“……โทวะกับอายานะกลับบ้านแล้วเหรอ?”

ฉันพึมพำกับตัวเอง ขณะที่ช่วยรุ่นพี่อิโอริที่ห้องสภานักเรียน

ปกติแล้วฉันจะกลับบ้านกับอายานะและโทวะ แต่เนื่องจากรุ่นพี่อิโอริเรียกฉัน ฉันจึงปฏิเสธเธอไม่ได้

“……ฮา”

“มีอะไรเหรอ?”

“ไม่ ไม่มีอะไร”

เธอสังเกตเห็นว่าฉันถอนหายใจ แต่ฉันพยายามปกปิดมันไว้

“………..”

การได้อยู่ในห้องสภานักเรียนกับรุ่นพี่อิโอริตามลำพังแบบนี้มันน่าตื่นเต้นมาก แต่อายานะเป็นที่หนึ่งในใจของฉันเสมอ

(……อายานะ)

สำหรับฉันอายานะเธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่สำคัญมาก

ฉันอยู่กับเธอตั้งแต่เด็กและความสัมพันธ์ของเราก็ดีมากเพราะเราอยู่ด้วยกันมานานจนเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว

[อายานะจัง!]

[ชูคุง!]

เมื่อเรายังเด็กเป็นเรื่องปกติที่เราจะเรียกชื่อกันและสนิทกัน และแม้แต่ตอนนี้เราก็ยังไปเยี่ยมบ้านกันและกันเหมือนกับครอบครัว

อายานะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของฉัน และการได้อยู่กับเธอคือความสุขที่สุดสำหรับฉัน

(ฉันจะ…คบกับอายานะอย่างแน่นอน)

มันน่าอายที่จะอธิบายเป็นคำพูด แต่ฉันมีสัญชาตญาณบางอย่างบอกให้ทำ

ตั้งแต่ฉันยังเด็กอายานะอยู่เคียงข้างฉัน และนั่นไม่เปลี่ยนแปลง แม้ตอนนี้ฉันจะเป็นนักเรียนมัธยมปลายปีสอง… เธอก็อยู่ข้างๆฉันเสมอ

[ชูและอายานะเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ]

[ใช่ ใช่! พี่ชายและอายานะ จะต้องแต่งงานกันแน่นอน!]

ฉันมักจะถูกแม่และน้องสาวของฉันบอกบ่อยๆ แต่ฉันบอกว่าให้หยุดพูดเรื่องนี้เพราะมันน่าอาย… แต่น้องสาวของฉันยังพูดถึงเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ

“……ฮ่าๆ”

ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อนึกถึงอายานะและครอบครัวของฉัน

รุ่นพี่อิโอริมองฉันแปลกๆ เมื่อจู่ๆฉันก็หัวเราะ แต่ฉันแค่ไอและแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไร

ฉันมีความสุขมากที่ได้ช่วยอิโอริและกลับไปที่ห้องเรียน

“…… ฮ่าฮ่า ฉันรู้ว่าพวกเขาคงไม่อยู่แล้วที่นี่….”

สองคนที่ฉันคิดว่ากำลังรอฉันอยู่อายานะและโทวะก็จากไปแล้วตามคาด

ฉันดูโทรศัพท์เพื่อความแน่ใจ และพบข้อความจากอายานะที่บอกว่าเธอกับโทวะจะกลับบ้านก่อน

“งั้นฉันคงต้องกลับบ้านบ้างแล้วละนะ”

ฉันออกจากโรงเรียนโดยสะพายกระเป๋าไว้บนหลัง

นานๆจะออกข้างนอกโรงเรียนคนเดียวแบบนี้ แต่บางทีก็คิดว่าวันแบบนี้ก็ไม่เลวนะ

อาจเป็นเพราะชีวิตประจำวันของฉันกับอายานะและโทวะนั้นธรรมดาเกินไปสำหรับฉัน

ฉันมีความสุขไม่เพียงแต่อยู่กับอายานะและโทวะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงครอบครัวของฉันด้วย

ใช่ ฉันมีความสุขมากกับครอบครัวของฉันเช่นกัน

ฉันมีแม่ น้องสาว และพ่อที่ทำงานไกลบ้าน

แม่ของฉันมักจะทำอาหารอร่อยๆ และทำข้าวกล่องให้ฉันเสมอ และแม่ก็ทำให้ฉันมีความสุขด้วยการชมเชยฉันแม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆที่ฉันทำ

[ชูคือความภาคภูมิใจและความสุขของครองครัวเรา เข้าใจไหม? ลูกเป็นเด็กดีและน่ารักจริงๆ แม่รักลูกนะ]

เมื่อแม่กอดฉันแบบนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยจริงๆ

แม่ดูเหมือนจะเข้าใจและสังเกตเห็นว่าฉันไม่สบายใจทันที… อืม ฉันเข้าใจว่าแม่เห็นคุณค่าในตัวฉันจริงๆ แน่นอน ไม่ใช่แค่แม่ของฉันแต่น้องสาวของฉันก็รักฉันด้วย

[โอนี่จัง สอนหนูหน่อยสิ!]

ฉันเรียนไม่เก่ง แต่น้องสาวของฉันที่อยู่มัธยมต้นก็ยังอยากเรียนกับฉัน… ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอเป็นน้องสาวของฉันหรือเปล่า แต่เธอชอบที่จะอยู่กับฉัน เธอสำคัญสำหรับฉันมากและเธอยังน่ารักอีกด้วย

“และพ่อของฉันก็คาดหวังว่าฉันจะอยู่เคียงข้างพวกเธอ”

ฉันมักจะคุยโทรศัพท์กับพ่อของฉันซึ่งเดินทางไปทำธุรกิจคนเดียว และเขามักจะบอกให้ฉันเป็นที่พึ่งพาของแม่และน้องสาวของฉัน

ฉันไม่คิดว่าฉันจะมาแทนที่พ่อของฉันได้ แต่เนื่องจากฉันเป็นผู้ชายคนเดียวที่เหลืออยู่ที่บ้าน ฉันจึงวางแผนที่จะปกป้องทั้งสองคนอย่างสุดความสามารถ

“แน่นอน ฉันจะปกป้องอายานะด้วย”

ในฐานะที่อายานะคอยอยู่เคียงข้างฉันในฐานะเพื่อนสมัยเด็ก ฉันก็จะปกป้องเธอเช่นกัน

เพราะเธอคือเพื่อนสมัยเด็กคนสำคัญของฉัน… เพราะเธอคือเพื่อนสมัยเด็กสุดที่รักของฉัน ฉันจะปกป้องเธอต่อไปจากนี้

“อายานะคอยช่วยเหลือฉันเสมอเมื่อฉันถูกรังแก”

ฉันเคยถูกคนอื่นอิจฉาเพราะอายานะตั้งแต่มัธยมต้น

บางครั้งฉันจึงถูกคนต่างๆคอยรังแก แต่ทุกครั้งอายานะจะปกป้องฉัน

“อ่า จริงด้วย โทวะก็ด้วย”

โทวะยังปกป้องฉันพร้อมกับอายานะ ฉันแน่ใจว่าเป็นเช่นนั้น

“โทวะช่วยได้มากจริงๆ”

ฉันสนใจโทวะมาก ซึ่งฉันรู้จักมานานเช่นเดียวกับอายานะ

ฉันหวังว่าฉันจะเป็นคนที่หล่อเหลา เอาใจใส่ และ…… เป็นคนที่อายานะจะไม่มีวันบ่นเมื่อฉันยืนข้างเธอ

[เฮ้ โทวะ ฉันต้องการให้นายเป็นกำลังใจให้อายานะกับฉัน]

นานมาแล้วฉันเคยบอกเขาและเขาก็พยักหน้า

ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงวางใจได้ว่าไม่มีอะไรระหว่างโทวะและอายานะและฉันรู้ว่า

โทวะจะอยู่เคียงข้างฉันตลอดไป

อาจเป็นเพราะฉันคิดมากเกินไปฉันจึงหยุดเดินแล้วอยู่กับที่เป็นเวลานาน

“อา”

ท้องของฉันปั่นป่วนไปหมด และฉันก็หัวเราะขณะรีบกลับบ้าน

ระหว่างทางกลับบ้าน ฉันได้ยินเสียงไซเรนของรถพยาบาล ราวกับว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่ไหนสักแห่ง และฉันก็เบนความสนใจไปทางนั้นโดยธรรมชาติ

“…..”

ฉันเกลียดเสียงไซเรนรถพยาบาล

ไม่ใช่เพราะเสียงน่ารำคาญ แต่เพราะมันทำให้ความทรงจำแย่ๆ ของฉันกลับคืนมา

[ชู!]

[…… เอ๊ะ?]

ฉันส่ายหัวและวิ่งตรงกลับบ้านทันที พยายามลืมความทรงจำที่เกือบจะกลับมาหาฉัน

เมื่อฉันกลับถึงบ้านและเดินผ่านประตูหน้า ฉันไม่สนใจสิ่งไม่พึงประสงค์ที่ฉันเกือบจะจำได้อีกต่อไป

“กลับมาแล้วครับ~!”

ดูเหมือนว่าน้องฉันจะยังไม่กลับบ้าน ซึ่งมันผิดปกติ เพราะฉันไม่เห็นน้องสาวของฉัน ซึ่งมักจะตอบกลับด้วยการพูดว่า “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน” ทุกที

“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ชู”

แม่ของฉันออกมาจากห้องนั่งเล่นราวกับว่ามาแทนน้องสาวของฉัน

เมื่อเธอเห็นฉัน เธอเดินเข้ามาหาฉันด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ และกดใบหน้าของฉันไว้ที่อกของเธอ

“เฮ้ แม่?

“ตอนนี้อย่าพยายามดึงออกนะ ในที่สุดลูกชายสุดที่รักของฉันก็ถึงบ้านแล้วและแม่ต้องการทำแบบนี้”

“……อย่างนั้นเหรอ?”

“ใช่♪”

มันน่าอายที่ทำแบบนี้กับนักเรียนม.ปลาย แต่เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นแม่ของฉัน ฉันจึงทำตามที่แม่บอก

“วันนี้มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า? ลูกกลับสายนะ ไปเดทกับอายานะมาเหรอ?”

“เปล่า วันนี้ผมทำงานกับประธานสภานักเรียน อายานะกลับบ้านมาก่อนแล้ว”

“โอ้จริงเหรอ? ฮ่าๆ ลูกแม่นี้เยี่ยมจริงๆ การช่วยงานประธานสภานักเรียนไม่ใช่งานเล็กๆนะ เก่งมาก”

มันไม่ใช่สิ่งที่ควรยกย่อง แต่ฉันยิ้มให้แม่ของฉัน โดยคิดว่ามันไม่ดีที่จะลดคุณค่าตัวเองมากเกินไป

“แม่เตรียมน้ำให้ลูกแล้ว ไปอาบน้ำเถอะ”

“ครับ”

หลังจากเก็บสัมภาระเข้าห้องแล้ว ฉันก็ไปอาบน้ำ

ขณะที่กำลังอาบน้ำอุ่น ฉันคิดอีกครั้งว่าฉันมีความสุขมากที่มีครอบครัวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้

นี่เป็นสิ่งที่ฉันคิดไว้ก่อนหน้านี้ แต่ฉันรู้สึกขอบคุณอย่างแท้จริงสำหรับชะตากรรมนี้

ในโลกที่มีครอบครัวหลายประเภท แน่นอนว่าฉันถูกล้อมไปด้วยครอบครัวที่ดีที่สุดและไม่ใช่เรื่องเกินจริง

แม่ที่ใจดี น้องสาวที่น่ารัก พ่อที่ไว้ใจได้… และเพื่อนสมัยเด็กที่ดีที่สุดของฉันที่อยู่เคียงข้างฉันเสมอ ในช่วงเวลาเช่นนี้ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวเอกของเกม และแก้มของฉันก็ผ่อนคลายอย่างเป็นธรรมชาติ

“แต่……”

อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งหนึ่งที่คาใจฉันอยู่

ฉันไม่แน่ใจว่าทำไมครอบครัวของฉันใจดีกับฉันมาก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขากลับมีปัญหากับโทวะ หรือมากกว่านั้น เมื่อฉันพูดถึงเขา พวกเขาทำหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

“……ฉันสงสัยว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น”

ฉันอยากให้เราเป็นเพื่อนกัน แต่ฉันคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะแก้ไขได้ง่ายเมื่อเราได้พูดคุยกันและเชื่อว่าสักวันหนึ่งพวกเธอจะเป็นเพื่อนกับโทวะได้เช่นกัน

“อายานะ โทวะและฉันอยู่ด้วยกันมาตลอด นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันหวังว่าเราทุกคนจะเป็นเพื่อนกันได้”

สักวันหนึ่ง… ถ้าฉันลงเอยด้วยการแต่งงานกับอายานะจริง ๆ สักวันหนึ่ง… ฉันยังคงหวังว่าโทวะจะพูดในงานแต่งงานของเราในฐานะเพื่อนของเราทั้งสอง

“ฮ่าฮ่า ฉันใจร้อนเกินไป แต่…ฉันหวังว่าอนาคตแบบนั้นจะมาถึง”

มันค่อนข้างน่าอายที่จะพูดด้วยตัวเอง แต่ไม่เป็นไรที่จะฝันกลางวันแบบนี้และไม่มีใครสามารถพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้

และผมเชื่อว่าอนาคตนี้จะมาถึงจริงๆ

[ชูคุง]

[ชู]

พอคิดถึงคนสองคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอด ผมอาบน้ำเสร็จกลับไปที่ห้องนั่งเล่นที่มีแม่รออยู่

——————————————————————————————————————————————————————————————————————————————————–

คุยท้ายตอน

สวัสดีครับ พ่อค้าร้านเต้าหู้ เองครับ ตอนแรกคิดว่าจะข้ามตอนนี้ดีไหมนะ? เพราะผมมีอคติกับไอชูเป็นการส่วนตัวเลยคิดว่าจะแปลออกมาแบบไม่ลำเอียงได้ไหมนะ? แต่พอกลับมาอ่านตอนนี้อีกทีทำให้รู้ว่ามีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอยู่ เพราะงั้นคงช่วยไม่ได้ที่เราต้องมาอ่านในมุมมองของไอชูบ้าง

อันนี้ของพูดส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่าการที่คนที่เราชอบไปคบกับเพื่อนเราตั้งๆที่เขายังไม่มีสถานะอะไรกับเราเลยมันไม่นับว่าเป็น NTR นะครับ

เอาละเรามาตามดูโศกนาฏกรรมของไอชูไปพร้อมๆกับดีกว่าครับ