ตอนที่ 3 ช่วยคน

ตอนที่ 3 ช่วยคน

หลังได้ยินเสียงเอะอะโวยวายแว่วมาแต่ไกล ทุกคนต่างมองไปข้างหน้า

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเสียงนั้น หน้าของเขาก็เปลี่ยนสีโดยพลัน รีบรุดไปทันที

ฉินมู่หลานก็จำได้เช่นกันว่าเสียงเมื่อครู่นี้เป็นของหลี่เสวี่ยเยี่ยน ดังนั้นเธอจึงรีบตามไปติด ๆ

ตอนที่เธอมาถึง เห็นเพียงหลี่เสวี่ยเยี่ยนกอดเซี่ยเจ๋ออวี่เอาไว้ร่ำไห้แทบขาดใจ ชาวบ้านที่มุงดูอยู่รอบ ๆ ต่างก็ทอดถอนใจอยู่ตรงนั้น

“เฮ้อ……เสี่ยวอวี่เจ้าเด็กคนนี้ยังเล็กอยู่เลย นึกไม่ถึงว่าจะด่วนจากไปแล้ว น่าสงสารจริง ๆ”

“ใช่แล้ว พลัดตกลงไปในน้ำขนาดนั้น พอช่วยขึ้นมาได้ก็ไร้ลมหายใจแล้ว”

เซี่ยเจ๋อหลี่รุดมาถึงข้างหน้าแล้ว “พี่สะใภ้ เร็วเข้า พวกเรารีบไปส่งเสี่ยวอวี่ที่โรงพยาบาลกันเถอะ”

“ใช่……ใช่……ไปโรงพยาบาล”

หลี่เสวี่ยเยี่ยนชาวาบไปทั้งตัว เมื่อได้ยินคำพูดของเซี่ยเจ๋อหลี่ หล่อนก็พยักหน้ารับโดยไม่รู้ตัว

ฉินมู่หลานเห็นสีหน้าซีดเซียวของเด็กแล้วก็รีบคว้าตัวเด็กออกมาวางให้นอนราบลงกับพื้น ตรวจดูภายในช่องปากเขา จากนั้นจึงเริ่มลงมือช่วยชีวิต

“ว้าย……เธอทำอะไร เธอจะทำอะไรกับเสี่ยวอวี่”

เมื่อเห็นการกระทำของฉินมู่หลาน หลี่เสวี่ยเยี่ยนถึงกลับมารู้สึกตัว พุ่งเข้าไปหาเธอราวกับคนเสียสติ

“เงียบซะ!”

ฉินมู่หลานพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ถ้าอยากให้ลูกของพี่รอดชีวิต ก็รอฉันอยู่นิ่ง ๆ”

เห็นฉินมู่หลานเป็นแบบนี้ หลี่เสวี่ยนพลันรู้สึกกลัวขึ้นมา แต่เมื่อหายตกใจก็เห็นฉินมู่หลานกำลังกดหน้าอกสลับกับจูบเสี่ยวอวี่ หล่อนตกตะลึงไปทันที เมื่อครู่นี้หล่อนคิดว่าฉินมู่หลานจะมีวิธีจจริง ๆ แต่ตอนนี้ดูแล้วฉินมู่หลานเชื่อถือไม่ได้สักนิด เธอทำแบบนี้จะช่วยเสี่ยวอวี่ได้อย่างไรกัน

“เธอหยุดเดี๋ยวนี้นะ”

หลี่เสวี่ยเยี่ยนพูดพลางจะพุ่งเข้าไปหาอีกครั้ง

เซี่ยเจ๋อหลี่รีบห้ามหลี่เสวี่ยเยี่ยนเอาไว้ “พี่สะใภ้ รอก่อนเถอะ”

เขาเห็นสีหน้าจริงจังของฉินมู่หลานและการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ก็เกิดความหวังเลือนรางขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

“ปล่อยพี่ เธอปล่อยพี่”

หลี่เสวี่ยเยี่ยนเห็นตนเองถูกดึงรั้งไว้ จึงดิ้นรนขัดขืนอย่างรุนแรง

เย่เสี่ยวเหอและคนอื่น ๆ ที่ตามมาทีหลังเห็นภาพนี้ ก็พูดจาเหน็บแนมขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “ฉินมู่หลาน เธอรีบหยุดมือเถอะ เสี่ยวอวี่หมดลมหายใจแล้ว เธอยังจะทำลายร่างกายเขาอีกหรือไง”

“นั่นสิ เธอรีบปล่อยเสี่ยวอวี่เร็วเข้า”

“ใช่แล้ว ๆ รีบหยุดเถอะ เธอคิดว่าเธอเป็นใครน่ะ จะเสกทำให้คนกลับมามีชีวิตได้หรือไง”

คนที่รายล้อมอยู่ตรงนั้นพากันพูดถากถางฉินมู่หลาน แต่ฉินมู่หลานไม่ได้หยุดมือ ช่วยชีวิตเด็กน้อยต่อไปอย่างมีระเบียบแบบแผน

“อึก…….”

จู่ ๆ เสี่ยวอวี่ก็สำลักน้ำออกมา จากนั้นก็ไอโขลกอย่างรุนแรง

ฉินมู่หลานเห็นดังนี้แล้วก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก จากนั้นจึงพลิกตัวเสี่ยวอวี่ ใช้มือข้างที่ว่างตบหลังเสี่ยวอวี่แรง ๆ

เสี่ยวอวี่สำลักน้ำออกมามากกว่าเดิม จากนั้นค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ปล่อยโฮออกมาเสียงดัง “ฮือ………”

เมื่อคนที่อยู่รอบ ๆ ได้ยินเสียงร้องไห้ พวกเขาต่างก็ตกใจ สุดท้ายไม่รู้ว่าใครเป็นคนเปิดปากขึ้น “ฟื้น……ฟื้นแล้ว……..”

หลี่เสวี่ยเยี่ยนเป็นคนแรกที่ตอบสนอง หล่อนขืนตัวหลุดจากมือของเซี่ยเจ๋อหลี่ รีบปรี่เข้าไปหาลูกชายของตัวเอง “เสี่ยวอวี่…….”

“ฮือ……แม่จ๋า…….”

เสี่ยวอวี่น้ำตาไหลพรากออกมา กอดหลี่เสวี่ยเยี่ยนไม่ยอมปล่อย

คนที่อยู่รอบ ๆ เห็นเสี่ยวอวี่ร้องไห้เสียงดังขนาดนี้แล้ว ก็พูดขึ้นมาอย่างอดไม่ไหว “ร้องไห้ได้ขนาดนี้ ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรแล้ว”

“ใช่แล้ว ร้องให้ออกมาได้คงดีขึ้นแล้ว”

ถึงตอนนี้ ทุกคนก็ตระหนักได้ว่าเมื่อครู่นี้ฉินมู่หลานกำลังช่วยคนจริงๆ

“นึกไม่ถึงว่านังหนูจากครอบครัวฉินจะเก่งกาจขนาดนี้ เมื่อครู่นี้เสี่ยวอวี่ไม่มีลมหายใจแล้ว กลับถูกหล่อนช่วยจนฟื้นขึ้นมาได้”

“ใช่แล้ว ๆ คิดไม่ถึงเลย ดูเหมือนผู้เฒ่าฉินจะมีคนสืบทอดแล้ว”

คนรอบด้านต่างพูดคุยกันอื้ออึงเซ็งแซ่ ฉินมู่หลานจึงถือโอกาสนี้ผลักความชอบให้ฉินอวิ๋นเหอ “ต้องขอบคุณคุณปู่ที่สอนฉันตั้งแต่เด็ก วันนี้ถึงช่วยเสี่ยวอวี่ไว้ได้ แต่โชคดีที่พบเสี่ยวอวี่เร็ว ถ้าช้ากว่านี้ไปสองสามนาที ถึงตอนนั้นก็ช่วยไม่ได้แล้ว”

ถึงเสี่ยวอวี่จะถูกช่วยจนฟื้นแล้ว แต่เมื่อครู่นี้ตอนที่ทุกคนไม่ทันสังเกต ฉินมู่หลานแอบจับชีพจรของเสี่ยวอวี่ดูแล้ว

เสี่ยวอวี่กำลังมีอาการหนาวสั่น แต่ตอนนี้เธอไม่มียาอยู่ในมือ ดังนั้นเธอจึงแนะนำให้หลี่เสวี่ยเยี่ยนส่งเด็กไปโรงพยาบาล

“พี่สะใภ้ พวกเราส่งเสี่ยวอวี่ไปตรวจที่โรงพยาบาลสักหน่อยเถอะค่ะ ดูว่ามีปัญหาอะไรอีกไหม”

ได้ยินคำพูดนี้ หลี่เสวี่ยเยี่ยนจึงรู้สึกตัว หันไปมองฉินมู่หลานอย่างซาบซึ้งใจแล้วพูดขึ้น “น้องสะใภ้ วันนี้ต้องขอบคุณเธอจริง ๆ ถ้าไม่มีเธอ เสี่ยวอวี่ของเราคง……”

จากนั้นหล่อนก็รีบปาดน้ำตาทิ้งโดยเร็ว พยักหน้าตอบตกลง “ได้ พวกเราไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เถอะ”

ก่อนหน้านี้หล่อนไม่ชอบฉินมู่หลานเป็นอย่างมาก คิดว่าการที่น้องสามีแต่งงานกับผู้หญิงพรรค์นี้ครอบครัวคงวุ่นวาย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเวลาที่หล่อนกำลังสิ้นหวังถึงที่สุด ฉินมู่หลานจะเป็นคนที่ลุกขึ้นมาช่วยลูกชายของหล่อน ทำให้หล่อนเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อน้องสะใภ้คนนี้ เหลือไว้แค่ความซาบซึ้งใจ

เซี่ยเจ๋อหลี่ที่อยู่ด้านข้างจดจ่อกับทุกความเคลื่อนไหวของฉินมู่หลานตั้งแต่ต้น ทั้งยังเห็นทุกขั้นตอนที่เธอช่วยคนเอาไว้ กำลังมองฉินมู่หลานอย่างไม่เชื่อสายตา เขานึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าฉินมู่หลานจะมีทักษะทางการแพทย์อย่างนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงเป็นห่วงหลานชายตัวน้อย จึงตัดสินใจส่งเขาไปยังโรงพยาบาล

อีกด้านหนึ่ง เหยาจิ้งจือและเซี่ยเจ๋อเหว่ยก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วเช่นกัน จึงรีบติดตามไป

เมื่อได้ยินว่าเสี่ยวอวี่ฟื้นแล้ว ทั้งสองคนต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เหยาจิ้งจือรู้ว่าพวกเขากำลังจะไปโรงพยาบาล จึงรีบพาเด็กน้อยกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน แล้วไปโรงพยาบาลด้วยกัน

เมื่อกลุ่มคนมาถึงโรงพยาบาล เซี่ยเจ๋อหลี่อธิบายสถานการณ์ให้หมอฟัง จากนั้นจึงขอให้หมอตรวจอาการให้เสี่ยวอวี่

หมอคนนั้นได้ยินว่าเสี่ยวอวี่ถูกช่วยเอาไว้ได้หลังจากจมน้ำและหมดลมหาย ก็รู้สึกประหลาดใจ “จริงหรือ เด็กหมดลมหายใจแล้วยังถูกช่วยจนฟื้นขึ้นมาหรือ?”

หลี่เสวี่ยเยี่ยนที่อยู่ข้าง ๆ รีบพยักหน้าเป็นพัลวันแล้วเอ่ย “ใช่ค่ะ น้องสะใภ้ของฉันเก่งกาจจริง ๆ”

แล้วหล่อนก็เล่าเรื่องที่ฉินมู่หลานช่วยลูกชายไว้อีกรอบหนึ่ง

“คุณเป็นคนช่วยชีวิตเด็กหรือ?”

หมอคนนั้นเห็นฉินมู่หลานยังเป็นเด็กสาว ก็ยังรู้สึกไม่เชื่อถือเท่าใดนัก

ฉินมู่หลานรีบยิ้มกว้างแล้วบอก “ตั้งแต่ยังเล็กฉันก็ได้เรียนรู้จากคุณปู่มาบ้าง คุณหมอ ตอนนี้พวกเรารีบตรวจเสี่ยวอวี่ให้แน่ใจเถอะค่ะ”

หมอได้ยินแบบนี้แล้ว ก็ไม่ถามอีกต่อไป เริ่มตรวจร่างกายของเสี่ยวอวี่

หลังจากผลตรวจทั้งหมดออกมาแล้ว คุณหมอคนนั้นก็แจ้งด้วยสีหน้าผ่อนคลาย “วางใจได้ เด็กคนนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ เพียงแค่เป็นหวัดเพราะตกน้ำเท่านั้น ผมจะเขียนใบสั่งยาแก้หวัดให้ก่อน พวกคุณกลับไปก็คอยสังเกตอาการเขาก็พอ”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ”

เซี่ยเจ๋อเหว่ยและหลี่เสวี่ยเยี่ยนรีบร้อนขอบคุณคุณหมอคนนั้น

หมอคนนั้นยิ้มแล้วโบกมือให้ จากนั้นชี้ไปที่ฉินมู่หลานแล้วพูดขึ้น “ถ้าพวกคุณอยากขอบคุณ ก็ควรขอบคุณหล่อน ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อนช่วยเด็กไว้ได้ทัน ผลที่ตามมาก็เอ่ยได้ยากแล้ว”

หลังจากพูดจบแล้ว เขาก็หันไปมองฉินมู่หลานอย่างครุ่นคิดก่อนจะถาม “สหายผู้นี้ ไม่รู้ว่าคุณจะช่วยสอนวิธีช่วยคนวิธีนั้นกับพวกเราได้หรือเปล่า อนาคตถ้าเราเจอสถานการณ์อย่างนี้อีก พวกเราจะได้ลองดู คุณวางใจเถอะ ถ้าวิธีนี้ได้ผลจริง ๆ ทางโรงพยาบาลของเราจะมอบธงเกียรติยศให้คุณ และเราจะให้รางวัลตอบแทนคุณเช่นกัน”

ฉินมู่หลานพยักหน้าตอบ “ได้แน่นอนค่ะ”

เธอหวังว่าจะมีคนได้เรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เป็นแบบนี้ก็จะช่วยคนได้อีกหลายคน

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

มันคือวิธีปฐมพยาบาลจ้า ไม่ต้องตกใจกันนะ

เริ่มชนะใจพี่สะใภ้แล้วสินะ สู้ๆ นะมู่หลาน

ไหหม่า(海馬)