3 ยูจีนสำรวจ

(งั้นตอนนี้…) (ยูจีน)

ผมมองขึ้นไปหอคอยที่สูงอย่างอุกอาจนั่นคือ {หอคอยสุดยอด บาเบล}

หอคอยมันใหญ่มากจนคุณแม้แต่ใส่เมืองเข้าไปข้างในได้ และมันพูดว่ามันสูงไปมากกว่า 1,000 ชั้น

แล่ความเป็นจริงคือไม่มีใครในประวัติศาตร์ที่ได้ไปถึงชั้นที่ 1,000

แน่นอน ว่านี่ไม่ใช่บางอย่างที่มนุษย์สร้างได้ มันเป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็นที่ฝึก สำหรับพระเจ้า หรือที่ที่ไว้ทำการทดสอบ

ถูกรู้จักอย่างมาก ว่าเป็น: ดันเจี้ยนสุดท้าย หอคอยสุดยอด บาเบล

มันเป็นหนึ่งในดันเจี้ยนที่แรงค์สูงที่สุดใจโลก ตั้งอยู่ตรงกลางของทวีปทิศใต้

โรงเรียนเวทมนตร์ที่เผมเข้า ไม่ แม้แต่ทั้งนครรัฐ ที่มีโรงเรียนอยู่เป็นแค่พื้นที่เสริมพิเศษสำหรับดันเจี้ยนสุดท้าย

หลายคนได้มารวมกัน คนหาสมบัติของดันเจี้ยนขนาดยักษ์ ร้านค้าตั้งอยู่ และเมืองโตขึ้นมารอบๆมัน

ขนาดของเมืองเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น และในท้ายที่สุดกลายเป็นนครรัฐ

นั่นคือการเกิดขึ้นมาของนครรัฐ คาหลิบ หรือรู้จักกันโดยเมืองดันเจี้ยน

ถ้าความผิดปรกติเกิดขึ้นในดันเจี้ยนสุดท้าย นักสำรวจที่อยู่กันในเมืองดันเจี้ยน มีหน้าที่ที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เหนือสิ่งอื่นใด

นักเรียนก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

ตอนนี้มีนักสำรวจหลายสิบคน อยู่ในพลาซ่าที่อยู่ทางเข้าดันเจี้ยน

(น้อยมาก…) (ยูจีน)

มีนักผจญภัยหลายพันในเขตโรงเรียน

มันดูเหมือนนักสำรวจแรงค์สูงไม่อยู่

ยังไงซะ นักสำรวจแรงค์สูง บ่อยครั้งนั้นทำการผจญภัยอยู่ ดังนั้นมันช่วยไม่ได้

แรงค์นักสำรวจของผมคือ D

นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าผมสำรวจคนเดียวได้

คนส่วนใหญ่ได้รวมกันที่นี่ ต้องเป็นแรงค์ D แน่

“ทุกคน ชั้นดีใจที่ได้เห็นพวกคุณรวมกันที่นี่!”

คนที่ส่งเสียงของพวกเขา นั้นเรียกว่าเจ้าหน้าที่ดันเจี้ยน

ส่วนใหญ่พวกเขาคอยดูหอคอยสุดยอดและช่วยผู้บาดเจ็บ ผู้รับใช้พลเมืองของเมือง

“{ผู้ทำลายดันเจี้ยน} ได้ปรากฏขึ้นในดันเจี้ยนสุดท้าย! นี่เป็นเรื่องฉุกเฉิน ทุกคน ตรวจระบบดาวเทียม!

นักสำรวจที่รวมกันที่นั่น ทั้งหมดมองอะไรที่ฉายอยู่ที่จอใหญ่ โดยไม่แม้แต่ต้องถูกบอก

และพวกเขาทั้งหมดทำสีหน้าที่ขมขื่น

ชั้น 5 ของดันเจี้ยนเป็น {ทะเลเพลิง}

(นั่นอะไรน่ะ…? ชั้นทั้งหมดตลอดจนถึงชั้น 9 ดังเดิมควรจะปกคลุมอยู่ในที่ราบที่เป็นหญ้าและบริเวณป่า…) (ยูจีน)

ดันเจี้ยนสุดท้าย มี 1,000 ชั้นรวมทั้งหมด ดังนั้นมันเป็นดันเจี้ยนที่ยักษ์สุดยอด และภาพเปลี่ยนไปเยอะทุกๆ 10 ชั้น

ผมได้ไปถึงชั้น 9 ด้วยตัวเอง

นั่นทำไมผมบอกได้ในการชำเลืองมองทีเดียว ว่าสภาพการเผาไหม้ของไฟ มันผิดปรกติมากแค่ไหน

“มันเป็นไปไม่ได้ที่ไฟระดับนี้ จะเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ! บางอย่างได้ก่อเพลิง! ตอนนี้เราพยายามที่จะดับไฟ แต่มันไม่แสดงสัญญานของการลดลง ชั้นอยากจะให้ทุกคนสืบสวนต้นกำเนิดของไฟนี้”

เจ้าหน้าที่ดันเจี้ยนประกาศรายละเอียด ของคำร้อง

“…เฮ้ย เฮ้ย อย่าไร้เหตุผลที่นี่สิ”

“…เราจะตาย”

“…เพราะทั้งหมดเกราะทนไฟมันแพงนะ”

ผมได้ยินเสียงกระซิบเหล่านั้น

นี่เป็นเหตุที่ความยากสูง สำหรับนักสำรวจแรงค์ต่ำ

“เราจะให้ยืมเสื้อคลุมกันไฟโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำให้แน่ใจที่จะพาอะไรก็ตามที่จำเป็น แล้วก็ คุณจะได้รับรางวัลในทอง ไม่ว่าผลของความร่วมมือในการสำรวจจะเป็นอย่างไร…”

ผมเข้าหาทางเข้าของดันเจี้ยนอย่างช้าๆ หลังจากที่ได้ยินคำนั้น

มีนักผจญภัยที่ลังเล และก็ยังมีคนที่รับเสื้อคลุมกันไฟ และเรียงแถว

บางคนเข้าหาผม

“ยูจีน! นายจะไปเหรอ?”

คนที่คุยกับผมเป็นลุงที่ผมคุ้นเคย ที่เป็นสมาชิกของเจ้าหน้าที่ดันเจี้ยน

“ใช่ มันจะดีกว่าถ้ารีบ ใช่มั้ยล่ะ?” (ยูจีน)

“นั่นจะช่วยได้เยอะเลย เสื้อคลุมกันไฟ…ไม่จะเป็นสำหรับนาย หือ ยูจีน”

“ไมจำเป็นครับ ผมแค่ต้องมุ่งหน้าออกไปเพื่อสำรวจ ใช่มั้ย?” (ยูจีน)

“นั่นใช่แล้ว โอเค ชั้นได้สมัครนายไปเป็นผู้เค้าร่วมแล้ว อ้า ใช่ เอานี่ไปด้วย แต่มันเป็นที่ใช้แล้วจากชั้นนะ”

ลุงมอบเส้อคุมกันไฟเยินๆให้ผม

“แต่ผมจะไม่ใช้มันนะ…” (ยูจีน)

“อย่างพูดอย่างนั้นเลยน่า นักสำรวจต้องเตรียมจัวก่อนและมากที่สุด แล้วก็ อาจจะมีคนที่ยังหนีไม่ได้ ดังนั้นรับมันไปเถอะ”

“เข้าใจแล้ว ขอบคุณครับ ลุง” (ยูจีน)

ผมขอบคุณเขาและเข้าสู่ชั้น 1 จากทางเข้า

ไม่มีอะไรที่เหนือจากความปรกติทีนี่

ผมมุ่งหน้าไปตรงกลาง แค่แบบนั้นเลย

ตรงกลางของดันเจี้ยน มีลิฟต์ตั้งอยู่ตรงนั้น

ลิฟต์ของดันเจี้ยน เป็นของตกทอดโบราณ

ไม่มีใครรู้ ว่ามันตั้งอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือมันทำงานอย่างไร

ทุกคนเพียงแค่ใช้มันเพราะมันสะดวก

มันเป็นลักษณะที่ลึกลับ ที่จะส่งไปถึงที่ที่ {ที่พวกเขาสามารถไปถึงได้ ด้วยความสามารถของตัวเอง}

ในนกรณีของผม มีมีแค่ปุ่มกดจนถึงชั้น 9

ผมกดปุ่มชั้น 5

ลิฟต์ดันเจี้ยนขึ้นไปอย่างช้าๆ และในท้ายที่สุดไปถึงชั้น 5

เมื่อประตูเปิดขึ้น ผมถูกต้อนรับโดยเพลิงที่โหมกระหน่ำ

บริเวณใกล้กับลิฟต์ มีบาเรียตังอยู่โดยดันเจี้ยน และไฟ ไปถึงไม่ได้

แต่ทุกอย่าง ถูกปกคลุม อยู่ในเพลิง

นักสำรวจหลายคนได้มาที่ชั้น 5 แล้ว…และยอมแพ้

“เฮ้ย…เราจะเข้าไปในเนี่ยนะ?”

“ชั้นไม่อยากไปอ่ะ…”

“แทบไม่เห็นอะไรเลย นายจะตอบสนองไม่ได้ ถ้ามอนสเตอร์โจมตีนาย”

“มีมอนสเตอร์ในชั้น 5 ที่ทนไฟนี้ได้เหรอ…?”

“ใครจะรู้ เพราะทั้งหมดเราเจอกับความผิดปรกติที่นี่”

ทุกคนหยุดอยู่กับที่ ไม่สามากเข้าไปสู่เพลิงที่คำรามอยู่

ขณะที่สำหรับผม ผมมุ่งหน้าไปทางที่เพลิงแรงที่สุด

“ฮ-เฮ้ย! นาย แล้วเสื้อคลุมกันไฟไปไหนอ่ะ?!”

“มันไม่เป็นไร ชั้นเป็นผู้ใช้บาเรีย” (ยูจีน)

“ม-ไมเอาน่า…แม้ว่านายเป็นผู้ใช้บาเรีย ดูเพลิงพวกนี้ซี่!”

“นั่นบุ่มบ่ามไปแล้ว! กลับมา!”

นักสำรวจรอบๆ กังวลเกี่ยวกับผม แต่ผมโบกมือข้างในไฟ และทำให้พวกเขาดูว่าไม่มีปัญหา

“””…”””

ดูเหมือนพวกเขาเข้าใจแล้วตอนนี้

ผมไปลึกเข้าไปในเพลิงที่โหมดกระหน่ำ

—เพลิงคำรามอย่างดุร้าย ขณะที่ผมเดินอยู่ข้างในมัน

ซากถ่านของต้นไม้พังทลายเหมือนทราย เมื่อผมเดินผ่าน

ผมไม่รู้สึกถึงความร้อน ต้องขอบคุณบาเรียรอบตัวผม

แม้ว่า ภาพของการถูกล้อมไปทุกด้าน โดยเพลิง มันไม่ใช่ทิวทัศน์ที่ผ่อนคลาย

มีโอกาส 8 ใน 10 ที่มอนสเตอร์ไฟได้สร้างไฟนี้

มอนสเตอร์ที่หิวโหย จากชั้นที่สูงกว่า น่าจะมาที่ชั้นที่ต่ำกว่า

เมื่อพูดอย่างนั้นแล้ว ผมไม่เคยได้ยินมอนสเตอร์ ที่ทำบางอย่างแบบนั้นได้ ภายใน 10 ชั้นแรก รวมไปถึงหัวหน้าของชั้นที่ 10…

ทันใดนั้น

*…ฮือ…ฮือ…ฮือ…*

ผมได้ยินเสียงบางๆ ของบางคน อยู่ภายในเสียงไฟที่ลั่น

(เสียงร้องไห้…ของสาวคนนึง?) (ยูจีน)

มันคือนักสำรวจ ที่ไม่สามารถจะหนีได้ ทันเวลาเหรอ?

ในเพลิงเนี่ยนะ?

แต่ผมคิดว่านี่ไม่ใช่เวลา มาร้องไห้นะ…

มันเป็นไปได้ สำหรับมอนสเตอร์ ที่จะเลียนแบบเสียงของมนุษย์ เพื่อล่อพวกเขาเข้าไปสู่กับดัก

ผมลดการป้องกันของผมที่นี่ไม่ได้

แต่เมื่อพูดอย่างนั้นแล้ว ผมไม่เคยได้ยิน มอนสเตอร์ของชั้น 5 ที่มีความฉลาดมากเท่านั้นมาก่อน

ถ้าอย่างนั้น มันแค่มนุษย์งั้นเหรอ?

หลายอย่างมันเข้าใจยากที่นี่

แต่ผมแค่ ไม่ไปไม่ได้

ผมเคลื่อนไหว ไปที่ที่เสียงมาอย่างระวัง

(…บางคนอยู่ที่นั่น) (ยูจีน)

ผมเห็นเงาของบางคน

ที่ตรงกลางของเพลิง

ที่ที่ไฟ เข้มข้นที่สุด

สาวหนึ่งคน ร้องไห้ที่นั่น {ระหว่างที่หลับอยู่}

แปลโดย: wayuwayu

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย