห็นในห้องเรียน …… และมีด้านที่เป็นมิตรต่อครอบครัวซึ่งทำให้เธอเป็นคู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ

(…… ฉันเข้าใจแล้ว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงได้รับเลือกให้เป็นที่หนึ่งในแบบสำรวจความนิยม)

ถ้าจำไม่ผิด พวกเขาไม่ได้เจาะลึกเนื้อหาของเธอถึงเพียงนี้ แค่เธอมีองค์ประกอบทั้งหมดที่ผู้ชายต้องการ แค่นี้ก็ทำให้เธอโด่งดังได้แล้ว

แต่ตำแหน่งของเธอในเอโรเกะเป็นเพียงนางเอกที่นอกใจเท่านั้น แต่เธอมีความลับอื่นๆที่ทำให้เธอโด่งดังอยู่หรือเปล่านะ?

“…..”

เมื่อฉันกำลังจะคิดเรื่องนี้ฉันก็ปวดหัวเบาๆและสะดุดล้มลง

โชคดีที่อายานะไม่เห็นฉันในตอนที่ฉันเป็นในตอนนี้ และฉันรู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้ทำให้เธอกังวลโดยไม่จำเป็น

หลังจากนั้น การซื้อของก็เสร็จสิ้นโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น และฉันก็ไปส่งอายานะยังตำแหน่งที่ฉันสามารถเห็นบ้านของเธอได้

“ให้ฉันไปบ้านโทวะคุงอีกครั้งได้ไหม”

“…… ทำไมจะไม่ละ”

รอบๆนี้มืดแล้ว และไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กผู้หญิงที่จะเดินคนเดียว

นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมาที่นี่พร้อมกับเธอ แต่ฉันเริ่มคิดอะไรโดยไม่รู้ตัว

(…รู้สึกดีที่ได้อยู่เคียงข้างอายานะ ฉันไม่เข้าใจหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ทำไมฉันรู้สึกว่าอายานะสำคัญกับฉันมาก…?)

เดี๋ยวนะ ทำไมฉันเริ่มคิดแบบนั้นล่ะ

ฉันรู้สึกสับสนอีกครั้งกับความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยที่ดูเหมือนจะดึงฉันไปหาตัวตนของโทวะ แทนที่จะเปลี่ยนความรู้สึกของตัวเอง

(…โทวะ นายรู้สึกอย่างไงกับอายานะกันแน่? นายกำลังมองหาอะไรในตัวอายานะกัน?)

ขณะที่เดินไปกับอายานะฉันเอาแต่คิดถึงเรื่องนี้ เมื่อบ้านของอายานะใกล้เข้ามา หมายความว่าบ้านของชูซึ่งอาศัยอยู่ในละแวกนี้ก็ใกล้เข้ามาด้วยเช่นกัน

ฉันพาอายานะออกไปตอนกลางคืนแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสเล็กน้อย แต่ก็ไม่เหมาะที่จะบอกชูเกี่ยวกับเรื่องนี้

“เอาล่ะอายานะขอบคุณสำหรับวันนี้นะ”

“ไม่ มันเป็นสิ่งที่ฉันอยากทำ แต่… ฉันยังไม่อยากไปเลย”

“…”

ร่างของอายานะซึ่งสว่างไสวด้วยไฟตามท้องถนนดูน่าดึงดูดอย่างถึงที่สุด และถ้าหากเธอพูดแบบนั้นแล้วมองมาที่ฉัน ฉันก็หวั่นไหวเช่นกัน

เมื่อเรามองหน้ากันสักพัก ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง

“พี่อายานะ?”