ตอนที่ 1 หย่ากันเถอะ!
ยามเช้า ณ โรงแรมเฟิงหยุน เมืองเจียงไฮว
“หลินหนาน คนสารเลว!! นี่นายถึงกับกล้าไปมีอะไรกับผู้หญิงอื่นงั้นเหรอ? ลุกขึ้นมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้!”
ซู่..
เสียงน้ำเย็นจากถังขนาดใหญ่ ถูกนำมาสาดใส่ร่างของชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับไหลอยู่บนเตียงอย่างไม่ปราณี..
“ชิบหาย!! นี่น้ำท่วมเหรอ?”
ร่างของหลินหนานเปียกโชกไปด้วยน้ำเย็น จนต้องสะดุ้งตื่นขึ้นในทันที!
เขาเพิ่งจะฝันว่ากำลังวิ่งไล่จับสาวๆ สวยๆ ที่สวมใส่ชุดบีกินี่หลายคนอยู่ที่ชายหาดแห่งหนึ่ง
ท้องฟ้าในยามนี้เป็นสีฟ้าสดใส เมฆสีขาวลอยล่อง คลื่นที่ซัดสาดลูกแล้วลูกเล่าช่างคล้ายกับอารมณ์ของหลินหนานในเวลานี้อย่างมาก
เขาจับตัวสาวสวยในชุดบิกีนี่ได้สองคน แต่ละคนล้วนมีหน้าอกตูมๆ และเวลานี้เขาก็พร้อมที่จะเข้าสู่ช่วงเวลาดีๆกับพวกเธอแล้ว
แต่น้ำเย็นถังใหญ่นั้น ก็ได้กระชากวิญญาณของเขาออกจากฝันดี แล้วฝันทั้งหมดก็แตกสลายหายไปในพริบตาประหนึ่งฟองสบู่
หลินหนานยกมือขึ้นขยี้ตาด้วยความโมโห แต่ขณะที่กำลังจะอ้าปากกร่นด่า ก็เห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยสองคนกำลังยืนอยู่ตรงหน้าตน
สาวสวยรูปร่างสูงโปร่งยืนอยู่ด้านซ้ายมือของหญิงสาวอีกคนที่ตัวเล็กกว่า ทั้งคู่งดงามประหนึ่งดอกไม้แรกแย้ม..
หญิงสาวร่างสูงโปร่งสวมใส่เพียงแค่กางเกงยีนส์กับเสื้อยืดธรรมดาๆ แต่ก็สามารถเผยให้เห็นเรือนร่างและเรียวขายาว รูปร่างของเธอผู้นี้สามารถไปเป็นนางแบบได้อย่างสบายๆ
แต่เวลานี้หญิงสาวกลับมีท่าทางเกรี้ยวกราดมาก มือทั้งสองข้างเท้าสะเอว และกำลังถลึงตามองหลินหนานราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
หญิงสาวทางด้านซ้ายมือว่าสวยแล้ว แต่หญิงสาวที่อยู่ทางขวามือนั้นก็คงจะต้องเรียกว่านางฟ้า!
ใบหน้าเล็กๆของเธอนั้นมีขนาดเพียงแค่ฝ่ามือ คิ้วทั้งสองข้างโก่งดั่งคันสร ดวงตาทั้งสองเป็นประกายระยิบระยับราวกับน้ำในทะเลสาบ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีแดงระเรื่อนั้นเล็กจิ้มลิ้มยิ่งนัก โดยรวมแล้วหาที่ติแทบไม่ได้เลย
ชุดกระโปรงสีม่วงสดใสที่สวมใส่นั้น ก็งดงามเข้ารูปราวกับว่าออกแบบ และตัดมาเพื่อให้เข้ากับเรือนร่างงดงามที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างสมบูรณ์แบบนั่น
ภายใต้กระโปรงคือเรียวขาคู่งามที่ปกคลุมไว้ด้วยถุงน่องสีดำอีกที และเพียงแค่นั้นก็สามารถพิฆาตสายตาของหนุ่มๆจำนวนนับไม่ถ้วนได้แล้ว
เธอคนนี้เหมาะกับพูดที่ว่า.. ไม่มากไปและไม่น้อยไปจริงๆ!
นี่คือความงดงามที่พอดิบพอดี ประหนึ่งเป็นของขวัญจากผู้สร้างสรร!
แต่น่าเสียดายที่เวลานี้ดูเหมือนสาวสวยจะกำลังอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก ใบหน้าของเธอเย็นชาราวกับฉาบไว้ด้วยน้ำแข็ง กระแสเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมาจากเรือนร่างงดงามนั้นอย่างชัดเจน
สายตาที่จ้องมองหลินหนานนั้น บ่งบอกว่านอกจากเธอจะกำลังโมโหอย่างมากแล้ว เธอกำลังสาปแช่งเขาอยู่ด้วย!
เมื่อหลินหนานเห็นสาวสวยตรงหน้า เขาก็ถึงกับผงะทันที และเริ่มพูดจาไม่เป็นภาษา เวลานี้เขารู้สึกชาไปทั้งหน้าก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ และถามออกไปว่า
“เมียจ๋า.. ลมอะไรหอบคุณมาถึงที่นี่?”
“เมีย?!”
นี่ถ้าไม่มีคนนอกอยู่ด้วย หมอนี่ได้คางแตกไปแล้วแน่ๆ
หญิงสาวหน้าตาสะสวยผู้นี้ก็คือลูกสาวคนโตของตระกูลเย่ ซึ่งเป็นตระกูลโด่งดังที่สุดของเมืองเจียงไฮว
ทุกคนในเมืองเจียงไฮว ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเย่ชิงเฉิง เพราะเธอคือนักธุรกิจหญิงที่เก่งกาจที่สุด!
เรียกได้ว่าทั้งสวย และทั้งเก่งครบเครื่อง!
แทบไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น จิงเฉิงกรุ๊บก็ก่อตั้งขึ้นด้วยน้ำมือของเธอเอง และเวลานี้ก็ยังเป็นหนึ่งในร้อยองค์กรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในเมืองเจียงไฮว และยังได้รับรางวัลองค์กรดีเด่นอีกหลายด้านด้วย
และในอนาคตอันใกล้นี้ ชิงเฉิงกรุ๊บก็กำลังเตรียมตัวที่จะจดทะเบียนในตลาดหุ้น NASDAQ ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย เรียกได้ว่ากำลังรุ่งเรืองก้าวหน้าอย่างที่สุด
แต่ทั้งหมดนี้ จิงเฉิงใช้เวลาเพียงแค่สามปีเท่านั้น ก็สามารถนำพาบริษัทที่ตนสร้างขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงให้มาถึงจุดนี้ได้ โดยไม่ได้พึ่งพาใบบุญของตระกูลเย่เลยแม้แต่น้อย
นี่จึงเป็นเครื่องยืนยันความสามารถในด้านธุรกิจของเย่จิงฉิงได้เป็นอย่างดี!
ส่วนหญิงสาวที่กำลังยืนอยู่ข้างๆเย่จิงเฉิงนั้นก็คือเข่อเอ๋อ ลูกสาวคนที่สองของตระกูลเย่นั่นเอง
ลูกสาวคนที่สองของตระกูลเย่คนนี้ ไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจเลยแม้แต่น้อย แต่เธอมีความสามารถโดดเด่นในเรื่องของวรรณกรรมและศิลปะต่างๆ แม้จะยังเป็นแค่นักศึกษา แต่ก็ได้ถ่ายโฆษณาไปหลายตัว และยังได้รับบทเป็นตัวเอกในละครหลายๆเรื่องอีกด้วย
นอกจากนี้เธอยังได้รับข้อเสนอพิเศษจากมหาวิทยาลัยด้านดนตรีชื่อดังระดับต้นๆอย่าง อีสท์แมน สคูล ออฟ มิวสิค และยังได้เซ็นต์สัญญากับบริษัทนายหน้าแห่งหนึ่งในตำแหน่งของ ‘สตาร์เมคเกอร์’ อีกด้วย
เรียกได้ว่าเส้นทางแห่งดวงดาวของเข่อเอ๋อนั้นไร้ซึ่งอุปสรรค และมีแนวโน้มว่าเธอจะต้องกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน!
ด้วยเหตุนี้ พี่สาวและน้องสาวตระกูลเย่ทั้งสองคน จึงกลายเป็นจุดสนใจ และเป็นที่จับตามองของชายหนุ่มในวงสังคมชั้นสูง
ตรงข้ามกับหลินหนาน ซึ่งนอกจากจะไม่สูงมากแล้ว ยังไม่หล่ออีกด้วย มิหนำซ้ำยังดูเป็นคนขี้ขลาด แต่กลับกล้าเรียกเย่จิงเฉิงว่า ‘เมีย’ ต่อหน้าเธอ
เป็นเพียงแค่คางคก แต่ไม่ควรริอาจที่จะกินเนื้อหงส์เช่นนี้!
หากให้เหล่าทายาทรุ่นสองของผู้คนในเมืองเจียงไฮวมาได้ยินคำพูดนี้เข้า ทุกคนคงจะพากันกร่นด่าเขาจนจมกองน้ำลายตายแน่!
และไม่ผิดจากที่คาดคิด ทันทีที่เย่จิงเฉิงได้ยินหลินหนานเรียกเธอว่า ‘เมีย’ เช่นนั้น เย่จิงเฉิงก็รีบร้องขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจอย่างมาก
“ฉันเคยเตือนนายแล้วว่า ต่อหน้าคนนอกอย่าได้เรียกฉันแบบนี้!”
หืมม? คนนอก?
ก็ต้องหมายความว่า เรียกได้หากไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยน่ะสิ!
เช่นนี้ก็แปลว่า.. ผู้ชายคนนี้เป็นสามีของเธอจริงๆน่ะสิ?
หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปเข้าหูหนุ่มๆ ที่แอบรักเธออยู่แล้วล่ะก็ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะเสียอกเสียใจจนต้องไปกระโดดแม่น้ำไฮวตายหมดหรือไม่?
หลินหนานยิ้มขอโทษพร้อมกับตอบไปว่า “เมียจ๋า.. คุณไม่ต้องกังวลใจไป ที่นี่มีแต่คุณกับน้องสาวเท่านั้น ไม่มีคนนอกอยู่ด้วยสักหน่อย ผมเรียกคุณแบบนี้จะทำให้คุณเสื่อมเสียได้ยังไงกัน?”
“ใครบอกว่าไม่มีคนนอกล่ะ? หลินหนาน.. นายแหกตาดูซะก่อน! ใครที่นอนอยู่บนเตียงของนาย” เย่เข่อเอ๋อร้องคำรามเสียงดัง และดุราวกับสิงโต
“เตียงผม? ไม่มีใครสักหน่อย..” หลินหนานหันไปมองข้างๆตัว
แต่วินาทีนั้นเอง.. หลินหนานก็ถึงกับสะดุ้งตกใจ และแทบเป็นลมหมดสติ!
ซวยแล้ว!
แม่คนนี้มาอยู่บนเตียงของฉันได้ยังไงกันนะ?
แต่จะว่าไป.. เธอก็รูปร่างหน้าตาไม่เลวเลย ออกจะดูดีมากด้วยซ้ำไป ผมสีน้ำตาลหยิกเป็นรอนนั่น ทำให้ใบหน้าของเธอดูมีเสน่ห์อย่างมาก คล้ายๆปีศาจจิ้งจอกสาว
แต่เขาก็ให้คะแนนเธอความสวยเธอเต็มแปด เพราะหากเปรียบเทียบกับสองสาวสกุลเย่แล้ว เธอยังดูด้อยกว่าเล็กน้อย..
“คุณ.. นี่คุณเป็นใคร..” หลินหนานถึงกับอึ้งไป
หญิงสาวเอ่ยตอบพร้อมกับยิ้มอ่อนโยน “เมื่อคืนคุณก็ดูมีความสุขดีไม่ใช่เหรอ? อย่าบอกนะว่าพอตื่นขึ้นมาก็จะไม่ยอมรับ!”
“อะไรนะ..” หลินหนานอ้าปากค้าง
สาวสวยบนเตียงเลิกผ้าห่มขึ้นอย่างไม่รีบร้อน ก่อนจะลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้าโดยไม่สนใจสายตาทั้งสามคู่ที่กำลังจ้องมองอยู่..
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เธอก็หยิบกระเป๋าถือ แล้วหยิบแว่นตากันแดดขึ้นมาสวมใส่ ก่อนจะขยิบตาและส่งจูบให้หลินหนาน
“นี่.. พ่อสุดหล่อ เมื่อคืนวิทยายุทธของคุณยอดเยี่ยมมากเลย ไว้พบกันใหม่วันหลังนะ!”
จากนั้น หญิงสาวก็หันไปมองเข่อเอ๋ออย่างมีเลศนัย ก่อนจะเดินจากไปอย่างสง่างาม ปล่อยหลินหนานให้เผชิญพายุอยู่ตามลำพัง
“โอ้โห.. วิทยายุทธยอดเยี่ยม? ไว้พบกันใหม่? หลินหนาน นายอย่ามาแกล้งโง่หน่อยเลย!” เย่เข่อเอ๋อเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
“นี่!! ผมไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ อย่ามาพูดจาเพ้อเจ้อไร้สารุแบบนี้!” หลินหนานปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด
“อ่อ.. ถ้าไม่มีอะไรอย่างที่นายว่า ไหนลองบอกฉันหน่อย ผู้หญิงคนนั้นมาอยู่บนเตียงของนายได้ยังไง? เพียงแค่มองด้วยหางตาก็ดูออกแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ผู้หญิงดี เทียบกับพี่สาวของฉันไม่ได้สักอย่าง!” เย่เข่อเอ๋อยิงถามรัวใส่หลินหนานเป็นชุด
“ผม..” หลินหนานได้แต่อ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก
เขาหันไปมองเย่จิงเฉิงด้วยแววตาอ้อนวอน และหวังว่าเธอคงจะช่วยพูดอะไรแทนเขาบ้าง..
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า นอกจากเย่จิงเฉิงไม่แม้แต่จะปรายตามองเขาแล้ว เธอยังหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋าแผ่นหนึ่ง แล้วโยนใส่หน้าเขาอีกด้วย
“เซ็นต์ซะ!” เย่จิงเฉิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
“นี่มันอะไรกัน?” หลิงหนานยกมือขึ้นเกาศรีษะพร้อมกับเอ่ยถามออกไป
“หนังสือหย่า!”
← ตอนก่อน